จ่าฝูงเปลี่ยนมือ-ขุนค้อนหนีบ๊วย!! สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ ลีค อังกฤษ ประจำสัปดาห์

17 ก.ย. 61
พรีเมียร์ ลีค อังกฤษ นัดที่ 5 สัปดาห์นี้ มีทั้งคู่เด็ด คู่ดัง ยิงกันสนั่นหวั่นไหว เพราะมีการทำประตูในลีคไปถึง 28 ลูก แต่ไฮไลท์อยู่ที่แสงไฟกำลังจะส่องลงมายังหงส์แดงกลางสนามเวมบลีย์ ทันใดนั้นก็มีรถสปอร์ตสุดหรูปาดเข้ามาจอดกลางสนามแทน จ่าฝูงเปลี่ยนมือ สิงห์ไฮโซ เชลซี ของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ผงาดแซงนำด้วยประตูได้เสียที่มากกว่า ติดตามผลการแข่งขันกันเลยดีกว่าครับ
Tottenham Hotspur 1 - 2 Liverpool
บิ๊กแมตช์สัปดาห์นี้ เตะกันไวตั้งแต่หัวค่ำ ไก่เดือยทอง ที่ล่าสุดฟอร์มบู่บุกไปพ่าย แตนอาละวาด ยังควานหาฟอร์มเก่งของตัวเองไม่เจอ ถูก หงส์แดง ที่กำลังคั่วจ่าฝูงบุกมาสอยคาถิ่น เกมนี้สิ่งที่ต้องพูดถึงเลยคือ สเปอร์ส นัดกันฟอร์มตกทั้งทีม หรือนี่คือมรสุมที่กำลังจะรุมเร้า เมาริซิโอ ปอเชตติโน่ หลังจากที่ตลาดนักเตะรอบที่ผ่านมาไม่ได้เสริมทีมมาสักตำแหน่งเดียว ทีนี้พอตัวหลักโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ก็ไม่มีตัวหมุนเวียนหรือฝากความหวังใดๆ ได้ ตรงกันข้ามกับทีมเร้ด แมชชีน ที่เสริมทีมตรงจุด นี่ขนาดยังไม่เข้าฝักเต็มที่ แต่ต้องบอกเลยว่าปีนี้หงส์แดง มาแน่!!
AFC Bournemouth 4 - 2 Leicester City
เดอะ เชอร์รี่ กลายเป็นอีกทีมที่น่าเชียร์จริงๆ สำหรับปีนี้ ทำแต้มติดท๊อป 5 มาแทรกตัวอยู่ท่ามกลางบรรดาทีมใหญ่อย่างเนียนๆ ด้วยบอลระบบไดเร็คเข้มข้นของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว อาจจะทำเซอร์ไพรส์เบียดไปยุโรปกับเค้าได้เหมือนกัน กลับกันกับอดีตแชมป์ลีค จิ้งจอกสยาม ที่ฟอร์มต่างหลุดลอยหายไปตามกาลเวลา เพราะหลังจากปาฏิหาริย์คว้าแชมป์ ทีมก็ถอยหลังลงคลองมาเรื่อย...
Chelsea 4 - 1 Cardiff City
หลังจากคู่ใหญ่ตอนหัวค่ำ ปล่อยให้หงส์แดงขึ้นไปยึดหัวหาดก่อน ถัดมาอีกไม่กี่ชั่วโมง สิงห์ไฮโซ เชลซี อีกทีมที่เรื่อยๆ มาเรียงๆ ยังไม่แพ้ใครเช่นเดียวกัน จะเปิดบ้านถล่มน้องใหม่ผู้มาเยือนไปขาดลอย โดยได้แฮทริคจาก เอแด็ง อาร์ซาร์ นี่สิสิงห์ยุคใหม่ เล่นเกมรุกกันสุดมันส์ เหมือนที่เคยมีคนบอกว่าเกมไหนอาร์ซาร์เล่นดี แมตช์นั้นเชลซีจะปิดประตูแพ้ ทะยานขึ้นจ่าฝูงด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่าลิเวอร์พูล 1 ลูกถ้วน!!
Huddersfield Town 0 - 1 Crystal Palace
ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ น้องใหม่รายนี้ก็อาการน่าเป็นห่วง ยังไม่สามารถชนะใครได้เลย แต่ด้วยสไตล์การเล่นแบบปิดประตูตีแมวหวังยันเสมอ ก็คงทำอะไรได้ไม่มากนัก ในขณะที่ปราสาทเรือนแก้ว ทีมเยือน นัดนี้ชนะได้เพราะเดอะ แบก ของพวกเขาล้วนๆ วิลฟรีด ซาฮา ทีเด็ดของทีมจากลอนดอนยังคงพึ่งพาได้เสมอ แต่ถ้านัดไหนหายขึ้นมา ปราสาทแก้วก็มีสิทธิกลายเป็นกระดาษได้
Manchester City 3 - 0 Fulham
แชมป์เก่าสอนบอลไปสบายเท้าเลย สำหรับลูกทีมของ เป๊ป กวาดิโอล่า ยิงกระหน่ำแบบไม่ซ้ำหน้าเอาใจแฟนบอล ในขณะที่ทีมเยือนพยายามสู้ได้ดีแล้ว แต่อย่างว่าระดับของทีมมันต่างกัน ส่งผลให้เรือใบสีฟ้ายังไม่แพ้ใคร ทำคะแนนเกาะกลุ่มนำอย่างเหนียวแน่นหนึบ
Newcastle United 1 - 2 Arsenal
โดนถีบลงมาโซนแดงอีกครั้ง สำหรับ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ที่เกมนี้โดน ปืนใหญ่ อาร์เซนอล บุกมาขยี้ถึงถิ่น จากลูกฟรีคิกสุดสวยของคนที่นานทีปีหนจะยิงได้ กรานิท ชาก้า รวมถึงอีกประตูของยอดมิดฟิลด์ฟอร์มตก เมซุต โอซิล จริงๆ โดนสองหน่อที่ไม่ค่อยยิงทำประตูได้แบบนี้ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือสาลิกาควรต้องทำบุญใหญ่เสียที หลังจากมีแต้มเดียวจาก 5 นัด รั้งรองบ๊วย ด้วยผลงานเสมอ 1 ที่เหลือแพ้รวด แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้กับการที่ต้องเจอทีมท๊อป 6 ติดๆ กัน ก็รอดูว่ากับทีมระดับเดียวกัน เอลบอส จะเข็นทีมไปได้ไกลแค่ไหน
Watford 1 - 2 Manchester United
เป็นเกมที่น่าจะช่วยให้กุนซือไร้เพื่อน โจเซ่ มูริญโญ่ ได้หายใจหายคอสะดวกขึ้น เพราะนัดนี้ลูกทีมเล่นกันได้ดีเลยทีเดียว แต่ก็ตามสไตล์น้ามู นำแล้วชอบอุดเป็นบอลเน้นผล ทีนี้พออุดมากๆ กองหลังไม่ได้เหนียวระดับเฟอร์ดินาน เทอร์รี่ กองเชียร์ก็ลุ้นหนักหน่อย ยิ่งท้ายเกมยิ่งกดดัน บอกเลยว่าแฟนผีคนไหนใจไม่แข็งพอ ปิดไฟนอนตอนทีมนำ เปิดมาอีกทีเช้าสกอร์อาจจะพลิกก็เป็นได้!!
Wolverhampton Wanderers 1 - 0 Burnley
ทำดีเสมอตัวจริงๆ สำหรับผู้รักษาประตูโลกลืมอย่าง โจ ฮาร์ท เซฟมือเป็นปลาหมึก แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยให้ เบิร์นลี่ย์ มีแต้มได้ คงจะเป็นไปตามที่นักวิจารณ์ทั้งหลายคาดการณ์กันไว้ ว่าถ้าหากไม่เลือกจริงจังถ้วยใดถ้วยหนึ่ง หรือทิ้งฟุตบอลยุโรป ทีมเบิร์นลี่ย์น่าจะกลับเข้าฟอร์มยาก ณอน ไดซ์ กุนซือต้องเลือกแล้วล่ะ ไม่งั้นทีมอาจจะตกชั้นได้
Everton 1 - 3 West Ham United
ทีเด็ดทีขาดเป็นสิ่งที่ เวสต์แฮม กำลังทำได้ดี บอลสวนกลับของพวกเขาน่ากลัวมากเห็นได้จากหลายๆ นัด แต่หลังก็รั่วพร้อมโดนถลุงเช่นกัน นัดนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีจากโอกาสยิงไม่กี่ครั้ง แต่เอาชนะเจ้าบ้านคาโรงงานทอฟฟี่ได้ 2 ประตูจากปีกยูเครน ยาร์โมเลนโก้ และกองหน้าออสเตรีย อาเนาท์โตวิท ทำให้ทีมขุนค้อนเก็บ 3 แต้มแรก หนีบ๊วยได้สำเร็จ สิ่งที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ คงมีแค่จะยืนระยะยังไงให้อยู่ เพราะนักเตะของทีมพาเหรดกันเจ็บเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็นกองกางไดนาโม แจ๊ค วิลเชียร์ ที่ไปดึงมาจากอาร์เซนอล รวมถึงกองหน้าตัวความหวัง มาร์โก อาเนาท์โตวิท ที่จำเป็นจ้องเข็นลงทุกนัด แต่ก็ขยันจ็บทุกนัดเช่นกัน เป็นการบ้านหนักหนาสาหัสที่กุนซือ มานูเอล เปเญกรินี่ ต้องคอยปวดหัวไปอีกนานแน่นอน
ส่วนคู่สุดท้าย Southampton เปิดรังเซนต์ แมรี่ พบกับทีมนกนางนวล Brighton & Hove Albion จะเตะกันคืนวันจันทร์ที่ 17 กันยายน 2561 เวลา 02.00 น. แฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีค รอชิดติดจอกันได้เลย
และอย่าลืมติดตามชมกลางสัปดาห์ ฟุตบอลถ้วยใหญ่ที่สุดของยุโรป UEFA Champions league กลับมาฟาดแข้งกันแล้ว สัปดาห์นี้มีทั้งบิ๊กแมตช์ Inter เปิดจูเซปเป้ เมอัซซ่า รับมือ Tottenham Hotspur และ Monaco ปะทะ แชมป์ยูโรป้าปีล่าสุด Atletico Madrid ห้ามพลาดเด็ดขาด!!

advertisement

ข่าวยอดนิยม