พิษโควิดทำไร้ลูกค้า โชเฟอร์ขอลาแท็กซี่นับร้อยจอดทิ้งหญ้าขึ้น สหกรณ์ครวญแบกหนี้ไฟแนนซ์อ่วม (คลิป)

2 ส.ค. 64

กรณีนายกสมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย เข้ายื่นข้อเรียกร้องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะไม่มีผู้โดยสารและไม่มีรายได้

273831

ล่าสุดวันที่ 2 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นสำรวจความเดือดร้อนของเหล่าคนขับแท็กซี่ อย่างบริษัท “สหกรณ์บวรแท็กซี่” ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพุทธสาคร ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยทันทีที่ทีมข่าวมาถึง ก็พบว่ามีแท็กซี่ประมาณ 200 คัน จอดอยู่ด้านหลังของบริษัทเรียงกันเป็นแถว ซึ่งทุกคันเต็มไปด้วยเถาวัลย์เครือตำลึงที่ขึ้นมาปกคลุม เนื่องจากไม่ได้ใช้งานมาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี

892890

นายฐาปกรณ์ อัศวเลิศกุล อายุ 54 ปี ที่ปรึกษาสหกรณ์บวรและราชพฤกษ์แท็กซี่ เปิดเผยว่า แท็กซี่ที่จอดอยู่เป็นส่วนหนึ่งของแท็กซี่ที่โชเฟอร์ขอคืน โดยในพื้นที่ กทม. จะมีแท็กซี่ทั้งหมด 120,000 คัน ภายในเกือบ 2 ปีกว่า ๆ ที่โควิด-19 ระบาด คนขับคืนรถมากถึง 40,000 คัน ปัจจุบันเหลือที่ขับอยู่บนท้องถนนประมาณ 80,000 กว่าคัน ซึ่งรถคืนมานั้นจะกลายเป็นภาระของสหกรณ์ เพราะแต่ละคันยังเป็นหนี้ไฟแนนซ์สูงถึง 500,000-800,000 บาท ดังนั้นหากสหกรณ์ต้องจ่าย หมายความว่าจะต้องเสียเงินสูงกว่า 28,000,000,000

544525614527

โดยปกติแล้วแท็กซี่แต่ละคัน จะมีราคาอยู่ที่ 1.2 - 1.5 ล้านบาท อายุใช้งาน 8-9 ปี แต่ที่จอดอยู่นั้นเพิ่งจะใช้งานไปเพียง 1 ปีกว่า ๆ เท่านั้น ก็ต้องมาจอดแบบไร้ค่าอย่างที่เห็น ซึ่งหากจะประเมินราคาเมื่อต้องซ่อมแต่ละคันแล้ว ก็ตกอยู่ที่ประมาณ 80,000-100,000 บาท เพราะต้องซ่อมทั้งลูกปืน เกียร์ สายพานเกียร์ ลูกปืนล้อ ผ้าเบรก ยาง เครื่องยนต์ รวมไปถึงประกัน ค่าพ.ร.บ. การต่อภาษี 

275409

ในขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด-19 ในช่วงแรก ๆ สหกรณ์ก็ช่วยเหลือคนขับแท็กซี่อยู่ตลอด เช่น ชะลอการจ่ายค่าเช่ารถรายวัน หรือจะเป็นการให้ข้าวสารอาหารแห้งกับโชเฟอร์ที่ติดเชื้อโควิด-19 และต้องกักตัว 14 วัน 

นอกจากนี้ เหตุผลหลัก ๆ ที่คนขับแท็กซี่ต้องคืนรถ เป็นเพราะรายได้กับรายจ่ายสวนทางกัน บางคนตัดสินใจกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ไปทำไร่ทำนา ภาระทั้งหมดจึงตกอยู่ที่สหกรณ์ ทั้ง ๆ ที่ต้นเหตุเกิดจากโรคระบาด และไม่มีใครตั้งใจให้เกิดขึ้น มิใช่การบริหารของทีมสหกรณ์ล้มเหลว ตนจึงอยากจะวิงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นใจและเยียวยาเบื้องต้น เพราะขณะนี้ถึงทางตันแล้วจริง 

807399

1.อยากให้ไฟแนนซ์ ชะลอการชำระหนี้ โดยไม่คิดดอกเบี้ย

2.ขอความช่วยเหลือเรื่องข้าวสารอาหารแห้ง จากภาครัฐให้กับผู้ขับขี่แท็กซี่ เพราะหลายคนกินไข่จนจะขันเป็นไก่แล้ว

3.ขอให้มีการเยียวยาเป็นเงินในระยะยาว

4.ช่วยหารือเพื่อทางออกให้กับบริษัทต้นสังกัด ผู้ประกอบการ ที่แบกภาระไว้

5.อยากให้ภาครัฐกระจายวัคซีน ซึ่งมีคุณภาพมาให้กับคนขับแท็กซี่ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น คนขับกลัวผู้โดยสาร ในขณะที่ผู้โดยสารก็กลัวคนขับเช่นเดียวกัน สุดท้ายไม่มีใครใช้บริการ

592811

อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะเสนอทางออกให้กับภาครัฐว่า ตนยินดีที่จะให้ใช้รถแท็กซี่ที่จอดอยู่เฉย ๆ แบบนี้ฟรี ๆ ในจำนวน 500 คัน เพื่อที่จะให้ภาครัฐนำไปปรับใช้เป็นรถสำหรับรับส่งผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 หรือประสบปัญหาโควิด-19 แต่จะต้องจ้างคนขับเดือนละ 15,000 บาท ส่วนบริษัทเติมแก๊สขอให้เติมฟรีด้วย แม้สหกรณ์จะไม่มีรายได้จากข้อเสนอดังกล่าว แต่ตนหวังเพียงว่าคนขับจะมีรายได้เข้ามา

514928

นายสังวาลย์ โกศรี หรือ น้อย อายุ 43 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ที่ขับมานานกว่า 20 ปีแล้ว กล่าวว่า รายได้ปัจจุบันกับในอดีตก่อนจะมีสถานการณ์โควิด-19 หรือการล็อกดาวน์เข้ามา แตกต่างกันมาก ๆ เพราะรายได้ก่อนโควิด-19 จะได้วันละ 1,500 บาท เมื่อหักค่าเช่ารถวันละ 900 บาท หักค่าเติมแก๊สวันละ 250 บาท และหักค่ากินวันละ 50-100 บาท จะเหลือเก็บประมาณ 300 บาท

แต่เมื่อมีโรคโควิด-19 และภาครัฐประกาศล็อกดาวน์ รายได้เต็มที่วันละ 600 บาทเท่านั้น บางวันเหลือแค่ 400 บาท หักค่าเช่าวันละ 300 บาทที่อู่ลดให้แล้ว หักค่าเติมแก๊สวันละ 400 บาท ก็จะติดลบวันละ 100-200 บาท ในขณะที่มีภาระค่าใช้จ่ายจำเป็น ยังคงเท่าเดิม ค่าเช่าห้องเดือนละ 5,000 บาท ค่าอินเตอร์เน็ตลูกเรียนออนไลน์เดือนละ 599 บาท อาหารการกินในบ้านเดือนละ 6,000 บาท รวมแล้ว 11,600 บาท

แต่อย่างไรก็ตาม นายสังวาลย์ กล่าวยืนยันว่า ตนจะไม่ถอดใจอย่างแน่นอน เพราะถ้าหยุดวิ่งรถแท็กซี่ ก็เท่ากับอดตายทางเดียว อีกทั้งยังมีอีก 3 ชีวิตที่ยังรอคอยตนกลับบ้านทุกวัน ทั้งภรรยา อายุ 45 ปี ที่เดิมทีเป็นพนักงานร้านหมูกระทะ แต่ร้านโดนปิดแบบไม่มีกำหนด เพราะสถานการณ์โควิด-19 ตอนนี้จึงตกงาน กลายเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก 2 คน ที่อยู่ในวัยกำลังโต ลูกชาย อายุ 10 ขวบ และลูกสาว อายุ 13 ขวบ ทำให้ทุกครั้งที่ตนมองแววตาของทั้ง 3 คน ก็อดน้ำตาไหลไม่ได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส