เขยคลั่งชี้จุดฆ่าล้างโคตรเมีย 2 ศพ ญาติเดือดตำรวจซุ่มทำแผนอดประชาทัณฑ์ (คลิป)

จากกรณี เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 29 ก.ค. 64 ร.ต.อ.วิโรจน์ เกตุดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ตะคร้อ รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่บ้าน ม.2 ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยไพศาลี

ที่เกิดเหตุพบศพ นางมานพ แก้วคำ อายุ 47 ปี ลูกสาว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ และด้านหลัง นอนเสียชีวิตใต้ถุนบ้าน ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นบ้านปลูกติดกันอีกหลังพบศพ นายทวย พุทธรักษา อายุ 70 ปี พ่อ ถูกยิงเข้าที่ท้ายทอยทะลุหน้าผาก นอนเสียชีวิตคาบันได ส่วนบนบ้านยังพบผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือนางนิตย์ พุทธรักษา อายุ 68 ปี แม่ ถูกยิงที่มือขวาฝั่งที่ใช้บังกระสุน ซึ่งกระสุนทะลุเข้าที่เบ้าตาขวา กระสุนฝังใน บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ รีบนำตัวส่ง รพ.ไพศาลี

ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายจันทวงษ์ แก้วคำ หรือ เนตร อายุ 47 ปี เป็นสามีของนางมานพ ผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืน ตกเกลื่อนพื้นที่ในที่เกิดเหตุ ล่าสุด วันที่ 30 ก.ค.เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ตะคร้อ สามารถจับมือปืนได้เนื่องจาก หลังผู้ก่อเหตุขับขี่รถหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แต่เกิดเปลี่ยนใจ ไม่อยากหลบหนีต่อ จึงได้ให้ญาติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอมอบตัว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รวบเขยหึงโหดฉุนเมียกลับบ้านช้า ลากปืนยิงล้างโคตร สลดตั้งโลงพ่อลูกเคียงคู่ แม่ยายยังโคม่า

วันที่ 31 กค.64 ทีมข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ หมู่ 2 บ้านวังกระโดนน้อย ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์คุมตัวนายจันทะวงศ์ หรือ เนตร แก้วคำ อายุ 47 ปี ผู้ก่อเหตุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังบ้านจุดเกิดเหตุ

ขณะทำแผน นายจันทะวงศ์ได้สารภาพว่า ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาของตัวเองก่อน หลังจากนั้น ก็ได้เดินไปยังบ้านของพ่อตาและแม่ยาย ที่อยู่หลังติดกัน ใช้อาวุธปืนยิงพ่อตาเสียชีวิตคาบันได ก่อนเดินเข้าไปในบ้านยิงแม่ยาย หลบหนีออกทางหลังบ้านไป ในขณะทำแผน ได้มีเพื่อบ้านและประชาชนมุงดู 40-50 คน หลายคนบอกว่าโล่งใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวนายจันทะวงศ์ ไปฝากขังที่ศาล จ.นครสวรรค์ สอบปากคำอีกครั้ง เนื่องจากยังขาดพยานหลักฐานอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ที่เจ้าหน้าที่ยังหาไม่พบ

ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของแม่ผู้ก่อเหตุ ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ นางพึง แหงเทพ อายุ 69 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ เผยว่า หลังลูกชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวแล้ว ตนก็ยังไม่ได้ไปเยี่ยมลูก เนื่องจากตนร่างกายไม่แข็งแรง เดินไม่ไหว เพราะป่วยเป็นมะเร็งปากหมดลูก แต่ก่อนที่ลูกชายจะมอบตัว ตนทราบว่าช่วงคำวานนี้ ลูกชายได้โทรศัพท์ติดต่อมายังคนในครอบครัวว่าจะขอมอบตัว กระทั่งมีการประสานติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางไปควบคุมตัวลูกชายมาดำเนินคดี

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะคนเป็นแม่ก็รู้สึกเสียใจที่ลูกมาตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว พร้อมทั้งอยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต สำหรับการกระทำของลูกที่ได้ทำลงไป ปมเหตุที่เกิดขึ้นตนยืนยันว่าตั้งแต่เลี้ยงลูกมา ลูกชายเป็นคนดี กระทั่งมามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ตั้งแต่หันมาดื่มสุราเสพยาม้า จนกลายเป็นคนที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ส่วนเรื่องคดีหลังจากนี้ ตนคงไม่มีเงินจะไปช่วยเหลือประกันตัว ขอปล่อยให้ตำรวจดำเนินคดีกับลูกชายตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามความผิดที่ได้ก่อไว้

ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดวังกระโดนน้อย ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ สถานที่จัดสวดอภิธรรมศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ เมื่อไปถึงพบว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ในวันพรุ่งนี้ 1 ส.ค. 64 จะเป็นการฌาปนกิจศพของนางมานพ แก้วคำ ภรรยาผู้ก่อเหตุ เป็นศพแรกก่อน หลังจากนั้นก็จะเป็นการฌาปนกิจศพของนายทวย พ่อตาผู้ก่อเหตุ ในวันที่ 2 ส.ค. 64 เนื่องจากเมรุเผาใช้ได้ครั้งละศพ

นายทิพย์ พระพุทธรักษา อายุ 55 ปี น้องชายของพ่อตาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ก่อเหตุมาแอบทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านจุดเกิดเหตุ ไม่ได้บอกให้คนในครอบครัวทราบ เนื่องจากเกรงว่าทางครอบครัวที่อยู่ในงานศพจะเดินทางไปรอรุมประชาทัณฑ์ คนในครอบครัวจึงไม่มีใครได้อยู่ดูการทำแผนฯ ในส่วนนี่ตนก็รู้สึกเคืองใจ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่แจ้งให้ทราบ เพราะส่วนตัวตนก็แค้นในการกระทำของผู้ก่อเหตุ

จากการสอบถามชาวบ้านที่ทันได้ไปดูก็เล่าให้ฟังว่า ขณะทำแผนผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้มีทีท่าเสียใจหรือสลดใจกับการกระทำ เพียงแค่ต้องมาทำหน้าที่สารภาพชี้จุดยิงเท่านั้น

สำหรับปมเหตุที่เกิดขึ้น หลังเกิดเรื่องผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้บอกว่าที่ตัดสินใจลงมือก่อเหตุเป็นเพราะอะไร แต่ในความรู้สึกของคนในครอบครัวเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความหึงหวง เพราะผู้ก่อเหตุเป็นคนที่หึงหวงหลานสาวของตนมาก มักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการเสพยาเสพติด จนประสาทหลอนและเกิดอาการคลั่ง ส่วนตัวตนก็รู้สึกเสียใจ ที่ผู้ก่อเหตุมาทำร้ายคนในครอบครัวตนจนเสียชีวิตเหมือนหมูเหมือนหมาแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุตให้ถึงที่สุด เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้พ้นคุกออกมา เพราะเชื่อว่าหากผู้ก่อเหตุออกมาได้ ก็จะต้องไปก่อเหตุในลักษณะนี้ซ้ำอีก หวั่นว่าคนในครอบครัวคนอื่น ๆ จะได้รับอันตรายอีก ทั้งนี้ ตนก็ไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ก่อเหตุ นอกจากอยากบอกว่า "แค้น" และขอยืนยันว่าจะไม่มีวันให้อภัย ไม่ต้องการให้ผู้ก่อเหตุมาทำการขอขมาศพ หรือขอโทษ ผู้เสียชีวิตและคนในครอบครัว

ขณะนี้ นางนิด พุทธรักษา ภรรยาของผู้เสียชีวิต ที่ถูกผู้ก่อเหตุยิงด้วยปืนขนาด .32 เข้าโหนกแก้มอาการสาหัส ก็อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ครอบครัวก็ยังมีความกังวลในเรื่องของการผ่ากระสุนปืนออก เนื่องจากนางนิดอายุมากแล้ว เกรงว่าจะทนไม่ไหว ส่วนเรื่องบ้านจุดเกิดเหตุ หลังจากเสร็จสิ้นงานศพทางครอบครัวก็ต้องพูดคุยกันอีกครั้งในเรื่องของการทำบุญ เนื่องจากเชื่อว่าวิญญาณของผู้เสียชีวิตยังคงวนเวียนอยู่ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้คนในครอบครัวทราบว่าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ก็เกิดมีลมพัดแรงขึ้น นอกจากนี้ ช่วงกลางดึกวานนี้ในขณะที่หลานสาวนอนอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงลักษณะเหมือนนายทวยไอขึ้นมาด้วย เชื่อว่าวิญญาณของผู้เสียชีวิตคงจะยังอยู่และรับรู้ได้