สธ. แถลงเกณฑ์ฉีด ไฟเซอร์ ให้บุคลากรแพทย์ ครอบคลุมถึงผู้ที่ไม่เคยได้ฉีดสักเข็ม

สธ. แถลง การจัดสรรวัคซีน ไฟเซอร์ โดยมีการปรับเกณฑ์ใหม่ หากเป็นผู้ที่ไม่เคยได้วัคซีนใดๆ มาก่อนเลย จะได้ ฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์

อ้างอิงข้อมูลจากวันที่ 1 สิงหาคม กรณี มติคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เรื่อง "คําแนะนําการให้วัคซีนโควิด 19 ของ Pfizer ในบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข" คําแนะนําแนวทางการให้วัคซีน ไฟเซอร์ จํานวน 700,000 โดส
กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกคนที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงานทั่วประเทศ รวมทั้งนักศึกษาและ เจ้าหน้าที่ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงาน โดยมีหลักการให้วัคซีนดังนี้

1.ผู้ที่ได้รับวัคซีน ซิโนแวค หรือ ซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็ม พิจารณาให้วัคซีน ไฟเซอร์ กระตุ้น 1 เข็ม โดยเสนอจัดสรรให้ 600,000 โดส

2.ที่ได้รับวัคซีนใดๆ มาแล้วเพียง 1 เข็ม พิจารณาให้วัคซีน ไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 2 โดยกําหนดระยะห่างระหว่างโดสตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก โดยเสนอให้จัดสรรให้ 50,000 โดส

3.ผู้ที่ไม่เคยได้วัคซีนใดๆ มาก่อน พิจารณาให้วัคซีน ไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ โดยจัดสรรให้ 47.700 โดส (23,850 คน คนละ 2 เข็ม)

4.ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดและไม่เคยได้วัคซีนมาก่อน พิจารณาให้วัคซีน ไฟเซอร์ 1 เข็ม โดยมีระยะห่างจากวันที่พบการติดเชื้ออย่างน้อย 1 เดือน จัดสรรให้ 2,300 โดส

ทั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เคยได้รับวัคซีนดังต่อไปนี้

1.วัคซีน ซิโนแวค เข็มแรกและวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 หรือ

2.วัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม หรือ

3.วัคซีน ซิโนแวค 2 เข็ม และได้รับเข็มกระตุ้นด้วย แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม

คณะอนุกรรมการฯ พิจารณา ขณะนี้ยังไม่แนะนําให้วัคซีน ไฟเซอร์ เป็นเข็มกระตุ้น เพราะบุคลากรดังกล่าวยังมีภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับที่สูง เพียงพอเนื่องจากเพิ่งฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตาม บุคลากรกลุ่มนี้ให้ขึ้นทะเบียนรายชื่อไว้ และจะมีการพิจารณาข้อมูลวิชาการ และดําเนินการให้วัคซีน ไฟเซอร์ ตามข้อมูลวิชาการและจํานวนวัคซีนที่จะเข้ามาเพิ่มในระยะต่อไป

ล่าสุดวันนี้ 2 ส.ค.2564 กระทรวงสาธารณสุข ประกาศปรับเกณฑ์วัคซีน ไฟเซอร์ ในเข็ม 3 ใหม่ โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุม ย้ำว่า ไฟเซอร์ ที่ได้รับบริจาคมาจากสหรัฐฯ นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 1,503,450 โดส ซึ่งเป็นตัวเลขที่แถลงผ่านทางสถานทูตสหรัฐฯ และกระทรวงสาธารณสุขยืนยันตัวเลขดังกล่าว

นพ.โอภาส กล่าวว่า จากการพิจารณาพบว่า บุคลากร 3 กลุ่มที่ได้รับวัคซีนแล้ว ยังคงมีภูมิคุ้มกันที่มากพอ ต่อการป้องกัน COVID-19 โดยจะมีให้การลงทะเบียนเอาไว้ก่อน ก่อนจะมีการพิจารณาข้อมูลทางวิชาการ และดำเนินการฉีดไฟเซอร์ตามข้อมูลวิชาการ และวัคซีนที่จะมีเข้ามาเพิ่มเติม ในระยะต่อไป

นพ.โอภาส ย้ำว่า วัคซีน 1.5 ล้านโดส ยังไม่ถูกกระจายออกไปจากคลังเก็บ ทั้งนี้ ข่าวลือว่ามีการแบ่ง ไฟเซอร์ ไปฉีดให้แก่ VVIP ไม่เป็นความจริง นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้วว่า วัคซีน ไฟเซอร์ จำนวน 700,000 โดส เพียงพอต่อบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขแล้ว โดยถ้าอนาคตมีการขาดเหลืออย่างไร จะมีการพิจารณาต่อไป