เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 64 พ.ต.ต.ชาญฤทธิ์ สุขเจริญ สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุ น.ส.ปาริชาติ แถวเนิน อายุ 26 ปี มึนเมาจากการเสพยาเสพติด ขับรถรถเก๋ง ชนเข้ากับ นายช็อต ชนะสิทธิ์ อายุ 69 ปี ประธานสภาเทศบาลตำบลหนองบัว ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ บริเวณถนนสายปานศิลป์-เนินโพธิ์ หมู่ 7 ต.หนองบัว อ.เมืองจันทบุรี เป็นเหตุทำให้นายช็อตเสียขีวิต
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายในรถของ น.ส.ปาริชาติ พบอุปกรณ์เสพไอซ์ เบื้องต้น น.ส.ปาริชาติ ให้การว่าได้ไปดื่มสุรากับเพื่อนที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านเนินโพธิ์ ต.หนองบัว ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 8 ก.ค. จนถึงช่วงสายของวันที่ 9 ก.ค. รวมถึงได้เสพยามาแล้ว 1 ครั้ง หลังจากขับรถไปทำธุระในเมือง เมื่อถึงที่เกิดเหตุเกิดอาการวูบหลับ ทำให้รถเสียหลักข้ามเลนไปชนกับผู้ตายที่ยืนคร่อมรถคุยกับชาวบ้านอยู่
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด แจ้งข้อหาขับรถในทางโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายและมีผู้ถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยผิดกฎหมาย และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
วันที่ 10 ก.ค.64 นายมณเฑียร ตรีผล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.หนองบัว จ.จันทบุรี บอกว่า ตนนับถือและให้ความเคารพผู้ตาย เนื่องจากตนเคยทำงานร่วมกับผู้ตาย ผู้ตายเป็นคนดี ดูแลพัฒนาตำบลอยู่ตลอด เสียดายที่ต้องเสียชีวิตด้วยเหตุเช่นนี้ อีกทั้งก่อนที่ผู้ตายจะถูกรถชน ผู้ตายเพิ่งทำการสำรวจจุดน้ำท่วมในตำบลมา
โดยผู้ก่อเหตุเคยขับรถเก๋งคันก่อเหตุผ่านพื้นที่หมู่ 6 บ่อยครั้งในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบางครั้งก็เคยมามั่วสุมในนาหมู่ 6 โดยตนก็ได้นำกำลังเข้าไปขับไล่ตักเตือนหลายครั้ง ทำให้ผู้ก่อเหตุกับกลุ่มเพื่อนย้ายไปเสพยาเสพติดที่อื่น ซึ่งผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่ในตำบลหนองบัวทราบดีว่าจุดที่คนมามั่วสุมเสพยาคือจุดใด แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นคนนอกที่เดินทางมามั่วสุม เมื่อขับไล่ ก็จะกลับมาใหม่ในช่วงที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ออกตรวจ
สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ตนได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบว่าผู้ก่อเหตุได้พยายามโทรศัพท์หาเพื่อน เพื่อน 2 คน ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุแล้วนำกระเป๋าสีดำคล้ายกระเป๋าเครื่องสำอางออกจากรถแล้วหนีไป ตนคาดว่าในกระเป๋าใบนั้นน่าจะมียาเสพติดอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบเพียงอุปกรณ์เสพยาไอซ์ภายในรถเท่านั้น ตนอยากจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุและเพื่อนของผู้ก่อเหตุให้ดูแลเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากผู้เสพถือว่าเป็นผู้ป่วย เมื่อถูกจับแล้วปล่อยออกมาแล้วมึนเมาก่อเหตุเช่นนี้ ผลที่ได้ไม่คุ้มเสียแม้แต่น้อย
นายชาญชัย ชนะสิทธิ์ ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พ่อตนไปสอบถามชาวบ้านเรื่องความเป็นอยู่ในทุก ๆ วัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเพิ่งรู้ความจริงว่าคนขับรถเก๋งที่ชนพ่อตน มีคดียาเสพติดมากก่อน และเพิ่งพ้นโทษมา ซึ่งตอนแรกที่ตนทราบคือเจ้าตัววูบ คิดว่าอ่อนเพลียจากการทำงาน ตนก็พอเข้าใจได้ แต่ตำรวจแจ้งว่าเกี่ยวกับยาเสพติด ตนโกรธมาก เพราะเขาไม่รับผิดชอบต่อสังคมเลย
นางวาสนา ชนะสิทธิ์ อายุ 64 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ สามีได้รีบร้อนก้มหน้าก้มตากินข้าวแล้วออกจากบ้านไปในเวลา 8.00 น. เพื่อไปตรวจพื้นที่จุดน้ำท่วมน้ำขังต่าง ๆ ในตำบล โดยที่ตนไม่มีลางบอกเหตุ และไม่ได้พูดคุยร่ำลากันแม้แต่คำเดียว หลังจากเกิดเหตุ ตนได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษตน บอกเพียงว่าหลับใน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ตนจึงทราบว่าผู้ก่อเหตุเสพยาเสพติดจนมีอาการมึนเมา เป็นเหตุทำให้เกิดเหตุ
ขณะนี้ทางครอบครัวค่อนข้างเสียใจและรับไม่ได้ เพราะอุบัติเหตุนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุทั่วไป เนื่องจากเกิดจากคนเสพยาเสพติดจนมึนเมา ทั้ง ๆ ที่ผู้ตายยังไม่ถึงเวลาที่ควรจะเสียชีวิต เพราะอายุเพียง 69 ปี ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะกลับตัวยาก เนื่องจากทราบมาว่าผู้ก่อเหตุเสพยาเสพติดบ่อยครั้ง เข้าออกคุกหลายครั้ง ซึ่งในวันเกิดเหตุตนยังทราบมาด้วยว่า ผู้ก่อเหตุมีท่าทีตกใจเจ้าหน้าที่เทศบาลที่เดินทางไปตรวจสอบเสาไฟฟ้าใกล้บ้านที่มั่วสุมเสพยา ทำให้ผู้ก่อเหตุรีบร้อนออกมาแล้วชน
โดยในช่วงเช้าวันนี้ ทางครอบครัวได้นิมนต์พระ 1 รูป ไปเชิญดวงวิญญาณผู้ตายแล้ว ตนได้บอกกับสามีให้ไปดี อยากให้ครอบครัวผู้ก่อเหตุมาขอโทษและขอขมาศพ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่ได้พบเจอครอบครัวผู้ก่อเหตุ
ทีมข่าวเดินทางมาที่ ต.บางสระเก้า อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี บ้านของผู้ก่อเหตุ ครอบครัวของผู้ก่อเหตุเหลือเพียงย่าชราวัย 85 ปี กับน้องสาววัย 11 ปี เพียง 2 คนอาศัยอยู่ ย่าและน้องสาวของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนติดยาเสพติด เคยพาเพื่อน ๆ มาเสพยาเสพติดที่บ้าน แล้วมีปากเสียงทะเลาะกับเพื่อนเมื่อนานมาแล้ว ครอบครัวทราบว่าผู้ก่อเหตุก่อเหตุขึ้นจากข่าว ทั้งนี้ ครอบครัวยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอยืนยันว่าจะไม่มีการประกันตัวหรือช่วยเหลือใด ๆ เนื่องจากผู้ก่อเหตุได้ทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่เมื่อปีก่อนแล้ว
ขณะนี้ผู้ก่อเหตุเหลือญาติเพียง 2 คน ย่าและน้องสาวต้องดูแลกันและกันเพียงลำพัง ยังชีพด้วยเบี้ยคนชรา และช่วยกันขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ ทางครอบครัวขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ตาย ใจจริงอยากจะเดินทางไปขอโทษด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากย่าอายุมากแล้ว ไม่มีคนไปรับ-ส่ง ส่วนน้องสาววัย 11 ปี ก็ยังเด็กเกินไปที่จะจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้
ทั้งนี้ ยอมรับว่าผู้ก่อเหตุเคยติดคุกมาแล้วหลายครั้ง คดีเสพและขายยาเสพติด เคยติดคุกล่าสุดเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน และเพิ่งพ้นคุกออกมาเมื่อปีที่แล้ว ผู้ก่อเหตุเคยกลับมาที่บ้าน 1 ครั้ง หลังจากที่ออกจากคุก มาเก็บเสื้อผ้าของใช้ที่เหลือ จากนั้นก็ไม่เคยกลับมาที่บ้านอีกเลยน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหวังว่าจากนี้ผู้ก่อเหตุจะได้รับบทเรียนและสำนึกได้
ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านไม้ 2 ชั้น ตั้งโดดอยู่หลังเดียวในซอยตัน ของพื้นที่หมู่ 7 ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากนัก บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ผู้ก่อเหตุกับเพื่อนใช้เสพยาเสพติดอยู่เป็นประจำ จากการสำรวจพบว่าบ้านปิดสนิท ไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน จากข้อมูลที่ทีมข่าวได้รับมา บ้านหลังนี้ปกติจะปิดเงียบไม่มีใครอยู่ แต่หากมีการนัดรวมตัว คนนอกพื้นที่ก็จะเดินทางมามั่วสุมกัน
โดยก่อนเกิดเหตุ มีพนักงานของเทศบาลตำบลหนองบัวได้เดินทางมาตรวจสอบเสาไฟฟ้าใกล้บ้านดังกล่าว คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะตกใจคิดว่าถูกเจ้าหน้าที่มาจับกุม ทำให้รีบขับรถเก๋งหนีออกมา แต่เกิดอาการหลับใน จึงชนเข้ากับผู้ตาย
