รวบเขยหึงโหดฉุนเมียกลับบ้านช้า ลากปืนยิงล้างโคตร สลดตั้งโลงพ่อลูกเคียงคู่ แม่ยายยังโคม่า (คลิป)

30 ก.ค. 64

จากกรณี เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 29 ก.ค. 64 ร.ต.อ.วิโรจน์ เกตุดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ตะคร้อ รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่บ้าน ม.2 ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยไพศาลี

518505923694

ที่เกิดเหตุพบศพ นางมานพ แก้วคำ อายุ 47 ปี ลูกสาว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ และด้านหลัง นอนเสียชีวิตใต้ถุนบ้าน ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นบ้านปลูกติดกันอีกหลังพบศพ นายทวย พุทธรักษา อายุ 70 ปี พ่อ ถูกยิงเข้าที่ท้ายทอยทะลุหน้าผาก นอนเสียชีวิตคาบันได

406433

ส่วนบนบ้านยังพบผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือนางนิตย์ พุทธรักษา อายุ 68 ปี แม่ ถูกยิงที่มือขวาฝั่งที่ใช้บังกระสุน ซึ่งกระสุนทะลุเข้าที่เบ้าตาขวา กระสุนฝังใน บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ รีบนำตัวส่ง รพ.ไพศาลี

403162584641813723

ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายจันทวงษ์ แก้วคำ หรือ เนตร อายุ 47 ปี เป็นสามีของนางมานพ ผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน 2628 นครสวรรค์ หลบหนีไป นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืน ตกเกลื่อนพื้นที่ในที่เกิดเหตุ

829296

ล่าสุด วันที่ 30 ก.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านจุดเกิดเหตุ เป็นบ้านที่มีรั้วรอบขอบ และประตูทางเข้าด้านหน้าเป็นรั้วสีฟ้า วันนี้ยังคงมีเส้นโพลิสไลน์สีเหลือง ปิดกั้นพื้นที่เอาไว้อยู่ โดยยังไม่อนุญาตให้ญาติหรือคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในบ้าน ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการแกะรอยหาเบาะแสของ นายจันทวงษ์ แก้วคำ หรือ เนตร คนก่อเหตุ เพราะชุดสืบสวนสืบทราบมาว่า หลังจากที่เจ้าตัวก่อเหตุหลบหนี ได้ย้อนกลับมาที่บ้านเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เพื่อมาทำลายหลักฐานบางอย่าง ก่อนที่จะขับรถหลบหนีออกจากพื้นที่ไปอีกครั้ง

295443

ลักษณะบ้านหลังดังกล่าวจะมีบ้านไม้สีส้ม 2 ชั้น อยู่บริเวณโซนด้านหน้า เป็นบ้านของนางมานพ แก้วคำ อายุ 47 ปี ภรรยา อาศัยอยู่กับ นายจันทวงษ์ อายุ 47 ปี คนก่อเหตุ และยังมีหลานสาววัย 4 ขวบ เป็นลูกของลูกคนก่อเหตุ อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังดังกล่าว ขณะที่บ้านไม้เก่า หลังข้างในสุด สีน้ำตาลเข้ม เป็นบ้านที่นายทวย พุทธรักษา อายุ 70 ปี อาศัยอยู่กับนางนิตย์ พุทธรักษา อายุ 68 ปี

931872

นายเทพ (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 19.00 น. นายจันทวงษ์ คนก่อเหตุ กลับจากไปธุระข้างนอก เมื่อมาถึงบ้านที่เกิดเหตุ ได้ตะโกนตามหานางมานพ ภรรยา ซึ่งพบว่า ภรรยาไม่อาศัยอยู่ที่บ้าน จึงได้ไปตะโกนถามที่บ้านของพ่อตาแม่ยาย แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าตัวของนางมานพไปไหน จากนั้นนายจันทวงษ์จึงได้โทรศัพท์ไปหาภรรยา ซึ่งตอนนั้นทราบว่าภรรยาไปนั่งอยู่ที่ร้านขายของชำเป็นบ้านของเครือญาติ อยู่ไม่ไกลจากบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อภรรยาของคนก่อเหตุมาถึงที่บ้าน ทั้งคู่ก็ทะเลาะมีปากเสียงกันเนื่องจากนายจันทวงษ์เกิดอาการหึงหวง คิดว่าภรรยาของตัวเองไปบ้านของผู้ชายอื่น คนละแวกแถวบ้านก็ไม่มีใครเอะใจ เพราะทั้งคู่มักจะทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง

cg-1cg-2

หลังจากที่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเงียบไปพักใหญ่ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แต่ก็ไม่มีญาติหรือคนในละแวกนี้กล้าเข้าไปดู เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตราย แต่การก่อเหตุครั้งนี้นอกจากจะยิงภรรยาของตัวเองตายที่ใต้ถุนบ้านสีส้มหลังหน้าแล้ว ยังขึ้นไปที่บ้านไม้สีน้ำตาลเก่าด้านหลัง มีพ่อตาและแม่ยายอาศัยอยู่ ไปก่อเหตุยิงแม่ยายที่หน้าโทรทัศน์ และเมื่อพ่อตาเห็นท่าไม่ดีวิ่งหลบหนีลงจากตัวบ้าน มาถึงที่บันได ก็ถูกยิงจากด้านหลัง ล้มลงนอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ที่บันได

cg-3cg-4

ตัวของนายจันทวงษ์หลังก่อเหตุเสร็จแล้ว ได้นำน้องอะตอม วัย 4 ขวบ มาฝากไว้ที่ญาติที่อยู่บ้านใกล้กัน พร้อมกับพูดคำ "ผมขอโทษ" ก่อนที่จะหลบหนีไป ตอนนี้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงก็อยู่ในอาการหวาดผวา เพราะเนื่องจากพฤติกรรมของคนก่อเหตุ เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด และมักเมาเหล้า ทำให้เกิดอาการหลอนและคิดไปเอง กลัวว่าปืนที่นำติดตัวออกไปจะย้อนกลับมาก่อเหตุกับเพื่อนบ้านหรือคนละแวกใกล้เคียง อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวจับกุมโดยเร็ว

151585

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา ญาติของคนตายได้เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลไพศาลี จ.นครสวรรค์ ซึ่งไปรับศพของ นางมานพ แก้วคำ อายุ 47 ปี ภรรยาคนก่อเหตุ และนายทวย พุทธรักษา อายุ 70 ปี พ่อ มาประกอบพิธีรดน้ำศพภายในศาลาวัดวังกระโดนน้อย โดยมีการตั้งศพคู่กัน เพื่อให้ญาติและชาวบ้านได้ร่วมกันรถน้ำศพ สังเกตว่ามีเครือญาติ และลูกหลานอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ

264703

หลังจากมีการรดน้ำศพเสร็จแล้ว มีการตั้งโลงศพคู่กัน เพื่อจะมีการประกอบพิธีทางศาสนา ขณะที่นางนิตย์ พุทธรักษา อายุ 68 ปี ถูกยิงที่มือขวาฝั่งที่ใช้บังกระสุน บาดเจ็บสาหัส ยังอยู่ภายในห้องไอซียูของโรงพยาบาลไพศาลี อาการตอนนี้ยังอยู่ในอาการโคม่า 50/50 โดยช่วงโควิด-19 จึงไม่มีญาติไปเฝ้าดูอาการ

724865

นางใจ (นามสมมติ) น้องสาวของนายทวย พ่อตาคนก่อเหตุ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนเองไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับพี่ชาย เพราะคิดว่าถ้าหากเสียงปืนดังขึ้นจะมีการก่อเหตุยิงเฉพาะภรรยาของนายจันทวงษ์ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ดันมีพี่ชายของตนเองเสียชีวิตไปด้วย ทำให้รู้สึกเสียใจและรับไม่ได้ เพราะเนื่องจากพี่ชายถือว่าเป็นคนที่ดูแลแม่และเป็นเสาหลักให้กับน้อง ๆ เป็นพี่ชายที่ดีคอยช่วยเหลือน้องทุกคน ไม่คิดว่าจะมาจากไปด้วยฝีมือมือของนายจันทวงษ์ ดังนั้น ตนเองขอให้ได้รับเวรกรรมตามสิ่งที่ก่อเอาไว้ และขอให้ตำรวจติดตามตัวและจับกุมได้โดยเร็ว หากเป็นไปได้ก็ขอให้ตายตกตามกันไป

นางใจ เล่าอีกว่า ในคืนวันเกิดเหตุญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ใกล้บ้านก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ก็คิดว่าเป็นการยิงขู่ หรือยิงด้วยอาการหลอนยาเสพติด เพราะที่ผ่านมาก็มักจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง หากนายจันทวงษ์ไม่พอใจคนในครอบครัว หรือเกิดอาการหลอน ก็จะเอาปืนมายิงขึ้นฟ้า หรือมีหลายครั้งนำระเบิดปิงปองมาจุดเล่นเพื่อระบายอารมณ์ แต่ก็ไม่คิดว่าเสียงปืนที่ดังขึ้นภายในรั้วบ้านจะมีการก่อเหตุยิงหวังฆ่าตายยกครัว

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้นายจันทวงษ์มักจะพูดกับคนในครอบครัวและญาติพี่น้องเสมอว่า "หากใครมายุ่งเรื่องของตัวเอง หรือว่ายุ่งกับคนในครอบครัว จะฆ่ายกโคตร"ทำให้วันนี้ทุกคนก็อยู่ในอาการหวาดกลัวว่านายจันทวงษ์จะย้อนกลับมาทำร้ายญาติพี่น้องที่อยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ

เหตุการณ์ในคืนนั้น ตนสังเกตว่าเป็นการจ่อยิงนางมานพต่อหน้าหลานที่กำลังนั่งถักเปียกันอยู่ ตนเองมองว่าเป็นการก่อเหตุที่รุนแรงต่อหน้าหลาน รับไม่ได้ หลังจากที่ยิงคนในบ้านทั้งได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแล้ว นายจันทวงษ์เตรียมที่จะหลบหนี ระหว่างขึ้นคอมรถมอเตอร์ไซค์ พบว่าน้องอะตอมวัย 4 ขวบ เป็นลูกสาวของลูกนายจันทวงษ์กับนางมานพ วิ่งตามจะขอขึ้นรถด้วย ด้วยความไร้เดียงสาของเด็กก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นายจันทวงษ์จึงได้พาออกมาจากตัวบ้าน ล็อกประตูรั้วไม่ให้ญาติพี่น้องหรือใครเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะมาตะโกนอยู่หน้าบ้านของตนเอง ตอนนั้นไม่มีใครกล้าออกไปเจอ เพราะกลัวว่าจะโดนทำร้าย นายจันทวงษ์พูดว่า "ไม่ต้องกลัวผม ผมไม่ทำอะไรใคร เพียงแค่เอาหลานมาฝาก" ตนเองและคนในบ้านจึงออกไปรับหลานวัย 4 ขวบ และนายจันทวงษ์ ก็ได้ยื่นกุญแจบ้าน 3 ดอกให้ตนเอง จากนั้นก็พูดคำว่า "ผมขอโทษครับ" แต่ไม่ได้มีการยกมือไหว้ จากนั้นก็ได้ขี่รถหลบหนีออกไป ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าหลบหนีไปอยู่ที่ไหน อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายจันทวงษ์จะมีหลายครั้งที่เกิดอาการคิดไปเองว่าฝ่ายหญิงมีชายอื่น ตนเองในฐานะญาติยืนยันว่านางมานพผู้ตาย ไม่ได้มีชายอื่น ทั้งหมดเกิดจากความหลอนจากการเสพยาเสพติดทั้งหมด

954643

นางผึ่ง แม่ของคนก่อเหตุ เปิดใจว่า หลังจากที่ลูกชายแต่งงานไปอยู่บ้านของพ่อตาแม่ยาย และไปอยู่บ้านหลังเดียวกันกับนางมานพคนตาย ก็ไม่ได้กลับไปอยู่ที่บ้านกับตนเอง แต่จะมีลักษณะไป ๆ มา ๆ เพราะจำได้ว่าช่วงประมาณ 3 วันก่อเกิดเหตุ ก็ยังเดินทางกลับมาที่บ้าน แต่ก็มาบ่นพึมพำให้ฟังทำนองว่าทะเลาะกับเมีย แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร เพราะส่วนใหญ่ทั้งคู่ก็จะมีเรื่องทะเลาะพูดคุยกันไม่รู้เรื่องเป็นเรื่องธรรมดา ตามประสาผัวเมีย แต่ก็คาดไม่ถึงว่าลูกชายจะก่อเหตุยิงพ่อตาแม่ยาย และเมียของตัวเองแบบนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ที่ผ่านมาก็สั่งสอนและเลี้ยงดูเหมือนลูกคนอื่น แต่ทำไมถึงต้องก่อเหตุใช้ความรุนแรงแบบนี้

เมื่อวานหลังจากที่ลูกชายก่อเหตุแล้ว ก็ไม่ได้ย้อนกลับมาที่บ้าน ซึ่งไม่รู้ว่าหลบหนีไปอยู่ที่ไหน เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาที่บ้านมาถามหาลูกชายเมื่อคืน และเช้าวันนี้ก็ย้อนกลับมาอีก แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าลูกชายหนีไปอยู่ที่ไหน ส่วนตัวในฐานะแม่ ขอไม่ปกป้องลูกชายที่ทำผิด หรือก่อเหตุความรุนแรงแบบนี้ หากเป็นไปได้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฆ่ามันให้ตาย ไม่ต้องจับไม่ต้องติดคุก คนแบบนี้เลี้ยงเอาไว้ก็ไม่ทำให้เกิดอะไรดีขึ้น ตายไปอย่างน้อยก็เป็นการชดใช้เวรกรรมที่ก่อ และถ้าหากจับติดคุก วันหนึ่งออกมาก็คงจะมาก่อเหตุกับคนอื่น "คนมันเคยทำ มันก็คงจะทำอีกคงไม่ยอมหยุด เป็นไปได้ก็ให้ตำรวจฆ่ามันให้ตาย"

และส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกชายก่อเหตุความรุนแรงแบบนี้ขึ้นได้ เป็นเพราะเรื่องของยาเสพติดที่มีมานานแล้ว ประกอบกับเป็นคนติดเหล้า เวลากลับมาที่บ้านก็จะมาพร้อมกับขวดเหล้าเป็นประจำ ดังนั้นจึงเชื่อว่าทั้งเรื่องยาเสพติดและเรื่องของเหล้า จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ก่อเหตุเรื่องนี้ขึ้น ส่วนประวัติเรื่องของอาชญกรรม ไม่เคยติดคุก แต่เคยมีคดีหนีทหารติดคุกไม่นานเท่านั้น หลังจากถูกจับก็ไปติดไม่นานถูกปล่อยตัวออกมาใช้ชีวิตตามปกติ

ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดหรือขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างไร เพราะทุกวันนี้ตนเองก็ยังเอาตัวไม่รอด นอนอยู่แต่กับแคร่ แม้แต่งานแต่งของหลานสาว ตนเองก็ยังไม่มีโอกาสไป เพราะไม่สามารถไปที่ไหนมาไหนได้ ดังนั้นงานศพที่จัดขึ้นที่วัดจึงให้ลูกชายคนโต และลูกสะใภ้ไปร่วมงานแทน

487775

เวลา 18.35 น. พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ นำทีมชุดสืบจังหวัด และชุดสืบสภ.ตะคร้อ ลงพื้นที่เบาะแสเป้าหมายใน ต.ตะคร้อ ทำการกดดันเพื่อเกลี้ยกล่อม นายจันทวงษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งได้ใช้คนในครอบครัว และคนใกล้ชิดที่มีความสนิทสนมทำการเกลี้ยกล่อมผ่านทางโทรศัพท์ให้มอบตัว

549738

เวลา 18.40 น. ได้รับการประสานจากนายจันทวงษ์ แก้วคำ ผู้ต้องหา ทำการเข้ามอบตัวกับตำรวจ หลังจากนั้นได้มีการพาไปชี้จุดทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งห่างออกไปจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร จากนั้นได้ผ่าตัวมาทำแผนเบื้องต้น เพื่อประกอบรับคำสารภาพ โดยเฉพาะจุดที่มีการทิ้งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และลูกกระสุนปืนอีกจำนวนที่เหลือ

881485

ทีมข่าวสังเกตสีหน้าท่าทางของผู้ต้องหา มีลักษณะไม่อยู่ในอาการเครียดมากนัก ตอบสื่อสารกับพนักงานสอบสวนได้ปกติ และชุดที่แต่งกายอยู่นั้นเป็นชุดเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้มีการทำแผน ให้นายจันทวงษ์ขึ้นนั่งบนรถคันที่ใช้ก่อเหตุหลบหนี เมื่อขับรถมาถึงบริเวณทางแยกเชื่อมต่อกับถนนลาดยาง จุดดังกล่าวไม่ได้มีบ้านคน ตัดสินใจหยิบเอาอาวุธปืนที่ตะกร้าหน้ารถ พร้อมทั้งกระสุนปืนที่อยู่ในถุงอีกจำนวนหนึ่ง ทิ้งลงข้างทาง

369068

เจ้าตัวให้การรับสารภาพว่า มีการซื้อปืนมาเอาไว้ล่วงหน้าประมาณ 1 ปี โดยซื้อในราคา 25,000 บาท ซื้อมาจากเว็บไซต์ออนไลน์ และมีการซื้อลูกกระสุนปืน .32 เอามาเก็บไว้อีกจำนวน 20 นัด โดยในวันก่อเหตุได้ใช้ยิงจำนวน 7 นัด และใส่เพิ่มอีก 4 นัด ที่เหลือโยนทิ้งไดับปืน เบื้องต้น พนง.สืบสวน ยังไม่พบปืน คาดว่าอาจมีคนมาเจอแล้วเก็บไป หรืออาจมีการชี้จุดไม่ตรง

หลังจากที่มีการชี้จุด ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า นายจันทวงษ์ มีอะไรจะฝากถึงครอบครัวคนตายหรือไม่ เจ้าตัวไม่ได้ตอบ ได้แต่ยืนเงียบ ก้มหน้า โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปสอบปากคำเข้มที่โรงพักต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส