คุมตัวทำแผน หนุ่มอาข่า อ้างพิษโควิด ไม่มีเงินผ่อนรถ ชนวนสังหารโหด หญิง วัย 70 จ.เชียงใหม่
วันที่ 18 ก.ค.64 พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ออน เชียงใหม่ สอบสวนปากคำ นายนวฤทธิ์ วณิชจินดา อายุ 37 ปี เป็นชาวเขาเผ่าอาข่า ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดฆ่าปาดคอ น.ส.ผ่องศรี มธุรณานนท์ อายุ70 ปีแล้วทิ้งร่างหมกป่า บริเวณป่าริมถนนสายแม่ออน-แม่ตะไคร้ (ถนนหมายเลข1230 ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 19–20) ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
โดยทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มต่อหน้าทนายความ 4 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ชิงทรัพย์ ซ่อนเร้น ปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพและลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อหา
จากนั้นตำรวจได้นำอาหารกลางวันเป็นข้าวกล่องข้าวกะเพราไข่ดาวให้ผู้ต้องหารับประทาน ก่อนที่จะพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ
พันตำรวจเอกคมสันต์ สอาดล้วน ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรแม่ออนเชียงใหม่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าในชั้นการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าแรงจูงใจที่ฆ่าคุณป้าเพราะต้องการเงินจากคุณป้า เนื่องจากช่วงนี้เขาเจอวิกฤตโควิด จากเดิมมีรายได้จากการขับรถตู้ เขาต้องการเงินไปใช้หนี้ให้กับค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เลยจำใจต้องฆ่าคุณป้า โดยวันเกิดเหตุนั้นได้เอาเงินจากกระเป๋าคุณป้าได้เงินสดไปสองหมื่นกว่าบาท
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่ออนเชียงใหม่ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค5 ได้เบิกตัวผู้ต้องหาออกจากห้องควบคุมไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตรงจุดเกิดเหตุบริเวณ
ในป่าริมถนนสายแม่ออน-แม่ตะไคร้(ถนนระหว่างหลักกิโลเมตรที่19–20)ต.ห้วยแก้วอ.แม่ออนจ.เชียงใหม่
โดยเริ่มต้นจากผู้ต้องหาได้ขับรถตู้กลับจากร้านอาหารและจอดรถริมข้างทางพร้อมกับใช้อุบายชักชวนผู้ตายลงมาจากรถ อ้างว่าจะพาผู้ตายมาดูดาว ก่อนที่จะมีปากเสียงทะเลาะกันและผู้ตายได้ใช้อาวุธมีด ที่เตรียมมาในรถปาดคอและแทงซ้ำผู้ตาย จากนั้นได้ลากศพเอาไปทิ้งในป่าข้างทางเป็นทางลงเขาลาดชั้นข้างทางห่างจากถนนประมาณ 30 เมตร
ระหว่างที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพผู้ต้องหาไม่มีอาการสะทกสะท้านแต่อย่างใด สีหน้าค่อนข้างเรียบเฉย ตำรวจใช้เวลาทำแผนประมาณ15นาที
จากนั้นได้คุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้เดินทางไปทำแผนยังจุดที่ 2 ที่ผู้ต้องหาขโมยตู้เซฟของผู้ตายมาจากคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านถนนช้างคลานในตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี