“ลุงพิราบ” ฉะคนสั่งงดให้อาหารนก ทำตัวเป็นพระเจ้า ท้าจับจะอารยะขัดขืน - ป้าคู่หูยอมเลิก (คลิป)

จากกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้ กรุงเทพมหานคร จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดระเบียบการให้อาหารนกบริเวณพื้นที่สาธารณะ โดยเจ้าหน้าที่จะต้องไม่ทำร้ายสัตว์ แต่เน้นขอความร่วมมือจากประชาชนว่างดให้อาหารนก หรือให้อาหารนกในพื้นที่ ๆ จัดไว้ให้เท่านั้น มีความผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ที่ห้ามไม่ให้มีการให้อาหารสัตว์ในที่สาธารณะ หากพบฝ่าฝืน จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ ปรับ 2,000 บาท และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ จำคุก 3 เดือน ปรับ 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งวันนี้ (20 ก.ย.) ได้มีการจับนกที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ไปปล่อยตามธรรมชาติ

วันที่ 20 ก.ย. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านลุงนกพิราบย่านสุทธิสาร ซึ่งพบว่าช่วงเวลากลางคืน บริเวณบ้านไม่มีนกพิราบแล้ว ด้านนายวีระศักดิ์ สุนทรจามร เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ตนได้เห็นคำสั่งเรื่องประกาศของกรุงเทพมหานครแล้ว โดยตนมองว่าเรื่องโรคระบาดที่มาจากสัตว์นั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ คล้ายเป็นข้ออ้าง เพราะโรคเป็นสิ่งที่มีทั่วไปอยู่แล้ว เชื้อโรคถือเป็นกลไกทางธรรมชาติ และการที่องค์การอนามัยต่าง ๆ ออกมาประกาศว่าจะให้โรคกลายเป็นศูนย์นั้น ตนมองว่าขัดต่อการหลักเกิด แก่ เจ็บ ตาย ตนคิดว่าหากจะห้าม ควรจัดพื้นที่ให้อาหารอย่างเหมาะสมดีกว่า

นายวีระศักดิ์ ยังบอกอีกว่า ตัวเองสงสารสัตว์ หากมีการห้ามไม่ให้อาหารเพราะสัตว์ก็ยังต้องกิน ก็อยากฝากถามคนออกคำสั่งว่า ห้ามตัวเองไม่ให้กินได้หรือไม่ เพราะสัตว์ก็เหมือนคน ที่มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ มีสิทธิ์ที่จะกิน อย่าทำตัวเป็นพระเจ้าที่ตัดสินชีวิตของผู้อื่นได้ นายวีระศักดิ์ ยืนยันหลังจากนี้ตัวเองยังจะให้อาหารนกพิราบอยู่ และยังจะให้ในที่สาธารณะด้วย พร้อมท้าให้มาจับ ซึ่งตนพร้อมให้จับและจะฟ้องหน่วยงานรัฐกลับ เหตุออกคำสั่งโดยมิชอบ หากคำสั่งบังคับใช้ตนจะทำอาริยะขัดขืน เนื่องจากมองว่าเป็นกฎที่ไม่ชอบธรรม พร้อมตั้งคำถามทิ้งท้ายไว้ว่า "กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมายยังทำให้ถูกได้ แล้วเหตุใดเรื่องนี้จะทำเรื่องนี้ให้ถูกไม่ได้"

ด้าน น.ส.เดือนฉาย เพ็งปรีชา อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านในย่านหลักสี่ ซึ่งก่อนหน้านี้ให้อาหารนกพิราบเป็นประจำ กระทั่งมีนกมาเกาะที่หลังคาบ้านวันละหลายร้อยตัว โดย น.ส.เดือนฉาย เปิดเผยว่า กรณีการห้ามให้อาหารนกพิราบนั้น ตนไม่รู้จะออกความเห็นอะไรเพราะไม่เกี่ยวกับตน เพราะภายหลังจากที่ทางเขตฯ ได้สั่งห้ามให้อาหารนกพิราบ ตนก็ปฏิบัติตามจนกระทั่งไม่มีนกมาเกาะที่บริเวณบ้านแล้ว ส่วนกรณีที่จะมีการจับนกไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาตินั้น ตนมองว่าก็เป็นเรื่องที่ดี

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ทางเขตฯ ได้เข้ามาทำความสะอาดบ้านตนเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนก็ไม่ได้ให้อาหารนกพิราบอีก โดยในช่วงแรก ๆ ก็ยังคงมีนกมาเกาะอยู่บ้าง แต่เมื่อตนไม่ได้ให้อาหาร นกก็ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ กระทั่งเมื่อวานซืน (18 ก.ย.) ทางเขตฯ ได้มีการทากาวดักบริเวณหลังคาบ้าน เมื่อนกเข้ามาเกาะก็จะถูกกาวทำให้เหนียวตัว ตนก็แกะไปปล่อย จากนั้นนกก็ไม่มาเกาะอีก

ด้าน นายแมน ยาตรา เพื่อนบ้านของ น.ส.เดือนฉาย เปิดเผยว่า ภายหลังทางเขตหลักสี่ได้เข้ามาทำความสะอาดที่บ้านป้าที่มักให้อาหารนกพิราบ ตนก็ไม่เคยเห็นป้าให้อาหารนกอีกเลย โดยทางเขตฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบทุกอาทิตย์ ส่วนตัวพบว่ามีนกพิราบจำนวนน้อยลงมาก เหลือเพียง 1-2 ตัว และไม่มีมาเกาะที่บ้านตนแล้ว ทำให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น หายใจปลอดโปร่งขึ้น ไม่มีกลิ่นอุจจาระนกแล้ว

ด้าน นพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผอ.กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่มาตรวจสอบบริเวณวัดระฆัง เนื่องจากมีนกพิราบค่อนข้างเยอะ แต่ปัจจุบันมีการก่อสร้างของวัดข้างท่าเรือ จึงทำให้นกลดปริมาณลง วันนี้จึงจับนกเพื่อนำอุจจาระไปตรวจหาเชื้อ และทำความสะอาดพื้นที่ เพื่อป้องกันการก่อให้เกิดโรคที่จะตามมา ส่วนกรณีการฟ้องร้องนายวีระศักดิ์นั้น ศาลได้มีคำตัดสินแล้ว โดยนายวีระศักดิ์ถูกปรับ 40,000 บาท ซึ่งนายวีระศักดิ์อนุญาตให้ กทม. เข้าไปทำความสะอาดบ้านได้ แต่ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่จัดการกับนกพิราบภายในบ้าน ขณะที่ทาง กทม. ไม่สามารถเข้าไปเคลื่อนย้ายนกพิราบได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล จึงต้องใช้หลักสังคม ด้วยการกระชับพื้นที่บ้านนายวีระศักดิ์ เป็นการบีบไปเรื่อย ๆ ให้นายวีระศักดิ์เห็นว่า ไม่มีพื้นที่อื่นที่เลี้ยงนกพิราบแล้ว จึงอยากให้นายวีระศักดิ์ให้ความร่วมมือกับทาง กทม. ด้วย