เมื่อวันที่ 21 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะ ทะเบียน ถค 2107 กรุงเทพมหานคร ที่จะกลับบ้านไปกักตัวที่บ้านเกิดใน จ.พะเยา เสียหลักชนกับต้นไม้ร่องกลางสาย 340 ก่อนถึงปั๊ม PT ตลาดกลางพังม่วงขาเข้า อ.ศรีประจันต์ ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งคู่ และบาดเจ็บอีก 4 คน ซึ่งหนึ่งใน 4 มีอาการสาหัส 1 คนเป็นเด็กวัย 13 ปี ส่วนอีก 3 คนอาการปลอดภัยแล้ว และพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ยกคันทั้งหมด 6 คน ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
โดยภายในรถกระบะคันดังกล่าว ประกอบไปด้วย 2 ครอบครัว ซึ่งครอบครัวแรกที่ผลตรวจออกมาเป็นบวก นั่งอยู่ด้านหลัง ได้แก่ พ่อ อายุ 36 ปี แม่ อายุ 41 ปี และลูกชาย 14 ปี ส่วนครอบครัวที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่นั่งมาด้วยกัน ผลตรวจออกมาพบว่าเป็นบวกติดเชื้อโควิด-19 ประกอบด้วย พ่อ อายุ 47 ปี แม่ อายุ 41 ปี และลูกชาย อายุ 13 ปี
ล่าสุดวันที่ 21 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังวัดเถรพลาย จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ฌาปนกิจร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน โดยนายอ้าย (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ญาติของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่าทั้ง 2 ครอบครัวประสบอุบัติเหตุ จากนั้นได้รีบเดินทางมาจาก จ.สุพรรณบุรี ทันที จากการสอบถามหนึ่งในผู้บาดเจ็บพบว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ทั้ง 2 ครอบครัวจะเดินทางกลับไปรักษาตัวที่ จ.พะเยา เนื่องจากสถานการณ์โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครเต็ม จึงจะกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด
ขณะที่พระครูพิสุทธิรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเถรพลาย ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ได้รับมอบหมายจาก นายปิยะพงษ์ บุญส่ง นายอำเภอศรีประจันต์ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน รพ.ศรีประจันต์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกัน กู้ภัยสุพรรณบุรี และตัวแทนญาติ ได้จัดพิธีเผาศพผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 2 ราย
ในเวลา 14.00 น. ทางวัดเถรพลาย ได้ประกอบพิธีเผาศพผู้เสียชีวิตก่อน 1 ราย จากนั้นจะต้องพักเตา และจะเผาผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย โดยใช้เตาเผากลางแจ้งชั่วคราว เป็นระบบใหม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไร้มลภาวะ ไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
ในช่วงการทำพิธีเผาศพ ญาติผู้เสียชีวิตได้ไลน์สดทางเฟซบุ๊ก เพื่อต้องการให้ทางญาติที่บ้านเกิด จ.พะเยา ได้ดูและร่วมไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโควิด-19 จึงต้องเร่งกำเนินการเผาตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นายสกุล สมิงแก้ว ญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ทั้ง 6 คนเป็นญาติกันมีอาชีพเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง โดยในจำนวน 3 คน ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทราบผลว่าติดโควิด- 19 ทั้งหมด จึงชวนกันทั้งหมด 6 คนเดินทางกลับจ.พะเยา ซึ่งเป็นบ้านเกิด แต่ยังไม่ถึงบ้านกลับต้องมาประสบอุบัติเหตุ
ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 4 คน รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี แต่เด็กผู้ชายที่บาดเจ็บสาหัสและติดเชื้อโควิด-19 ได้รับการส่งตัวไปรักษาที่ รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี ส่วนญาติที่จ.พะเยา ยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยญาติจะขอรักษาโควิด-19 ที่รพ.เจ้าพระยายมราช ต่อไป
นายพีรพล สุภาพิน อายุ 24 ปี เจ้าหน้ากู้ภัยมูลนิธิเสมอกัน กู้ภัยสุพรรณบุรี กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุ จึงรีบรุดเข้าไปในพื้นที่ เมื่อไปถึงเห็นมีผู้บาดเจ็บจึงจะเข้าไปปฐมพยาบาล แต่พอดีว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งมากับรถกระบะ ได้ตะโกนแจ้งว่า "แม่เป็นโควิด ๆ" เมื่อตนได้ยินเช่นนั้น จึงแจ้งให้เพื่อนร่วมงานถอยออกไปก่อน เพื่อไปสวมใส่ชุด PPE ยอมรับว่าขณะนั้นกลัวว่าจะได้รับเชื้อ แต่ก็ต้องช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ภายหลังจากที่ได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตแล้ว ทางหน่วยงานให้พวกตนไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาล ซึ่งผลยังไม่ออก แต่หลังจากที่ตนได้ทำพิธีฌาปนกิจศพทั้ง 2 รายเรียบร้อยแล้ว ก็จะกักตัวเป็นเวลา 14 วัน และตรวจซ้ำอีก 7 วันหลังจากนี้
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าเป็นห่วงทางบ้าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ไม่แน่ใจว่าทำไมผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตถึงสามารถเดินทางกลับได้ ซึ่งปกติแล้วต้องมีรถพยาบาลไปรับส่ง ทั้งนี้ตนอยากให้มีใบอนุญาตผ่านทางด้วย
