นาทีมรณะเก๋งดิ่งสระจมสลด หนุ่มโดดช่วยไม่กลัวตาย กูรูเผยทริครอดถอดเบาะทุบ (คลิป)

วันที่ 16 ก.ค. 64 เมื่อเวลา 18.45 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีรถเก๋งชนราวสระน้ำ ตกลงในสระน้ำมีคนติดอยู่ภายในรถ ที่บริเวณสระหนองกง ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง ร.ต.ท.ภานุวัฒน์ ริมหมู่ดี ร้อยเวร สภ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยชุดประดาน้ำของกู้ภัยสุรินทร์ และกู้ชีพสุรินทร์ รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณสระหนองน้ำ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ หรือ "สระน้ำหนองกง" พบชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์กันเป็นจำนวนมาก ชุดประดาน้ำของกู้ภัยสุรินทร์และกู้ชีพสุรินทร์ ได้รีบลงดำลงไปในสระน้ำ เพื่อที่จะช่วยนำร่างผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นคนขับอยู่ภายในรถเก๋งที่จมอยู่ในสระน้ำหนองกงขึ้นมา งมได้ประมาณ 10 นาที จึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากสระได้ เป็นชาย 1ราย

ทราบชื่อต่อมาคือ นายจตุรงค์ แย้มเดช อายุ 52 ปี ในที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐานหรือบัตรประชาชน ทราบเพียงพักอาศัยอยู่ที่บ้านโดนโอก ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีตำแหน่งเป็นครูประถมศึกษา เอกภาษาอังกฤษ สอนอยู่โรงเรียนบ้านหนองกง ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นอกจากนี้ กู้ภัยสุรินทร์ได้ลากรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า CRV สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ-6979 สุรินทร์ เป็นของผู้ตาย ซึ่งจมอยู่ในสระน้ำ สภาพหน้ารถยุบพังเสียหาย เพราะชนเข้ากับราวสระน้ำ

วันที่ 17 ก.ค. 64 นายน็อต อายุ 20 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ และเป็นคนที่กระโดดน้ำลงไปช่วย เล่าว่า ตนได้นำรถจักรยานยนต์ของตนมาซ่อมที่ร้านใกล้ที่เกิดเหตุ ตนเป็นผู้กระโดดลงไปช่วยช่วงที่รถเก๋งคันดังกล่าวที่พุ่งชนราวสระน้ำ แล้วกำลังจมลงไปในสระ ผู้ตายพยายามจะออกมาจากรถ และไม่สามารถออกมาได้

"ผมลงไปช่วย แต่ไม่ทัน ผมเห็นว่ารถมันจมลงใต้น้ำแล้ว ผมจึงว่ายกลับเข้ามา และสังเกตเห็นคนในรถได้เรียกขอความช่วยเหลือ แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะรถจมลงเร็วมาก ผมจึงได้ว่ายกลับเข้าฝั่ง" พลเมืองดี กล่าว

ด้านนายเขต ผู้เห็นเหตุการณ์ ลูกค้าร้านขายข้าวที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนกำลังนั่งทานข้าวอยู่ และเห็นรถคันดังกล่าวขับมาอย่างเร็วมาก คาดว่าน่าจะแตะเบรกผิดเป็นคันเร่ง รถพุ่งมาชนราวสระน้ำแล้วตกลงไป

นายสุรมิส เจริญงาม ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ เปิดเผยว่า จากภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรถยนต์ที่มาพุ่งชนรั้ว และตกสระน้ำนั้น ทำไมเปิดประตูช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตนมองว่าถ้ารถยนต์เกิดอุบัติเหตุหรือมีการกระแทก ถุงลมนิรภัยจะทำงาน ถุงลมจะระเบิดและแตกตัวออกมา ถุงลมจะใช้เวลาในการระเบิดเร็วมากในอัตราส่วน 50 ต่อ 1,000 วินาที และใช้เวลา 20 วินาที ถุงลมจะยุบตัวลงไป ในการทำงานของถุงลมนิรถัย จะมีก๊าซไนรโตรเจนเป็นก๊าซหลัก ทำให้ผู้ที่อยู่ภายในตัวรถสูดดมเข้าไป และปริมาณออกซิเจนในผู้ที่ขับรถจะน้อยลง ทำให้เกิดอาการวิงเวียน ทำให้ผู้ที่อยู่ในรถยนต์จะช่วยตัวเองได้ยาก

กรณีดังกล่าวที่รถยนต์ตกไปในน้ำ สังเกตได้ว่าสีของน้ำจะค่อนข้างดำขุ่น แสงในตัวรถยนต์จะมีน้อยมาก ในรถยนต์จะเป็นไปด้วยความมืด และรอบตัวรถยนต์มีน้ำท่วมถึงระดับประตูหน้า จะทำให้ความดันของน้ำภายนอกรถมีมากกว่าภายในรถยนต์ จึงทำให้เปิดประตูรถยนต์ได้ลำบาก ส่วนระบบของรถยนต์เวลาพุ่งลงน้ำ เครื่องยนต์ก็จะดับ และหยุดการทำงาน

การที่จะรอดจากสถานการณ์แบบนี้ได้ จะต้องใช้สติเป็นอย่างมาก รอให้น้ำท่วมรถถึงระดับน้ำปกติ แล้วชุดกลไกลของรถจึงจะสามารถทำงานได้ อาจมีการเตรียมอุปกรณ์ด้วยชุดค้อนทุบกระจก ในการใช้ในสถานการณ์ที่รถยนต์ตกน้ำ และควรเลือกทุบกระจกด้านข้าง เพื่อออกจากรถในการเอาตัวรอดมากกว่ากระจกส่วนอื่น ๆ

นอกจากนี้ ถ้าหากว่าไม่มีชุดค้อนทุบกระจก อาจใช้หัวเบาะตรงพนักพิงมาใช้ได้ เนื่องจากตรงหัวเบาะจะมีปลายเหล็ก ที่จะสามารถนำมากระแทกกับกระจกรถได้ แต่อาจต้องใช้แรงและน้ำหนักมากกว่าการใช้ค้อน อย่างไรก็ตาม ฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวัง มีสติและเตรียมอุปกรณ์อย่างเช่นค้อนไว้ในรถ เพื่อใช้ในยามฉุกเฉินได้