วันที่ 2 ส.ค. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากญาติพี่น้องของครอบครัว นายบุญมี เสงี่ยม หรือ เดี่ยว ผู้ได้รับบาดเจ็บ อายุ 36 ปี บอกว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในซอยบ้านสวนหลัวเพชร 11 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 64 เวลา 21.00 น.
โดยตอนแรกมีคนแจ้งเข้าไป 1669 ว่าเกิดอุบัติเหตุ มีคนขี่รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า กู้ชีพจึงประสานกู้ภัยให้เข้าไปตรวจสอบพบ นายเดี่ยว นอนอยู่กลางถนน หมดสติ ชีพจรอ่อนแรงแล้ว มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้า ไม่พบรถจักรยานยนต์ ก่อนจะประสานกู้ชีพให้มารับตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี
ต่อมาญาติของผู้เสียหายติดใจอาการบาดเจ็บว่า นายเดี่ยวได้รับบาดเจ็บแต่ที่ใบหน้าอย่างเดียว แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ทำไมไม่เห็นมีบาดแผลที่ร่างกายหรือส่วนอื่น จึงประสานมายังผู้สื่อข่าวให้ช่วยติดตามเรื่อง
ซึ่งอาการของนายเดี่ยว ล่าสุดไม่รู้สึกตัว สมองบวม ใส่ท่อหายใจ เลือดไหลในสมอง อาการเป็นตายเท่ากัน อยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ จึงสงสัยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากอุบัติเหตุจริงหรือไม่ ประกอบกับมีพยาน นายเบียร์ ในที่เกิดเหตุ บอกว่าไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นเหตุทำร้ายร่างกาย ผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความไว้กับ ร.ต.อ หญิง บุญสิตา หาสิน รอง.สว.สอบสวน.สภ.เมืองชลบุรี เรียบร้อยแล้ว
นายสุวัฒน์ เสงี่ยม หรือ เด่น อายุ 34 ปี น้องชายของนายเดี่ยว พร้อมกับนางสาววรรณพร สิงห์ราช แฟนสาว เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรีเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เปิดเผยว่า ตอนแรกตนเองได้รับแจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่อาการของพี่ชายตนเองนั้นสาเหตุดูแล้วไม่ใช่ ประกอบพยานในที่เกิดเหตุ พูดชัดเจนว่าถูกทำร้ายร่างกาย โดยผู้ต้องหาคือ นายหน่อง หลังเพชร หรือฉายา "บังทอง" กระทืบ เตะใบหน้าหลายครั้ง
ทางด้านผู้ต้องหาอ้างว่านายเดี่ยวปีนเกลียวมาขอซื้อยาเสพติด ก็เลยถูกทำร้ายร่างกายดังกล่าว
ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด นายเดี่ยว ผู้ได้รับบาดเจ็บ มากับนายเบียร์ ภรรยาของนายเบียร์ ลูกชายของนายเบียร์ มาคุยอยู่ทางเข้าห้องของผู้ต้องหา จากนั้นไม่นาน ผู้ต้องหาก็เตะผู้เสียหายจนล้มลงไปกับพื้น แล้วกระทืบแตะซ้ำอีกหลายครั้ง ผู้ได้รับบาดเจ็บสลบลงไปกับพื้น ก็ยังกระทืบไม่หยุด ถุยน้ำลายใส่หน้า ใช้รองเท้าตบเข้าไปใบหน้าหลายครั้ง
ส่วนความคืบหน้าของคดี ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบปากคำพยานที่เห็นการณ์ เพื่อรวบพยานหลักฐานดำเนินคดี แจ้งข้อกลับผู้ต้องหาต่อไป