อึ้งไปทั้งวัด ญาติเตรียมรดน้ำศพยายวัย 76 ปี รพ.โทรมาแจ้งเสียชีวิตเพราะโควิด ต้องพลิกแผนนำร่างขึ้นเมรุแล้วเผาทันที
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 20 กรกฎาคม 64 ผู้สื่อข่าวรับแจ้ง จากชาวบ้านใกล้วัดกลางเกร็ด ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ว่ามีศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคชรามาตั้งสวดพระอภิธรรมศพ ที่วัดแห่งนี้ ภายหลังพบว่าผู้เสียชีวิต ติดเชื้อโควิด-19 จึงต้องเปลี่ยนแผนรีบนำร่างขึ้นเมรุ ทำการฌาปนกิจทันที
เมื่อเดินทางไปที่วัด พบญาติผู้เสียชีวิต คือคุณธิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตคือนางศิริพร อายุ 76 ปี มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ตนเอง โดยผู้เสียชีวิตพร้อมสามี ได้ไปฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มแรกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 64 จนกระทั่งมาวันนี้เมื่อช่วงเช้ามีอาการเหนื่อยหอบหายใจไม่ค่อยออกจึงนำตัวส่ง รพ. ปากเกร็ด 2 แต่เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล ญาติๆ เข้าใจว่าผู้ตายอาจแพ้วัคซีนที่ฉีดมา หรือไม่ก็ชราภาพตามอายุขัยด้วยโรคประจำตัว จึงตัดสินใจนำร่างผู้ตายมาตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่วัดกลางแห่งนี้เป็นเวลา 3 วัน เมื่อศพมาถึงวัดในช่วงบ่าย ได้นำร่างไว้บนศาลาเพื่อรอญาติพี่น้องเพื่อนฝูงมารดน้ำศพในเวลา 16.00 น.
จนกระทั่งเวลาก่อนถึงพิธีรดน้ำศพ ทางญาติได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลปากเกร็ด 2 ว่าผู้ตายติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ญาติพี่น้องทุกคน รวมทั้งพระสัปเหร่อ ที่ช่วยทำพิธีอยู่บนศาลาวัดต่างพากันตกใจ ไม่คิดว่าผู้ตายจะติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ทุกคนผวาไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ สุดท้ายเมื่อปรึกษากันแล้วจึงตัดสินใจนำร่างพี่สะใภ้ขึ้นเมรุ ทำการเผาทันทีตามที่ รพ.แจ้งมา
เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีใครรู้เลยว่าผู้ตายติดโควิด-19 เมื่อเป็นเช่นนี้ตนเอง และญาติผู้ตายทุกคน คือสามี อายุ 78 ปี ลูกสาว 2 คนอายุ 45 ปี 43 ปี หลานสาวอายุ 22 ปี หลานชายอายุ 18 ปี หลานสาวอายุ 15 ปี ของผู้ตายที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันและใกล้ชิดกับผู้ตายต้องกลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทันที เรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองรู้สึกไม่สบายใจและเป็นห่วงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการเสียชีวิตของนางศิริพร เนื่องจากทุกคนทุกฝ่ายคิดว่าผู้ตายเสียชีวิตจากโรคชรา หรือไม่ก็มีอาการแพ้วัคซีนที่ฉีดมา แต่เมื่อมาทราบว่า ผู้ตายติดเชื้อโควิด-19 ทำให้คนที่สัมผัสกับผู้ตายซึ่งมีทั้ง สัปเหร่อ พระที่ขึ้นมาทำพิธีบนศาลา โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่นำศพมาไว้ที่วัดถึงกับบอกว่า "คืนนี้เมียไม่ให้ผมเข้าบ้านแน่นอน" เพราะไม่คิดว่าผู้ตายจะติดเชื้อโควิด-19 ทุกคน จึงไม่ได้ระวังตัวอย่างดี
นายธิต กล่าวต่อว่า ตนและญาติรู้สึกเสียใจและไม่สบายใจที่มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตอนนี้ทุกคนในบ้าน รวมทั้งตนถือว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จากนี้ไปจะต้องรีบติดต่อทำเรื่องเพื่อขอทำการคัดกรองตรวจหาเชื้อ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรจึงอยากฝากบอกไปถึงเจ้าหน้าที่ทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 หรือเจ้าหน้าที่นิติเวช รพ. ธรรมศาสตร์ มูลนิธิร่วมกตัญญูสัปเหร่อวัดกลางเกร็ด รวมทั้งพระสงฆ์ ที่เกี่ยวข้องและต้องสัมผัสกับผู้เสียชีวิต ทำให้ทุกคนต้องกลายเป็นผู้สัมผัส เสี่ยงสูง เรื่องนี้ทำให้ตนและครอบครัวผู้ตายรู้สึกไม่สบายใจจึงอยากฝากสื่อมวลชนช่วยเป็นสื่อกลางแจ้งไปถึงทุกๆ ท่านให้ทราบว่าผู้ตาย ติดเชื้อโควิด-19 พวกเราทุกคนต้องฝากขอโทษจริงๆ
