เจอแล้ว! กระบะดำขับจี้สาวถูกฆ่าเปลือย ขับใกล้ศพ อึ้งหนุ่มลึกลับโผล่ก่อนตาย (คลิป)

29 ก.ค. 64

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ นางสาววราพร อิ่มอาหาร อายุ 40 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกใช้เสื้อผ้ารัดคอ ของแข็งทุบที่ศีรษะจนเสียชีวิต แล้วนำร่างทิ้งลงในคลองบางพระครู หมู่ 3 ต.ตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา คนร้ายได้เผาเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตเพื่อทำลายหลักฐานนั้น

351560

ล่าสุด วันที่ 29 ก.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เส้นทางจากโรงงานแห่งหนึ่ง อ.นครหลวง จ. พระนครศรีอยุธยา โดยใช้เส้นทางหมายเลข 3013 จากโรงงานซึ่งเป็นที่ทำงานของผู้ตาย เพื่อเดินทางกลับบ้านในพื้นที่ ต.ทางกลาง ห่างจากโรงงาน ประมาณ 10 กิโลเมตร บริเวณเส้นทางดังกล่าวทีมข่าวสังเกตุได้ว่า จะมีบางช่วงที่มีบ้านเรือนประชาชน บางช่วงเป็นเพียงไร่นา และบางช่วงก็เป็นพื้นที่ป่ากระถิน นอกจากนี้ บริเวณถนนมีไฟสองสว่างเป็นเพียงบางช่วง

246575

ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมามีหน่วยงานติดตั้งระบบไฟสองสว่างให้ แต่มีโจรขโมยคอยลักนำไปขาย จึงทำให้บางช่วงระบบไฟส่องสว่างทางใช้การไม่ได้

519907

รายงานของชุดสืบสวน ทราบว่า นางสาววราพร ขับรถพีซีเอ็กซ์สีแดงดำ ออกจากโรงงานที่ทำงานช่วงเวลาประมาณ 20.18 น. โดยประมาณ แต่รถคนตายขับออกจากโรงงานจนกระทั่งถึงกลางชุมชนย่านวัดโขคเขมาราม ประมาณ 6.2 กิโลเมตร

168804479446486274

มีกล้องวงจรปิดของร้านชำแห่งหนึ่ง บันทึกเหตุการณ์ช่วงเวลาประมาณ 20.22 น. พบเห็นกลุ่มรถตู้มากกว่า 5-7 คัน เป็นรถตู้รับ-ส่งพนักงาน ออกจากพื้นที่โรงงาน เพื่อไปส่งตามบ้าน จากนั้นทิ้งห่างไม่ถึง 5 วินาที รถพีซีเอ็กซ์สีแดงดำของผู้ตายก็ขับตามหลัง ห่างจากรถของผู้ตายอีกประมาณ 10 วินาที มีรถเก๋งสีดำขับตามหลัง และต่อจากรถเก๋งสีดำห่างออกไปอีกประมาณ 15 วินาที พบรถกระบะสีดำ ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยขับตามหลัง

146201

ห่างจากจุดที่ร้านขายของชำ ในชุมชนย่านวัดโขคเขมาราม อีกประมาณ 100 เมตร จะถึงบริเวณด้านหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านขล้อ จุดดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดของ อบต. อีก 1 ชุด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เก็บเป็นความลับ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

จากบริเวณสามแยก ด้านหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านขล้อ ระยะทางห่างออกไปอีกประมาณ 200 เมตร เป็นเส้นทางที่รถพีซีเอ็กซ์ของผู้ตายขับผ่าน จับภาพวินาทีที่เห็นแสงไฟของรถมอเตอร์ไซค์ขับผ่าน โดยรถคนตายจะขับผ่านช่วงเวลาประมาณ 20.20 น. และห่างกันประมาณ 14 วินาที จะเห็นแสงไฟของรถกระบะขับตามมาด้านหลังรถของผู้ตาย

348255

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกจุดหนึ่ง บริเวณโกดังแยกอะไหล่รถมือ 2 ซึ่งตั้งอยู่ริมทางถนนเส้นทางกลับของรถพีซีเอ็กซ์ผู้ตาย โดยโกดังดังกล่าวอยู่ระหว่างทางเข้าจุดทิ้งศพประมาณ 50 เมตร และอยู่ห่างจากจุดอุบัติเหตุ พบรถคนตาย 500 เมตร กล้องตัวดังกล่าวบันทึกเหตุการณ์ได้เวลาประมาณ 20.00 น. เห็นรถของคนตายขับตามหลังรถตู้ จากนั้นทิ้งห่างประมาณ 17 วินาที จะเห็นรถกระบะสีดำคันต้องสงสัยขับตามหลังมา

466012

นายจงกล ดีมารยาท อายุ 45 ปี ชาวบ้านในพื้นที่วัดโขคเขมาราม ต.ขล้อ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เส้นทางถนนชนบท 3013 เป็นเส้นทางขากลับของผู้ตาย ตั้งแต่ออกจากโรงงานจนกระทั่งถึงบ้าน ยอมรับว่ามีบางช่วงที่มีไฟส่องสว่าง บางช่วงเป็นจุดที่เปลี่ยวมืด ไม่มีบ้านคน ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยมีการติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง แต่มีกลุ่มไม่หวังดีหรือพวกขโมยลักสายไฟ บางจุดค่อนข้างมืดในตอนกลางคืน ประกอบกับถนนชนบท 3013 เป็นเส้นทางที่มีรถตู้รับส่งพนักงานของโรงงานใช้เส้นทางผ่านจำนวนมาก ยิ่งโดยเฉพาะช่วงเลิกงาน เช้า 08.00-09.00 น. กะดึกช่วง 20.00-21.00 น.

973504

ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ พอจะรู้จักกับคนตายส่วนหนึ่งแต่ก็ไม่ได้สนิทมาก เหตุการณ์เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ถนนชนบท 3013 มีการปรับปรุง เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทได้นำกองหินมากองเอาไว้กลางถนน ตอนนั้นไปช่วงกลางคืน นางสาววราพร ขับรถกระบะสีดำ ผ่านมาบริเวณที่มีการทำถนนในเส้นทางกลับ แต่ด้วยเป็นช่วงที่คาดว่ามีหมอกตก มองไม่เห็นเส้นทางและกองหิน เกือบจะขับชน แต่ตัดสินใจหักหลบได้ทัน สุดท้ายรถพุ่งตกลงไปข้างทางเสียหาย ตอนนั้นเจ้าตัวก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าครั้งนี้เปลี่ยนมาใช้รถมอเตอร์ไซค์ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นซ้ำอีก ในถนนสายเดิม 3013 แต่เป็นเพียงคนละจุดกันเท่านั้น

658747

หลังจากเกิดเหตุการณ์ มีการแลกเปลี่ยนความคิดกับกลุ่มชาวบ้านที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ สังเกตมีรถกระบะสีดำต้องสงสัย ซึ่งช่วงก่อนวันเกิดเหตุ 1-2 วัน จะมีรถกระบะขับวนเวียนดูสถานที่ โดยเฉพาะบริเวณจุดที่พบ คาดการณ์ว่าอาจมีการดูลาดเลาก่อนก่อเหตุ เพราะถ้าหากเป็นรถกระบะของชาวบ้านในพื้นที่ ก็จะมีความคุ้นชินกับสถานที่ ไม่จำเป็นต้องขับดูลาดเลา แต่รถกระบะคันที่ชาวบ้านเห็นมีการขับที่แปลกผิดไปจากคนในพื้นที่ จึงได้มองว่าเป็นกระบะต้องสงสัย

อย่างไรก็ตาม ครั้งแรกที่ผ่านไปเจอร่องรอย ก็คิดว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ เพราะมีร่องรอยที่ขับพุ่งชนกอกระถิน แต่เมื่อสังเกต ก็มีความเอะใจอยู่บ้าง ถ้าหากเป็นเหตุการณ์อุบัติเหตุ ทำไมถึงไม่พบร่างของผู้เสียชีวิต หรือร่างของคนเจ็บ ดังนั้นจึงถือว่าเป็นสิ่งที่อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดี ไม่รู้ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพหรือกลุ่มตบทรัพย์หรือไม่

246640

นางติ๋ม (นามสมมติ) ชาวบ้านในละแวกจุดพบศพ เปิดเผยว่า สถานที่เกิดเหตุปกติจะไม่มีคนข้างนอกเข้ามา เพราะส่วนใหญ่จะเป็นที่นา และพื้นที่ทำกิน ไม่ใช่เส้นทางหลักหรือเส้นทางผ่าน แต่ย้อนกลับไปก่อนวันเกิดเหตุประมาณ 2 วัน จำได้ว่าเป็นช่วงเวลา 08.00-09.00 น. ในขณะที่กำลังออกจากบ้าน เพื่อจะไปทำธุระผ่านจุดที่พบศพ ด้านบนจะเป็นถนนก่อนที่จะเป็นเนินลงไปในคลองที่มีเครื่องสูบน้ำ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานโรงงาน มีการสวมใส่หมวกกันน็อกสีขาว ไม่ได้เปิดให้เห็นใบหน้า นั่งคร่อมอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์พีซีเอ็กซ์สีแดง ตอนแรกคิดว่าเป็นชาวบ้านมาจอดรอเพื่อพัก จึงไม่ได้เอะใจ มีท่าทีเหมือนนั่งรอใครบางคน และก้มหน้าเล่นแต่โทรศัพท์ หันหน้ารถออกไปทางถนนใหญ่ แต่ไม่ได้สตาร์ตเครื่อง สังเกตจากพฤติกรรมของผู้หญิงคนดังกล่าว ตนเองคิดว่าเพิ่งจะเลิกงานกะกลางคืน เพราะคนในโรงงานส่วนใหญ่ถ้าเป็นกะกลางคืนจะทำงานช่วงเวลาประมาณ 19.00-08.00 น.

แต่หลังจากที่ผ่านไป 2 วัน ตนเองก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกสาว ตอนนั้นกำลังจะออกไปขายของ และต้องขับผ่านบริเวณจุดที่พบ โดยลูกสาวเตือนว่าให้แม่ระมัดระวังตัว และไม่ให้ออกไปที่ไหน เนื่องจากมีผู้หญิงถูกฆ่าตายอยู่ที่ทางออกใกล้กับนา ทำให้ในวันที่ 26 ก.ค. ตนเองจึงอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหน เห็นแต่รถตำรวจและรถกู้ภัยเข้ามาที่เกิดเหตุ จนกระทั่งมานึกย้อนว่าตนเองเคยเจอผู้หญิงลักษณะตามที่ปรากฏเป็นข่าว สวมใส่ชุดยูนิฟอร์มโรงงาน มีหมวกกันน็อกสีขาว และขี่รถมอเตอร์ไซค์สีแดง นึกขึ้นได้ว่าเป็นคนเดียวกัน แต่ก็แปลกใจว่าทำไมถึงมารออยู่บริเวณจุดดังกล่าว

328654

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวยังได้เจอกับชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบศพ ภายในคลองใกล้กับทุ่งนา นายใหญ่ (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตนเองคือชาวบ้านที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และไปพูดคุยกับชาวบ้านคนอื่นในชุมชน เป็นคนที่สังเกตรถและพบเห็นรถกระบะสีดำ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ซึ่งคล้ายกับรถกระบะต้องสงสัยที่ตำรวจกำลังตรวจสอบ ช่วงก่อนวันเกิดเหตุ ประมาณ 1-2 วัน มีรถกระบะสีดำขับวนและจอด สังเกตดูพื้นที่โดยรอบจุดพบศพ ซึ่งหากเป็นรถของชาวบ้านในละแวกนี้จะมีการขับผ่านหรือใช้ถนนสายหลักด้านนอก จะไม่มีใครเข้ามาภายในซอย เพราะเส้นทางนี้จะมีเฉพาะชาวบ้านกลุ่มบ้านด้านในเท่านั้น

556876

อีกทั้งตนเองสังเกตไม่ได้ว่าด้านในคนขับเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เนื่องจากมีการติดฟิล์มมืด ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ใช่รถของคนในพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะถ้าเป็นคนในซอยหรือคนในละแวกนี้ตนเองก็จะคุ้นชิน พบเห็นเป็นประจำ ประกอบกับหลังเกิดเหตุก็ไม่เห็นรถกระบะคันดังกล่าวมาอยู่ในพื้นที่อีก

cgcg2

ในวันเกิดเหตุ 26 ก.ค. ตนเองนั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อน และรุ่นน้องหลายคน จนกระทั่งเวลา 20.00 น. เศษ จากนั้นใกล้จะเป็นช่วงเคอร์ฟิว จึงได้แยกย้ายกัน มีเพื่อนของตนเองขับรถออกจากบ้านและไปที่บริเวณปากซอยผ่านจุดพบศพ ตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้เอะใจหลังดื่มเหล้าก็ต่างคนต่างแยกย้าย จนกระทั่งวันที่ 27 ก.ค. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถาม พร้อมกับมีข่าวจากชาวบ้านพูดกันหนาหูว่าคลองใกล้นามีคนตาย ตนเองจึงได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อน คนที่ขับรถออกจากบ้านของตนเองในค่ำวันที่นั่งดื่มเหล้ากัน พูดทำนองว่า "ปากซอยบ้านกูมีผู้หญิงโดนฆ่าตาย" ตอนนั้นเพื่อนของตนเองก็พูดสวนกลับมาโดยทันทีว่า "เมื่อวานตอนกูกลับบ้าน ก็ยังเห็นผู้หญิงกับผู้ชายจอดรถคุยกัน อยู่ไม่ไกลจากจุดตรงนั้นอยู่เลย" ซึ่งตนเองก็พยายามสอบถามถึงรายละเอียดเกี่ยวกับรถ และลักษณะตัวบุคคล เพื่อนของตนเองก็ไม่ทันได้สังเกตว่าเป็นใคร เป็นเพียงลักษณะของการขับผ่านเท่านั้น ซึ่งเพื่อนของตนเองก็ไม่รู้ว่าคนที่เจอจะใช่คนเดียวกันกับคนตายหรือไม่

682378

ที่วัดทางกลาง ต.ทางกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนางสาววราพร อิ่มอาหาร อายุ 40 ปี ผู้ตาย โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา มีเพื่อนร่วมงานส่วนหนึ่งในโรงงาน และชาวบ้าน เดินทางมาร่วมฟังสวดอภิธรรมศพ

นายวิษณุ อิ่มอาหาร สามีของผู้ตาย เจ้าตัวได้เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนตั้งแต่เวลา 12.00-18.00 น. เพิ่งเดินทางกลับมาด้วยอาการอ่อนเพลีย ต้อนรับแขกที่มาร่วมงานและไม่พร้อมให้สัมภาษณ์

382102

นายวินัย อิ่มอาหาร อายุ 62 ปี พ่อของนายวิษณุ พ่อตาของผู้ตาย เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองยอมรับว่าเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไปสำหรับลูกสะใภ้ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นในครอบครัว ที่สำคัญหลานสาววัย 10 ขวบ ซึ่งรู้ข่าวการตายของแม่ก็ร้องไห้ทุกวัน ตนเองและคนในบ้านก็ต้องช่วยกันปลอบ

สำหรับประเด็นที่ทำให้ลูกสะใภ้ถูกฆ่าตาย ตนเองมองว่าต้องเกิดจากคนที่มีความแค้น เพราะไม่เช่นนั้นก็คงจะทำกับลูกสะใภ้ไม่ได้ เพราะหลังจากที่แต่งงานเข้ามาอยู่กับครอบครัวตนเอง ก็อยู่ด้วยกันมานานกว่า 10 ปี คนในบ้านของตนเองก็ไม่มีใครขัดแย้งหรือมีเรื่องกับลูกสะใภ้ ส่วนเพื่อนร่วมงานตนเองก็บอกว่าไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ เพราะในโรงงานส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครใช้ความรุนแรงถึงขั้นจะฆ่ากัน ขณะที่ปมเรื่องของการปล่อยกู้ ตนเองมองว่าเป็นเรื่องของการให้หยิบยืมเงินหลักพัน ไม่ได้มีจำนวนมาก แต่ก็มีบ้างที่ให้ยืมเงินแล้วเพื่อนสนิทหรือญาติพี่น้องบางคนไม่ยอมจ่าย ด้วยบุคลิกของลูกสะใภ้เป็นคนที่อารมณ์รุนแรง ประกอบกับการใช้คำพูดแรง ก็มีบ้างที่ใช้อารมณ์เวลาที่ไปทวงเงิน แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่จะมีคนตามมาฆ่า ในประเด็นเรื่องของการทวงเงินก็เชื่อว่าจะไม่ใช่สาเหตุ

หลังจากเกิดเหตุการณ์ลูกสะใภ้หายตัวไปจากบ้าน และพบเป็นศพอยู่ในคลอง จนกระทั่งนายวิษณุ ลูกชายของตนเองถูกสังคมจับตามองว่าเป็นผู้ต้องสงสัย ตนเองยืนยันได้ 100% เชื่อมั่นว่าลูกชายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของลูกสะใภ้ เพราะทั้งคู่รักกัน และลูกชายเป็นคนที่ไม่กินเหล้าเมายา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีส่วนเกี่ยวข้อง ในวันเกิดเหตุ ลูกชายก็อยู่กับตนเองตลอด ไม่ได้หายออกจากบ้าน

ส่วนกรณีการสืบสวนสอบสวน ของพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับเบาะแสของคนร้าย และรวมไปถึงกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวพันกับคำให้การของพยานที่พบเห็น อาจมีรถมอเตอร์ไซค์ 2 คัน รถเก๋ง 1 คัน และรถกระบะสีดำ 1 คัน ตนเองก็ยังไม่ขอฟันธงว่าเกี่ยวข้องกับการตายของลูกสะใภ้หรือไม่ ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส