นอกจากจะเป็นนักแสดงที่เพียบพร้อมไปทุกบทบาทแล้ว เอมมี่ มรกต ยังเป็นคุณแม่ที่สมบูรณ์แบบด้วย เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เจ้าตัวได้เล่าให้ฟังถึงความตั้งใจที่จะมีลูกมาตั้งแต่เด็กๆ พร้อมกับเปิดความลับเคยเลิกกับ พี่หนุ่ม มาแล้ว เพราะความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องมีลูก แต่สุดท้ายก็กลับมารักกันจนแต่งงาน และก็กว่าจะมีลูกได้นั้น เอมมี่เผยว่าอยากมีลูกมากจนไปตะเวนไหว้พระขอลูก พร้อมเล่าถึงบทบาทของ ศาวิกา ในเรื่องตะวันตกดิน ละครเรื่องสุดท้ายก่อนเอมมี่จะลาจอ เรื่องนี้คือทุ่มเทสุดชีวิตจริงๆ
ถาม ได้ยินมาว่าทำการบ้านหนักมากับบท ศาวิกา
เอมมี่ มรกต : หนักมากค่ะ สำหรับมี่ เพราะว่ามี่ห่างไป 3 ปีเต็มๆ มี่เลยรู้สึกว่าทำยังไงให้เราได้กลับมาได้ชื่อว่าเป็นนักแสดง อย่างเต็มตัว เป็นนักแสดงที่มีคุณภาพ มี่เลยทำการบ้าน นึกถึงภาพยนตร์ฝรั่ง เราก็เอากลับมาย้อนดูๆ บวกกับเขียนคาแรกเตอร์ละครตัวเองว่าเราคิดว่าเขาเป็นคนอย่างไร คิดถึงในชีวิตจริงว่าเรารู้จักใครแบบนี้ไหม ร้ายขนาดศาวิกา ไม่มีค่ะ แต่ว่าลักณะฐานะทางสังคม หรืออิริยาบท มันก็จะมีประมาณ 2 คนในชีวิตจริงของมี่ ก่อนที่มี่จะเข้าฉาก มี่จะนึกถึง 2 คนนี้ แล้วมันจะทำให้ มี่ค่อยๆ สร้างคาแรกเตอร์ของเราได้ แล้วเราสามารถสวมเป็นเขาได้เร็ว ส่วนตัวบทของมี่เอง พอเราโตขึ้นมาประสบการณ์เราเยอะขึ้น ถ้าเกิดทำบทหายในกองถ่าย ทุกคนจะรู้เลยว่าอันนี้ของมี่ เพราะว่าจะถูกขีดเขียนเยอะมาก เส้นเยอะ คำพูดเยอะ เช่นจะกะพริบตาตรงไหน หันตรงไหน พูดตรงไหน บางท่อง บางคำพูดอย่าง มี่เล่นกับพี่บอยเนี่ย ทำอย่างไรให้เขาอินกับบทที่เราพูด หรือมันเป็นคำพูดที่มี่ต้องการให้เขาโฟกัสกับมี่จริงๆ บทนั้นมี่จะไม่กะพริบตาเลย
ถาม มันทำให้รู้สึกว่าคนๆ นี้มีตัวตนอยู่จริง จนทำให้เราไม่รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ เอมมี่ มรกต แต่นี่คือศาวิกาจริงๆ จนรวมไปถึงเรื่องผมต้องสวย มือต้องสวย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ หุ่นต้องดี ทุกอย่างต้องเป๊ะ
เอมมี่ มรกต : เราตีความของเราเองว่าคุณหญิงศาวิกาต้องเป็นผู้หญิงที่สวย มีภาพลักษณ์ที่น่ามอง เสื้อผ้าหน้าผมของเขาก็ต้องเป๊ะ เวลาเขาจะออกไปเจอใคร ทำอะไร เพราะฉะนั้นอย่างที่มี่บอก การเล่นละครของมี่คิดว่าเราต้องไปนวดหน้าก่อนวันถ่าย เพราะว่าจะทำให้เลือดลมในหน้ามันจะได้ไหลเวียนดี คิ้วก็ต้องไปแว๊กซ์ให้เรียบร้อย เล็บก็ต้องทำค่ะ ออกกำลังกายเราก็ต้องออกค่ะ เพราะว่าเราก็อยากจะออกมาสวย เพราะว่าคุณหญิงศาวิกาคงไม่ปล่อยตัวเองไปเจอคนอื่นแบบโทรมๆ หรือไปออกงานสังคม เราก็เลยสร้างทุกอย่างและทำทุกอย่างให้เป็นคาแรกเตอร์ตัวนี้ค่ะ ใครที่คิดว่าเป็นดาราง่าย มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยค่ะ
ถาม แต่สำหรับเอมมี่ก็มีเซอร์ไพรส์ให้สามีจากการที่เก็บหอมรอมริบที่เขาบอกว่าเงินทั้งชีวิตเอมมี่ที่ทำงานมา ไม่เคยเก็บเงินตัวเองเลยเพราะให้พี่หนุ่มสามีเก็บให้ทั้งหมด แต่ช่วงที่ผ่านมากลายเป็นว่าเอมมี่เป็นคนซ่อนเงินไม่ให้พี่หนุ่มรู้
เอมมี่ มรกต : ก็มีนิดหนึ่งค่ะ จริงๆ แล้วมี่เป็นคนไม่เก่งเลข แล้วเป็นคนใช้เงินเก่ง มีเท่าไหร่ก็ใช้ เราก็รู้สึกว่ามันก็สมเหตุสมผลนะคะ เราให้พี่หนุ่มดูแลมานานแล้ว ได้มาเท่าไหร่ก็ให้พี่หนุ่ม เขาดูแลไป เพราะว่าอยู่กับเขามันเซฟอยู่แล้ว เราไม่คิดว่าเขาจะเอาไปใช้หรือว่าอะไรอย่างนี้ค่ะ จนพอเราตั้งใจจะมีลูก หลังแต่งงานไม่นาน มี่ก็คิดว่าเราต้องมีบัญชีให้ลูก อยากมีให้เขา ซึ่งเราก็เริ่มเก็บบ้าง ซึ่งเขาก็รู้ว่าเรามีบัญชีอันนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าเราใส่ไปเท่าไหร่ บางงานก็ไม่ได้เอ่ยบอกว่ามี่ได้เท่าไหร่แล้วมี่ก็เอาไปเก็บ แล้วบังเอิญมันมีจังหวะหนึ่งที่เขาอยากได้รถคันหนึ่งมากแล้ว มี่กับพี่หนุ่มเราฐานะปานกลางมาอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้มีเยอะ เพราะว่าเราสู้มาด้วยกันเยอะค่ะ เรื่องของเรื่องคือตอนที่เขาจะซื้อแหวนเพชรให้เรา ไหนจะเรื่องงานแต่งงาน ไหนจะซื้อที่สร้างบ้านเพื่อเป็นเรือนหอ มี่ก็รู้ว่าเขาใช้จ่ายเงินไปเยอะมาก เขามีรถคันหนี่ง แล้วเขาก็เอาไปขายเพื่อที่จะเอาเงินนั้นมาซื้อแหวนให้เรา มันก็เป็นรถคันหนึ่งที่เขารักเหมือนกันค่ะ แล้วเราก็รู้มาและมันก็ติดอยู่ในใจของเรามาตลอด แล้วไม่นานมานี้เขาบอกว่าเขาชอบรถคันนี้จังเลย เราก็ถามเขาว่าเท่าไหร่ เราก็บอกว่าเราพอมีเราซื้อรถคันนี้ให้เขาได้ไหม เพราะว่าตอนนั้นพี่หนุ่มขายรถที่พี่หนุ่มรักมาซื้อแหวนให้มี่ ซึ่งเราก็คุยกับเขาตรงๆ เลยค่ะ ว่าตอนนี้มี่มี มี่ขอซื้อให้ได้ไหม เราก็เลยซื้อให้เขา แล้วเราก็รู้สึกว่าเราสบายใจแล้ว ปลดตรงนั้นไปว่าเขาเคยทำให้เรา
ถาม เห็นว่าเคยทะเลาะกับพี่หนุ่มจนเคยจะเลิกกัน เพราะเรื่องที่เอมมี่อยากจะมีลูก
เอมมี่ มรกต : อันนั้นน่าจะเป็นปีที่ 7 ที่คบกันค่ะ 7 ปีอาถรรพ์เลย เหมือนเราคุยกัน เราก็บอกเลยว่าเราอยากมีลูก อยากแต่งงาน มีลูก มี่ห่างจากพี่หนุ่ม 13 ปี แต่ตอนที่เราทะเลาะกัน เรายังไม่ได้แต่งงานกันนะคะ มี่คุยกับเขาก่อนเลยว่าโอเค ถ้าเรามีแพลนที่จะแต่งงานกัน ต้องมีลูกนะ ฉันจะแต่งงานกับผู้ชายที่จะมีลูกกับฉัน แล้วเขาก็แบบมันไม่ใช่เขา ซึ่งเขาก็ยืนหยัดหนักแน่นมากที่จะไม่มีลูก แต่เราก็ยืนหยัดมากที่จะมี แล้วด้วยความที่เขากับมี่ตอนนั้นหัวแข็งพอๆ กัน มี่จำได้เลยว่าเราทะเลาะกันแล้ว มี่เชิดใส่ แล้วมี่ก็ไปเลย
ถาม เราเชิดใส่เพราะเราคิดว่าเราจะต้องใช้สิ่งนี้ต่อรองหรือเปล่า หรือว่าเราเชิดใส่จริงๆ
เอมมี่ มรกต : เราเชิดใส่เพราะว่าเราจะต้องรีบไปหาคนที่จะทำให้ความใฝ่ฝันของเราเป็นจริงได้ ถามว่าตอนนั้นเสียดายไหมที่เราคบกันมา 7 ปี ตอบได้เลยว่าตอนนั้นคือไม่ค่ะ เพราะว่าเขาไม่ยอมมีลูก เราอยากมีลูกมาตั้งแต่เด็กค่ะ 7 ปีมันไม่เท่าไหร่หรอกสำหรับเรา เพราะเราคิดว่าความสุขของเราคือการมีลูก แล้วเชื่อว่าคนที่ไม่มีลูก เขาก็แฮปปี้ในทางของเขา แต่สำหรับของมี่ คืออยากมีลูก มี่ก็ไป เขาก็ปล่อย ตอนนั้นคือเลิกจริงจังไปเลย 2 ปีค่ะ แบบไม่ได้คบกันเป็นแฟน ตอนนั้นเราร้องไห้ 3 วันติดกันเลย ไม่ทำอะไรเลย ข้าวไม่ทานเลย จนเพื่อนต้องไปขุดเราออกมาจากเตียงเลยค่ะ แต่หลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่าไม่ได้แล้ว เราต้องสวยเพื่อให้คนอื่นมาจีบ เผื่อเราจะได้สมหวังในการแต่งงาน แล้วเราก็จะได้สมหวังในการมีลูก ที่จำได้คือพอเพื่อนไปขุดเราออกมาคือเราก็ไปเที่ยวเลย แต่ก็พอเรามองย้อนกลับไปก็เป็นเรื่องที่ตลกมากเลยค่ะ เพราะจริงๆ มันไม่จำเป็นต้องขนาดนั้นก็ได้
ถาม แต่ด้วยวัยหนึ่งเข้าใจว่าเวลาที่เรารู้สึกว่ามันมีความฝันอะไรบางอย่าง มันจะมีบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราจะทรยศความฝันของเราไม่ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่มันไม่มีทางไปสู่ตรงนั้นปั๊บ ได้ ฉันเลิก แต่สิ่งหนึ่งคือตลอดระยะเวลาที่เลิกกัน เราไม่เคยเติมน้ำมันรถด้วยตัวเองเลย เพราะถึงไม่ได้เป็นแฟนกัน เขาก็ส่งคนมาเติมน้ำมันรถให้เหรอ
เอมมี่ มรกต : ใช่ค่ะ เขาส่งคนมาดูแลเราตลอดเลย
ถาม และด้วยความที่อยากจะมีลูกมาก เอมมี่ถึงกับไปตะเวนไหว้พระหลายที่เลย
เอมมี่ มรกต : ก็ไปมูชุดใหญ่ค่ะ ไกลสุดก็ไปที่อังกฤษ เพราะว่ามี่เป็นเด็กวัดค่ะ เรียนภาษาไทยที่วัดใช่ไหมคะ วัดพุทธประทีป ที่ประเทศอังกฤษ ก็ไปขอหลวงพ่อดำที วัดพุทธประทีป ก็ไปขอที่นั่น แล้วก็ไปขอที่พม่าที่ชเวดากอง พี่มดดำก็บอกว่าไปขอจุดนี้ๆ เราก็ไปที่นั่น และอีกที่คือครูบาศรีวิชัยที่เชียงใหม่ค่ะ เพราะตอนที่มี่ได้นางงาม มี่ก็ไปเก็บตัวที่นั่น ที่ เชียงใหม่ ก็ไปขอสามที่ เลยได้ลูกมา เพราะก่อนหน้านี้เราก็พยายามทำหมดทุกอย่าง ทั้งตรวจเช็กในทางวิทยาศาสตร์เราก็ได้ผสมน้องข้างนอกค่ะ แล้วก็ใส่น้องเข้าไป แต่ด้วยความที่อาจจะเป็นเพราะเราก็ต้องสู้หรืออะไรอย่างนี้ วันที่น้องมา ตรวจแล้ว ก็ร้องไห้อีก คงเป็นเพราะว่าด้วยความที่เราอยากมีมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ แล้วพอได้มีแล้ว พอไปตรวจ บังเอิญว่ารกเกาะต่ำมาก แบบเขาเข้าไปแล้ว แต่เขาเกาะเหมือนโหนอยู่ค่ะ คุณหมอก็เลยสั่งให้พัก 2 สัปดาห์ นอนอย่างเดียวเลยค่ะ แบบติดเตียงเลยค่ะ พี่หนุ่มเขาก็ดูแลเราดีมาก จะเข้าห้องน้ำก็อุ้ม จะทานข้าวก็ป้อน คือดูแลเราดีมาก แต่พอหลังจากสองอาทิตย์เราก็ไปตรวจอีก คุณหมอก็บอกว่าติดแล้ว ทำตัวปกติได้เลย แต่ด้วยความที่เรากลัวว่าน้องจะหลุดอีก เราก็เลยไปอัลตร้าซาวด์ทุกอาทิตย์เลย ปกติเขาไปสองอาทิตย์ เพราะหมออยู่ทองหล่อ อยู่ใกล้บ้าน เราก็ไปดูเขาตลอด
เอมมี่ มรกต : แต่พออายุครรภ์เราได้ 35 สัปดาห์ คุณหมอบอกว่าไม่ได้แล้ว ต้องผ่าแล้ว เพราะดูเหมือนว่าน้องเขาหัวใจหยุดเต้นไปแป๊บหนึ่งค่ะ แล้วพอดีฤกษ์ที่ขอไปกับวันที่คุณหมอจะผ่าคือวันเดียวกันพอดี แล้วมี่ด้วยความที่ไม่ได้คิดและเห็นคนเก็บสเต็มเซลล์กัน เราก็จะเก็บสเต็มเซลล์เพื่อเอามาทำหน้า ตั้งใจติดต่อบริษัทเอาไว้หมดแล้ว พอวันผ่าออกมาเนี่ย บังเอิญว่ารกของลูกมันกรอบแห้งหมดเลยค่ะ เลือดไม่ไปหล่อเลี้ยงเขามาประมาณ 2 วันแล้ว เขาก็สู้มาด้วยตัวเอง หาอะไรมาดูแลตัวเองมาจนถึงวันที่ผ่าวันนั้นเลยค่ะ แต่วันนั้นตอนแรกเราก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก เพราะคนที่เราห่วงที่สุดคือสามีเพราะว่ากลัวว่าพี่หนุ่มเขาจะเป็นลม เห็นเลือด เห็นการผ่า แล้วเราก็โดนบล็อกหลังไปเหมือนหน่วงๆ เวลาคลอดลูกออกมาค่ะ แต่เราดูหน้าพี่หนุ่มตลอดเวลาว่า พี่หนุ่ม โอเคใช่ไหม เพราะเขากลัวเลือด เขาคงกลัวการคลอด การผ่าท้อง การอะไรอย่างนี้เขาคงกลัวไปหมด แล้วพอลูกออกมา พี่หนุ่มเขาก็บอกว่าลูกออกมาแล้ว เราก็ถามว่าลูกครบใช่ไหม แล้วพี่หนุ่ม โอเคใช่ไหม แล้วพอพี่หนุ่ม บอกว่าโอเค มี่เลยบอกคุณหมอว่า มี่ ขอหลับ แล้วก็หลับไปเลยค่ะ
ถาม จริงแล้วคือใจสู้ทั้งคุณแม่และคุณลูกเลย
เอมมี่ มรกต : เขาสู้มาตั้งแต่วันแรกของเขาเลย จนถึงวันที่เขาผ่าออกมา เขาสู้มาก และเขาก็คลอดก่อนกำหนด เขาก็ต้องเข้า NICU อยู่สองสัปดาห์ค่ะ แล้วเราก็กลับบ้านไปแล้ว ก็ต้องมาหาลูกทุกวัน
ถาม ความใฝ่ฝันของเราที่อยากมีลูกมาตลอดชีวิตวันที่อุ้มเขาเป็นอย่างไรบ้าง
เอมมี่ มรกต : ก็ร้องไห้ แต่ก็มันคงไม่ได้ทันคิด แต่ก็คือมันอินมากๆ จนถึงวันนี้ ก็ยังอินในความเป็นแม่มากๆ เลยค่ะ ตอนที่กอดลูกครั้งแรก มี่ว่ามันก็คงทำให้เราเหมือนแบบความรักเปี่ยมล้นจนถึงทุกวันนี้ก็ ยังคงรู้สึกว่าเรายังอินกับเขามากๆ อยู่เลยค่ะ
ดูคลิปย้อนหลังรายการ Club Friday Show ได้ทางยูทูป
