หนุ่มช็อก 3 วันโควิดคร่า 2 ชีวิตในครอบครัว สูญเสียพ่อ - พี่สาวพร้อม ๆ กัน ไม่ทันได้ร่ำลา (คลิป)

27 ก.ค. 64

กรณีช่วงกลางดึกของวันที่ 26 ก.ค.64 ที่บริเวณเมรุเผาศพของวัดแห่งหนึ่ง อยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายปิยะ ยศศิริ อายุ 38 ปี ชาวบ้านดอนแก้ว ต.โนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยญาติพี่น้องพากันมารอเพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.รัตนา ยศศิริ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายปิยะ หลังจากเสียชีวิตช่วงเวลา 19.40 น. โดยเป็นศพที่ 13 ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ของจ.ศรีสะเกษ

956774

ล่าสุดวันที่ วันที่ 27 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังต.โนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ ได้พูดคุยกับนายปิยะ ยศศิริ อายุ 38 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนมิ.ย.64 ตนคาดว่านายชาญวิทย์ ยศศิริ อายุ 67 ปี พ่อของตนน่าจะไปรับเชื้อโควิด-19 มาจากพื้นที่ตลาดบางบอน กรุงเทพมหานคร เนื่องจากพ่อทำงานเปิดร้านขายลาบก้อยที่ตลาดดังกล่าว

573890

ต่อมาวันที่ 28 มิ.ย.64 พ่อเริ่มมีอาการป่วยหนัก และได้กลับมาตรวจโควิด-19 ที่ รพ.โนนคูณ จ.ศรีษะเกษ และรักษาตัวที่โรงพยาบาลดังกล่าว แต่เนื่องจากว่าอาการป่วยหนักมาก แพทย์รพ.โนนคูณจึงได้ส่งต่อมาที่ รพ.ศรีสะเกษ และพ่อได้เสียชีวิตวันที่ 23 ก.ค.64

ในวันที่ 29 มิ.ย.64 ตน พี่สาว แม่ และน้าชาย ได้เดินทางจากจ.สมุทรสาคร และมาตรวจโควิด-19 ที่ รพ.โนนคูณ จ.ศรีษะเกษ กระทั่งพบว่าตน พี่สาว และน้าชาย ติดเชื้อโควิด-19 และพวกตนก็ได้เข้ารักษาตัวที่ รพ.โนนคูณ

311993

กระทั่งวันที่ 1 ก.ย.64 ภรรยาของตนเดินทางจากจ.ปทุมธานี พร้อมลูกสาว 2 คน อายุ 14 และ 11 ปี มาถึงจ.ศรีษะเกษ ในเช้าวันที่ 2 ก.ค.64 พบว่าลูกสาวทั้ง 2 คนติดเชื้อโควิด-19 ส่วนภรรยาไม่ติดเชื้อแต่อย่างใด จากนั้นลูกสาวก็ได้รับการรักษา ส่วนภรรยาก็ได้กักตัว 14 วัน 

ด้านอาการของ น.ส.รัตนา ยศศิริ อายุ 40 ปี พี่สาวของตน ก็เริ่มอาการทรุดหนัก ติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำในเม็ดเลือดขาว จึงเข้ารับการรักษาพยาบาลที่รพ.ศรีสะเกษ กระทั่งวานนี้ (26 ก.ค.64) เวลา 19.40 น. พี่สาวของตนก็ได้เสียชีวิต ห่างจากพ่อเพียงแค่ 3 วัน ซึ่งถือเป็นการเสียชีวิตรายที่ 2 สำหรับครอบครัวของตน และเป็นเหตุการณ์ที่เกินกว่าตนจะทำใจได้ ตนไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัว ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่หดหู่มาก ๆ

876797

สำหรับตนตอนที่รักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็มีอาการหนักเหมือนกัน เพราะเชื้อลงปอด แต่ตอนนี้ตน แม่ และลูกสาว 2 คน ก็ผ่านการรักษาตัวหายเป็นปกติ และกักตัว 14 เรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ากระทบรายได้เป็นอย่างมาก การสูญเสียพ่อและพี่สาวถือว่าตนได้เสียเสาหลักของครอบครัว เพราะพ่อและพี่สาวจะประกอบอาชีพขายลาบก้อยที่ตลาดบางบอน กรงุเทพฯ ส่วนตนทำงานขับรถรับจ้าง และภรรยาทำงานข้าราชการ ตอนนี้ตนเป็นห่วงสภาพจิตของแม่ กลัวแม่จะเครียด

413218

น.ส.รุ่งฤดี สิงห์วงษา ภรรยาของนายปิยะ ให้สัมภาษณ์ว่า ปกติครอบครัวของตนและครอบครัวของพ่อสามี ก็จะไปมาหาสู่กันตลอด ช่วงเดือนมิ.ย.64 นายชาญวิทย์ พ่อของสามีก็ได้มีอาการไข้สูง ซึ่งลูกสาวของตนทั้ง 2 คน ก็ได้ไปนวดให้กับพ่อสามีเป็นประจำ ตนจึงคาดว่าลูกสาวทั้ง 2 คน น่าจะได้รับเชื้อมาจากพ่อสามี

ในวันที่ 28 มิ.ย.64 ตนทราบผลว่าพ่อของสามีติดเชื้อโควิด-19 จึงได้ให้สามีและครอบครัวไปตรวจเชื้อโควิด-19 ซึ่งสามี และครอบครัวของสามีก็ได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.ศรีษะเกษ กระทั่งพบว่าสามี พี่สาว น้าชาย และแม่สามีติดเชื้อโควิด-19 

339129

ต่อมาวันที่ 1 ก.ค.64 ตนและลูกสาว 2 คน กลับจ.ศรีษะเกษ เพื่อมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ช่วงเช้าวันที่ 2 ก.ค.64 ตนได้ตรวจหาเชื้อที่ รพ.โนนคูณ จ.ศรีษะเกษ กระทั่งพบว่าลูกสาว 2 คนติดเชื้อโควิด-19 ส่วนตนผลเป็นลบไม่ติดเชื้อโควิด-19 และลูกสาวก็ได้รักษาอาการ ส่วนตนก็ได้กักตัว 14 วัน

สำหรับตนได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ส่วนสามี ลูกสาว และครอบครัวสามี ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ช่วงที่สามีและครอบครัวเข้ารับการรักษาตัว ตนก็พยายามให้คำแนะนำให้คนในครอบครัวที่ติดเชื้อนอนคว่ำหน้าบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้เชื้อลงปอด ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตนไปอ่านมา เหตุที่เกิดขึ้นตนก็ได้ให้กำลังใจสามี และครอบครัวของสามี และตอนนี้ตนก็เป็นห่วงสภาพจิตใจแม่ของสามี ที่ต้องสูญเสียสามีและลูกสาวไป หลังจากนี้ตนก็คงต้องดูแลสภาพจิตใจคนในครอบครัว รวมถึงต้องวางแผนในการใช้ชีวิตกันต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส