เผาแล้ว “ชาย” บิ๊กไบก์! พ่อ “ติว” ใจพระ เห็นคลิปยกล้อชนลูกดับให้อภัย - แฉก๊วนจอดข้างทาง ต้นเหตุตาย (คลิป)

จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ของนายฐิติวัสส์ ธีรภาพ หรือ ชาย อายุ 19 ปี ขับพุ่งชนประสานงากับนายธนวัฒน์ สุขเจริญ หรือ ติว อายุ 18 ปี เป็นเหตุให้ทั้งคู่เสียชีวิต

 

ทั้งนี้ ภายหลังจากมีผู้รับชมรายการทุบโต๊ะข่าว ส่งคลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุผ่านทางเพจเฟซบุ๊กรายการ ซึ่งเผยให้เห็นนาทีที่นายชายขับขี่รถบนสะพานพุทธก่อนพุ่งชนประสานงานกับนายติว และได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น (อ่าน : เปิดหลักฐานนาที “ชาย” บิ๊กไบก์ยกล้อ ก่อนชน “ติว” ดับ – เพื่อนเสียงแข็งโต้เพจดังขุดประวัติซิ่ง ) ซึ่งต่อมาเพจเฟซบุ๊ก Red Skull Racing  ตั้งข้อสังเกตจากภาพดังกล่าวว่ามีกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จอดอยู่บนถนนสะพานทั้ง 2 ข้าง จึงอาจเป็นเหตุให้นายติวต้องขับขี่เบี่ยงเลนจนเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ วันที่ 22 ก.ย. 61 ที่วัดบางยี่ขัน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายธนวัฒน์ สุขเจริญ อายุ 18 ปี ซึ่งงานศพในช่วงเที่ยงนี้ค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงญาติของผู้ตาย 5-6 คน ดูแลความเรียบร้อยเท่านั้น โดยทีมข่าวได้นำคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุให้กับนายธนภูมิ พ่อของธนวัฒน์ดู ซึ่งก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือเศร้าหมองแต่อย่างใด

โดน นายธนภูมิ พ่อของน้องติว เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าว ตนก็ไม่ได้อยากเอาผิดหรือต่อว่าใคร เพียงแต่ตนอยากขอบคุณที่มีคลิปนี้ออกมา เพราะภาพที่ออกมาก็ทำให้ตนรู้สึกสบายใจมากขึ้น เนื่องจากลูกของตนได้พ้นมลทินแล้ว เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ลูกของตนไม่ได้เป็นฝ่ายที่ประมาท แต่ตนก็ไม่ได้ติดใจเอาความกับอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพราะได้มีการพูดคุยกับครอบครัวของอีกฝ่ายแล้ว เพราะต่างคนต่างสูญเสีย ซึ่งในวันนี้เป็นวันฌาปนกิจศพของนายฐิติวัสส์ ธีรภาพ หรือ ชาย ที่วัดท่าพระ ตนก็จะเดินทางไปร่วมงานด้วย เพราะอยากไปแสดงความเสียใจเท่านั้นเอง นายธนภูมิ เผยว่าตนรู้สึกใจหายมาก เพราะพรุ่งนี้เป็นวันฌาปนกิจลูกชายของตนแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าคนเป็นพ่อต้องมาเผาลูกชายของตัวเอง แต่ก็ยังเสียใจที่ลูกจากไป โดยพรุ่งนี้จะมีการสวดฌาปนกิจเวลา 16.00 น. และเผาเวลา 17.00 น. โดยจะมีเพื่อนน้องติว 6 คน บวชให้และมีการรำหน้าศพ พร้อมกับร้องเพลงไว้อาลัยน้องติวด้วย

ด้านนายปรเมศร์ มีสมภพ ลูกพี่ลูกน้องของติว เปิดเผยว่า หลังจากเห็นคลิปที่ 2 ตนรู้สึกตกใจมาก แต่ก็ไม่โทษอีกฝั่งว่าเป็นฝ่ายผิด เพราะตนอยากจบเรื่องนี้แล้ว ส่วนเรื่องความเป็นไปได้ที่น้องติวจะขับขี่รถหลบกลุ่มบิ๊กไบก์ที่จอดอยู่ข้างทางนั้น ตนก็พอทราบจากพยานที่เห็นเหตุการณ์แล้วว่าน้องติวอาจจะขับเบี่ยงหลบจริง ๆ แต่ก็มีข้อสังเกตว่าต้นเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ว่ารถเมล์นั้นได้ขับเบี่ยงขวาเพื่อหลบรถบิ๊กไบก์ที่จอดอยู่ข้างทาง ทำให้น้องชายต้องขับเบี่ยงขวาจนกระทั่งพุ่งชนกับน้องติว ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมด ตนก็ไม่ได้โทษฝ่ายไหนว่าเป็นคนผิด เพราะเรื่องมันเกิดไปแล้ว เรียกร้องอะไรกลับมาไม่ได้ ก็ไม่อยากเอาเรื่องอะไรอีก และตนก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องชายด้วย

ขณะที่ นายฟิล์ม (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของน้องติว เปิดเผยว่า ตนได้เห็นคลิปที่ 2 แล้วก็รู้สึกตกใจ แต่ก็ไม่ได้อยากโกรธแค้นอะไร เพราะว่าน้องติวก็ได้จากไปแล้ว ตนก็อยากให้เขาจากไปอย่างสงบ เพราะตนรักเพื่อนคนนี้มาก และอยู่ด้วยกันแทบทุกวัน ซึ่งสิ่งสุดท้ายที่ตนอยากบอกติวคือขอให้ติวไปสบาย ไม่ต้องห่วงอะไรทางนี้แล้ว

เวลา 19.50 น. กลุ่มบิ๊กไบก์เพื่อนของน้องชาย ประมาณ 10 คน ได้เดินทางเข้ามาร่วมงานศพของน้องติว ซึ่งทุกคนอยู่ในอาการสงบนิ่ง แต่ทุก ๆ คนปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อ

ที่วัดท่าพระ ซึ่งมีการทำพิธีฌาปนกิจศพของนายชาย มีเพื่อนในกลุ่มที่ขับรถบิ๊กไบก์ที่ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ของตัวเองมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยทีมข่าวพยายามสอบถามถึงคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ไม่มีใครยอมให้สัมภาษณ์

โดยนายการ์ด เพื่อนของชายที่ขับรถบิ๊กไบก์ไปด้วยกันในวันเกิดเหตุ ได้เดินทางมาร่วมงานฌาปนกิจศพด้วย ซึ่งเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ในรายการต่างคนต่างคิดว่า ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนและกลุ่มเพื่อนขี่รถจากจุดนัดหมายเพื่อไปสะพานพุทธ ชายไม่ได้ขับขี่ด้วยความเร็ว แต่ยอมรับว่าขณะนั้นมีการยกล้อกัน ส่วนเหตุการณ์ที่สะพานพุทธ ตนเองขี่รถออกมาก่อน และเห็นนายติวขี่รถสวนตนไป จากนั้นเมื่อไปถึงตีนสะพานพุทธฝั่งธนบุรี ตนได้กลับรถเพื่อจะวกกลับไปจุดเดิม และเห็นเพียงไฟหน้ารถของชายที่ขี่มาเกิดอุบัติเหตุ โดยไม่ทันสังเกตว่าชายมีการยกล้อหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเผยแพร่คลิปชายร่างท้วมขี่รถบิ๊กไบก์ยกล้อก่อนที่นายชายขี่ตามมาและเกิดอุบัติเหตุ ว่าเป็นนายการ์ดหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธที่จะตอบข้อเท็จจริงดังกล่าว

ทั้งนี้ ภายในงานยังพบว่า นายเจ เพื่อนของนายชายได้ตะโกนในงานบอกเพื่อนกลุ่มบิ๊กไบก์ ขอความร่วมมืองดให้สัมภาษณ์สื่อ ส่วนครอบครัวของนายชาย ก็ไม่ขอให้สัมภาษณ์ร่วมถึงไม่ให้ความร่วมมือในการบันทึกภาพ โดยมีญาติรายหนึ่งระบุว่า ทั้งครอบครัวไม่สะดวกที่จะพูดคุย ขอให้ทีมข่าวเก็บบรรยากาศภาพรวมเท่านั้น ซึ่งจากการสังเกตพบว่า แม่ของน้องชายมีอาการโศกเศร้า นั่งซับหน้าโดยตลอด โดยช่วงที่เปิดโลงศพก่อนทำพิธีเผา พบว่าเพื่อนกลุ่มบิ๊กไบก์ บางคนถึงกับร้องไห้ออกมา เมื่อเห็นหน้าเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนภูมิ พ่อของติวได้มาร่วมงานเพื่อแสดงความเสียใจกับครอบครัวนายชาย พร้อมร่วมวางดอกไม้จันทน์ ก่อนที่จะพูดคุยกับ นายเจ ซึ่งเป็นเพื่อนของนายชาย

ด้าน นายวินิจจัย ชลานุเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ เปิดเผยว่า จากการที่ตนดูคลิปเชื่อว่า รถจักรยานยนต์ของนายชายได้มีการยกล้อ โดยมีเสียงเบิ้ลเครื่องก่อน จากนั้นก็ได้เอาล้อลง เพื่อจะเบี่ยงหลบรถเมล์ด้านหน้า ซึ่งช่วงนี้รถเริ่มเสียการทรงตัว ประกอบกับรถจักรยานยนต์นูโวของติวที่ขับมาจากอีกฝั่ง ได้ขับหลบรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บนสะพาน ซึ่งธรรมชาติของมนุษย์เวลาที่ขับรถหลบสิ่งกีดขวางจะขับออกห่างประมาณ 2 เมตร เพื่อความปลอดภัย จนรถของติวขับทับเส้นประแบ่งเลนและชนกับรถของชายที่ขับทับเส้นมาเช่นเดียวกัน

โดยทั้งคู่วิ่งทับเส้น แต่ติวขับเพราะจำเป็น ขับมาด้วยความเร็วปกติ แต่บิ๊กไบก์ของชาย ขับโดยประมาทใช้ความเร็วสูง ซึ่งหากฟังจากเสียง ช่วงที่ยกล้อใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 80 กม./ชม. และจากภาพคือมีอาการตกใจ เพราะรถเมล์น่าจะหลบรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างทางกินเลนเข้ามา ทำให้รถของชายต้องเบี่ยงหลบรถเมล์อีกที ซึ่งเมื่อเบี่ยงออกมาก็ไม่สามารถควบคุมได้ จนต้องใช้เท้ายันพื้น ซึ่งเป็นช่วงที่รถกำลังจะล้ม ทั้งนี้บนสะพานเป็นที่ห้ามจอดรถ โดยตั้งข้อสังเกตว่ามีการจอดเพื่อทำการโชว์ยกล้อกันหรือไม่ ซึ่งหากไม่มีรถจอดขวางอุบัติเหตุอาจจะไม่เกิดขึ้น