เพื่อนรัก 20 ปี ! น็อต-เพชร โพสต์ภาพคู่ ลั่นด่าได้แต่เลิกคบไม่ได้ อย่าให้ความคิดมาทำลายมิตรภาพ

13 ก.ค. 64

จากกรณีการปะทะฝีปากกันระหว่าง เพชร กรุณพล กับพิธีกรดัง น็อต วรฤทธิ์ ปมวัคซีนโควิด-19 จนประโยค “เรื่องของมึง-แต่เรื่องของมึงมันปลอมอะ” กลายเป็นไวรัล และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สนั่น ต่อมาทั้งคู่ก็ได้ออกมาเคลียร์กันผ่านรายการดัง แจงคอมเมนต์ดุเดือดแค่คุยแบบเพื่อนสนิทกัน

- เพชร กรุณพล เผยยามทุกข์ น็อต วรฤทธิ์ อยู่ข้างๆ ไม่ไปไหน หลังชาวเน็ตยุให้เลิกคบ! เหตุ “เรื่องของมึง-แต่เรื่องของมึงมันปลอมอะ”

โดย น็อต-เพชร เผยในรายการแฉว่า ที่เห็นพูดมึง-กู เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมา 20 ปี ปกติคุยการเรื่องเมืองกันไลน์กลุ่มอยู่แล้ว แต่พอหลายคนไม่รู้ว่าสนิทกันแค่ไหนและตัวหนังสือที่พิมพ์อาจสื่อสารไปทำให้เข้าใจผิดว่าทะเลาะกัน

เพชร : จริงๆ แล้วผมกับน็อตเราก็จะคุยกันเรื่องการเมืองอยู่ในกลุ่มไลน์ ซึ่งจะมีพี่ลิง พี่อ๊อฟ พี่กิ๊ฟ พี่ทีน และก็พี่เอ็ม คือเราก็จะคุยกันแลกเปลี่ยนกัน และด้วยความที่รู้จักกันมาหลาย 10 ปี หลายสิบปี

น็อต : 20 ปี ประมาณ

เพชร : เวลาคุยกันตามประสาผู้ชายเราก็จะมีการใช้คำหยาบกันนิดหนึ่ง ขึ้นมึง ขึ้นกู แต่เราก็ไม่เคยมีอารมณ์ที่จะเก็บมาเพื่อทำร้ายกัน

น็อต : จริงๆ แล้วในกลุ่มนี้เราคุยกันทุกเรื่องนะครับ เรื่องพรรคพวก เรื่องในวงการ เรื่องต่างๆ นานา คุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว และก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่เป็นประเด็น หลักๆ ผมได้ไปอ่านมาจากคนอื่น และผมก็โพสต์เพื่อเก็บไว้อ่านเพราะว่ามันยาว ยังไม่มีเวลาอ่าน ทีนี้เพชรมันมาอ่านก่อน มันก็เลยมาเขียนๆ ของมัน แต่ด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกันสนิทกันและผมยังไม่ได้อ่านที่เพชรมันเขียนหรอก ก็เรื่องของมัน เท่านั้นแหละ คือเป็นการที่เพื่อนคุยกัน

เพชร : เพชรคิดว่ามันเป็นเรื่องของตัวอักษรด้วยครับ ที่ไม่สามารถสื่ออารมณ์ได้ว่าแต่ละคนมีความรู้สึกอย่างไรกับคำพูดนั้น และคำพูดมันก็เป็นคำพูดที่คุยกันแบบมีคำหยาบ ขึ้นมึง ขึ้นกู หรือมีคำว่าเสื-ก ซึ่งถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายคุยกันมันเป็นเรื่องปกติ แต่พอมันกลายเป็นคนที่ไม่ได้รู้ว่าเรารู้จักกันแค่ไหน สนิทกันแค่ไหน หรือใช้คำพูดยังไง มันไม่ผิดที่คนจะตีความหมายและสื่อไปในแนวนั้นได้ ยิ่งมันเป็นกระแสที่คนมีความกังวลเกี่ยวกับวัคซีนด้วย

น็อต : คือข้อที่ 1 คือ เฟซบุ๊กที่ผมเล่นเป็นไพรเวท ก็คือปิดเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว และผมก็เอาไว้ดูเพื่อนฝูงที่รู้จักกันซึ่งมีไม่เยอะ ส่วนผมกับเพชรเรารู้จักกันมานานมาก และเราก็พูดจากันแบบนี้ แบบเพื่อนสนิทกัน พูดกันได้ทุกเรื่อง ซึ่งเราก็ยอมรับซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ไม่มีใครโกรธ ไม่มีใครเกลียดกัน และสำคัญที่สุดตอนนี้คือ เรากำลังอยู่ในสงครามที่ต่อสู้กับเชื้อไวรัส ศัตรูของเราคือไวรัส ไม่ใช่พวกเรากันเอง เพราะฉะนั้น ณ วันนี้มันไม่ใช่ว่าเราต้องมามีความเห็นที่แตกต่างกัน มีข้อมูลที่แตกต่างกัน แล้วต้องมาตีกันให้ตาย เพราะสิ่งที่เราต้องเอาชนะคือไวรัสโควิดนี้ที่ต้องการความร่วมมือจากทุกคน มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้จะต้องร่วมกัน ทำอย่างไรก็ได้ให้ไวรัสมันไม่ใช้เราเป็นเครื่องมือ เป็นพาหะในการส่งต่อไวรัสไปถึงคนอื่น นี่คือสิ่งที่เราต้องร่วมมือกัน ไม่ว่าใครจะมีข้อมูลอะไรก็ตาม เอามาแชร์กัน เอามาคุยกันอย่างสร้างสรรค์ ช่วยกันหาทางออกให้กับมนุษยชาติทุกคนบนโลกใบนี้

เพชร : เรื่องนี้ผมอยากจะบอกแค่ว่าบทความนั้นน็อตเขาไม่ได้เขียนนะ แต่น็อตแชร์มา คนที่เขียนเขาเขียนประมาณว่าไวรัสเชื้อตาย เป็นไวรัสที่ปลอดภัย ส่วน mRNA เป็นไวรัสใหม่ที่ยังไม่มีผลการทดลอง และก็อาจทำให้ DNA ของเราเกิดการเปลี่ยนแปลง และก็อาจทำให้เรากลายเป็นซอมบี้ คือมันเป็นเรื่องที่หลายคนได้ยินมา แต่มันยังไม่มีบทพิสูจน์ และสำหรับผมนะ ผมรู้สึกว่าการที่เขาเขียนประมาณว่า การมีวัคซีนหลากหลายมันไม่ดี เพราะมันจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ทำให้มีต้นทุนในการเก็บรักษาอะไรต่างๆ นานา ซึ่งผมก็เห็นต่าง เพราะผมมองว่าการที่เรามีวัคซีนหลากหลายมันก็สามารถใช้กับคนที่แตกต่างกัน ทั้งในช่วงอายุ ทั้งในเรื่องสุขภาพ ทั้งในเรื่องการใช้งาน และวัคซีนมันก็สามารถยับยั้งการติดเชื้อได้ดี และมันก็มีบททดสอบมาแล้ว และข้อเท็จจริงที่เราเห็นอยู่ว่า วัคซีนซิโนแวค ในการฉีดก็ไม่สามารถที่จะคุ้มครองให้เราปลอดภัยได้ แต่ทำให้เราไม่มีอาการหนักจนถึงแก่ชีวิตได้มากขึ้น

น็อต : อย่างที่บอก ผมแชร์เอาไว้เพื่ออ่านศึกษาของตัวเองในพื้นที่ของตัวเอง เพชรก็มีข้อมูลของเพชร เพชรก็เข้ามาให้ข้อมูลของเพชรในพื้นที่ของผมเท่านั้น ผมก็บอก อ้าว นั่นเป็นเรื่องของมึง เพื่อนกันผมก็บอก เรื่องของมึงไว้ก่อน มึงจะมีขอมูลอะไรเอาไว้ก่อนเดี๋ยวผมขออ่านให้เรียบร้อยก่อน ขออ่านให้จบก่อน และสุดท้ายผมก็ขอบคุณข้อมูลของเขาที่เขาส่งมาให้

เพชร : ใช่ๆ น็อตก็พิมพ์คำว่า ขอบคุณ ซึ่งถ้าเห็นใครที่เข้าไปแรกๆ ก็จะเห็นว่าผมเข้าไปกดหัวใจให้เขา ซึ่งทุกครั้งที่ผมได้อ่านข้อความไม่ว่าจะของใครก็ตาม ผมก็จะมาร์คไว้ว่าข้อความนี้ผมได้อ่านแล้วได้ตอบแล้วด้วยรูปหัวใจ และมันก็ผ่านมาประมาณ 5-6 วัน และก็มีคนมาแชร์ ซึ่งเพชรก็รู้สึกว่ามันอาจจะเนื่องด้วยความเชื่อทางการเมืองที่แตกต่างกันระหว่างเพชรกับน็อต และก็ ณ ช่วงเวลานี้กระแสการเมืองมันก็เปลี่ยนแปลงค่อนข้างไว คนก็รู้สึกว่ามีความกดดันกับสถานการณ์บ้านเมืองที่มันควรจะต้องดีกว่านี้ แต่เรายังไม่เห็นแสงสว่าง มันเลยทำให้รู้สึกว่าใครก็ตามที่ได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือแชร์ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ควรจะต้องออกมารับผิดชอบและอีกอย่างหนึ่งตอนนี้ก็เป็นกระแสเกี่ยวกับคนที่เคยออกมาม็อบในสมัยก่อน ว่าควรจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกทุกคนว่า ไม่มีใครผิดหรอก ณ วันนี้ น็อตสามารถคิดแบบนี้ก็ได้ เพชรสามารถคิดแบบนี้ก็ได้ แจ็คสามารถคิดแบบนี้ก็ได้ หรือคุณผู้คุณชมก็เช่นกัน

น็อต : สิ่งที่ผมโพสต์มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเมืองเลย มันเกี่ยวกับความรู้ที่ผมอยากจะศึกษาก่อน ว่าจริงๆ แล้ววัคซีนที่มีทั้งหมดที่เรามีในโลกใบนี้อะไรที่มันพอจะช่วยกันได้บ้าง เป็นความรู้ในเฟซบุ๊กที่ผมอยากจะแชร์เอาไว้อ่านเอง เท่านั้นเอง เหตุผลมีเท่านั้นเอง และก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองด้วย เกี่ยวกับความรู้ทางด้านวัคซีนเท่านั้นเอง ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองใดๆ เลย เพราะฉะนั้นอย่าเอามาโยงเรื่องการเมือง ไม่ได้เกี่ยวอะไร ในเฟซผมก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น

1626152624955

เพชร : เอาจริงๆ ก็มีบางข้อความของน็อตที่ผมไม่พอใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในเมื่อเรายึดมั่นในหลักประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงที่จะสามารถอธิบาย หรือนำเสนอแนวความคิดความเชื่อของตัวเองได้ แม้จะไม่ถูกใจ เราก็จำเป็นที่จะต้องรับฟัง เพราะถ้าเราบอกว่า เราอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำการใดๆ ก็ตาม ที่จะไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น และไม่ไปละเมิดกฎหมายของประเทศ ผมเชื่อว่าวันนี้การที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ มาบอกว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น หลายๆ คนก็อาจจะไม่พอใจผมเช่นกัน ซึ่งผมก็ต้องขอโทษจริง

ผมอยากจะบอกว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดต่างกับเรา ใครก็ตามที่เคยมีอดีตอันเลวร้ายซึ่งเราไม่เคยชอบ การด่า หรือการผลักเขาออกไปจากเส้นทางของเรามันไม่ได้ช่วยทำให้ความสำเร็จของเรา ที่เราตั้งใจไว้มันเกิดเร็วขึ้น มันกลับกลายเป็นว่า ทำให้เรานั้นสร้างศัตรู ที่อาจจะเป็นศัตรูตัวเล็ก และกลายเป็นกลายเป็นศัตรูตัวใหญ่ขึ้น และมีความแค้นที่มากขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้จุดมุ่งหมายที่เราจะก้าวเดินไปมันถูกฉุดรั้งไว้ ฉะนั้นใครก็ตามที่มีความเห็นที่แตกต่างกับเรา เราให้ความรู้เขา ให้ข้อมูลเขา มาแลกเปลี่ยนกัน ว่าข้อมูลของเรากับข้อมูลของเขามันแตกต่างกันอย่างไร และทำให้เขาเข้าใจในเส้นทางของเรา

เพราะผมเชื่อว่าการขับเคลื่อนให้ประเทศนี้ให้มันไปต่อข้างหน้าได้ มันจำเป็นที่จะต้องใช้มวลชนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ไม่ว่าความคิดใด ผมเชื่อว่าทุกคนอยากให้ประเทศชาตินี้ดีทั้งนั้นแหละ ฉะนั้นเราควรจะเดินไปด้วยกันด้วยความเข้าใจ อย่าเดินไปด้วยความเคียดแค้น ถือมีดไว้ข้างหลัง เส้นทางมันมีหลายทางในการที่จะไปยอดเขา แต่ถ้าเขาจะเลือกทางนั้นเราก็ต้องปล่อยเขา ส่วนเราเลือกทางนี้เราก็ต้องยึดมั่นในเส้นทางของเรา ไม่ใช่ไปตะโกนด่าเขาว่ามึงมันโง่ ทางนี้มีบันไดทำไมลุยเข้าป่า มันไม่ใช่ทางที่ถูกสำหรับความคิดผม อย่าผลักใครออกไปข้างทาง พยายามเข้าใจเขาเข้าใจเรา อย่าทำเหมือนที่เราไม่อยากให้ใครมาทำกับเราครับ

น็อต : ผมอยากจะบอกว่ายังไงเราก็คนไทยด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะมาด่าว่าผมด้วยความที่คุณไม่พอใจในสิ่งที่ผมโพสต์ไปหรืออะไรก็ตาม มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกครับ ทุกอย่างมันจะดีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อตัวเราเองที่จะเข้าใจโรคจริงๆ และอยู่กับมันให้ได้จริงๆ อย่างที่ผมบอกศัตรูของเราไม่ใช่เรากันเอง แต่ศัตรูของเรามันคือโควิด เราต้องเอาชนะมันให้ได้ก่อน เอาชนะมันให้ได้ด้วยการร่วมมือร่วมใจกันของทุกคนบนโลกใบนี้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ล่าสุด ในอินสตาแกรมของทั้งคู่ ก็ได้โพสต์ภาพเดียวกัน พร้อมแคปชั่นยืนยันมิตรภาพแข็งแกร่ง

โดยหนุ่ม น็อต แคปชั่นว่า "อย่าให้ความคิดมาทำลายมิตรภาพ คิดต่างอย่างสร้างสรรค์ ร่วมมือกันฟันฝ่าโควิด"

ขณะที่หนุ่ม เพชร แคปชั่นว่า "ด่าได้ ดุได้ โกรธได้ งอนได้ ดีได้ หายได้ แต่เลิกคบไม่ได้ #เห็นต่างแต่ไม่แตกแยก #เพื่อนรัก #พี่เพชรท่องโลก #พี่เพชรเข้าครัว #พี่เพชรสายหวาน"

1626149880253

1626149939619

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส