กรณีเพจเฟซบุ๊ก "ที่นี้แปดริ้ว" ลงเรื่องราว ระบุว่า น.ส.อิน (นามสมมติ) สาวทอม อายุ 15 ปี ถูกเรียกมาเป็นเด็กเสิร์ฟมอมเหล้า แล้วถูกข่มขืนจนท้อง โดยเกิดเหตุจากที่ได้ไปหารายได้พิเศษชงเหล้าให้กับกลุ่มผู้ชายในหมู่บ้าน และถูกมอมเหล้า หลังจากนั้น ชายที่ก่อเหตุ นายพันธ์ อายุ 46 ปี อยู่ในละแวกเดียวกัน พฤติกรรมการก่อเหตุจะทำการหลอกให้น้องมาชงเหล้า โดยให้ค่าจ้างและมอมเหล้าจากนั้นนำขึ้นรถพาไปล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งทางฝ่ายชายที่ก่อเหตุมีภรรยาและลูกอยู่แล้วนั้น
วันที่ 10 ก.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านใน จ.ฉะเชิงเทรา นางเยา (นามสมมติ) อายุ 74 ปี ยายของผู้เสียหาย เล่าวว่า ตนช่วยกันเลี้ยงเด็กชายวัย 1 เดือน 6 วัน ลักษณะการเลี้ยงตามมีตามเกิด ซึ่งนางสาวอิน (นามสมมติ) ปัจจุบันอายุจะ 17 ปี เหตุการณ์ในวันเกิดเหตุประมาณช่วงเดือน สิงหาคม 2563 มีการจัดงานวันเกิดของคนในหมู่บ้าน มีโต๊ะจีนประมาณ 3-4 โต๊ะ จากนั้นนายพันธ์ คนก่อเหตุ ซึ่งเป็นเพื่อนของเจ้าของวันเกิด ว่าจ้างให้ไปชงเหล้าให้คนในงาน ให้เงิน 500 บาท เด็กกินน้ำอัดลม 3-4 แก้ว แล้วถูกกระทำ
แต่ช่วงระยะหลัง สังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเด็ก ช่วงระยะประมาณครรภ์ได้ 7 เดือน ท้องมีลักษณะโตขึ้นผิดปกติ ประกอบกับตัวของนายพันธ์ คนก่อเหตุ มารับสารภาพโดยตรงกับยายว่าเป็นคนทำให้ท้อง ทุกคนจึงรู้ความจริงเมื่ออายุครรภ์ได้ 7 เดือน หลังจากที่ทุกคนรู้ความจริงแล้วก็มีคนรู้จักพาไปฝากครรภ์ทันที แต่ในสมุดฝากครรภ์ไม่ได้ระบุชื่อของพ่อเด็ก
แต่หลังจากที่ความจริงถูกเปิดเผย นายพันธ์ก็ไม่ได้สนใจ ลักษณะแวะมาเยี่ยมดูไม่นานแล้วก็กลับ เพราะฝ่ายชายก็มีครอบครัวอยู่แล้ว ประกอบกับระยะหลังเมียหลวงของนายพันธ์ห้ามไม่ให้ออกบ้าน และไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวด้วย
ทั้งนี้ ได้มีการเซ็นสัญญาต่อหน้าพนักงานสอบสวน นายพันธ์มีการจ่ายช่วยเหลือการเลี้ยงดูลูกเดือนละ 10,000 บาท เป็นประจำทุกเดือน แต่ก็ไม่เป็นไปตามข้อตกลง มีการจ่ายเลี้ยงดูลูกครั้งละ 3,000-5,000 บาทเท่านั้น ทำให้ตนเองต้องไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้ง จนกระทั่งเกิดเป็นข่าว
นอกจากนี้ ตั้งแต่ที่เด็กชายวัย 1 เดือนลูกชายของนายพันธ์คลอด ตนเองก็เห็นหน้านายพันธ์เพียงไม่กี่ครั้งวันแรกก็คือวันที่มีการตกลงว่าจะมีการจ่ายช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูให้กับลูก มีการจ่ายเงินให้ประมาณ 20,000 บาท แล้วตกลงว่าจะมีการจ่ายเพิ่มให้อีกจำนวน 100,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาดูแลอะไรอีก ตนเองสามารถที่จะเลี้ยงดูเหลนคนนี้ได้ด้วยตัวเอง
ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน สถานที่เกิดเหตุ ปัจจุบันเจ้าของงานวันเกิดได้ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านในต่างจังหวัดแล้ว ทีมข่าวจึงย้อนกลับไปที่โต๊ะหินอ่อนจุดเกิดเหตุ พบว่าชุดโต๊ะหินอ่อนดังกล่าว เป็นโต๊ะนั่งที่นายพันธ์ คนก่อเหตุ และเพื่อนของเจ้าของงานวันเกิด รวมถึงนางสาวอิน นั่งอยู่ด้วยกันที่โต๊ะหินอ่อน
ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านของนายพันธ์ อายุ 46 ปี คนก่อเหตุ มีรถบรรทุกมาจอดรอ 1 คัน มีคนงานประมาณ 2 คน และมีนายพันธ์ กับนางติ๊บ (นามสมมติ) ภรรยาของนายพันธ์ กำลังช่วยกันขนของออกจากบ้าน อ้างว่ากำลังจะย้ายไปอยู่ที่ต่างจังหวัด
นางติ๊บ (นามสมมติ) ภรรยาของนายพันธ์ เปิดเผยว่า ที่ตนเองต้องย้ายบ้านวันนี้ไม่ใช่เพราะหนี แต่อยู่ไม่ได้ เนื่องจากเจ้าของบ้านขับไล่ให้ออกจากบ้าน เพราะเป็นบ้านเช่าอยู่อาศัยไม่ได้ซื้ออยู่เอง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นบอกได้คำเดียวว่าเป็นหนังคนละม้วน สิ่งที่นางสาวอินพูดไม่ใช่ความจริง ตนเองมักถูกข่มขู่มาโดยตลอดเวลาที่ผัวตนเองไม่ให้เงิน อีกทั้งฝ่ายเด็กก็แอบส่งข้อความมาในโทรศัพท์สามีตน
"พี่รู้เรื่องที่มานอนกับผัวพี่ แล้วพอท้องไปแอบเคลียร์กัน พี่เพิ่งมารู้ไม่กี่เดือนก่อนจะคลอด เพิ่งมาบอกพี่ พี่เป็นเมียหลวง ไม่ฆ่ามันก็ดีแล้วที่มานอนกับผัวพี่ ว่าไหม เมื่อก่อนมันมาที่บ้านก็นึกว่ามันเป็นเด็กรับจ้างซื้อเหล้าบุหรี่ พี่ก็ไม่ได้คิดอะไร" ภรรยาของนายพันธ์ กล่าว
ระหว่างนั้น ช่วงที่ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของนายพันธ์ นางสาวอิน ผู้เสียหาย ก็ได้เดินทางมาดูบ้านหลังดังกล่าว จากนั้นก็มีปากเสียงเล็กน้อยกับทางนางติ๊บ ภรรยานาพันธ์ นางติ๊บตะโกนถามนางสาวอินว่า "จำได้ว่าผู้เสียหายมาที่บ้านเพื่อมาเอาเงิน แล้วทำไมถึงไปแจ้งความอีก ทั้งที่ตนเองเป็นคนจ่ายเงินค่าเสียหายให้เบื้องต้นไปแล้ว 20,000 บาท" นายสาวอิน บอกว่า "ก็มันได้ไม่ครบ หนูก็มีความจำเป็นต้องแจ้งความ"
นายพันธ์ อายุ 46 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เรื่องของเงินที่มีการตกลงกันตนเองยืนยันว่าจะให้ครบทุกบาททุกสตางค์ เมื่อมีเงินพร้อมก็จะจ่าย แต่ตอนนี้ด้วยสภาวะเศรษฐกิจประกอบกับขับแท็กซี่ไม่ได้ จึงยังไม่มีเงินจ่ายครบตามที่ระบุเอาไว้ หากทุกอย่างพร้อมตนเองก็จะจ่ายเงินให้โดยทันที โดยมีการทำสัญญาว่าจะจ่ายเงินค่าเสียหายให้จำนวน 120,000 บาท แต่ตัวนี้จ่ายได้เพียงประมาณ 30,000 บาท หากมีเมื่อไรก็จะจ่ายให้ในจำนวนที่เหลือโดยทันที ก่อนที่ตนเองจะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด
ส่วนทางด้านของคดีความ ตอนนี้ตนเองถูกแจ้งข้อกล่าวหาในข้อหาพรากผู้เยาว์ ยังอยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวน แต่ยังไม่ถูกแจ้งข้อหาอื่น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองได้เสนอให้กับทางด้านของนางสาวอิน และยาย โดยต้องการที่จะรับเด็กชายมาเป็นลูก และเอามาเลี้ยงดูเอง แต่ทางด้านครอบครัวของฝ่ายหญิงไม่ยอม ส่วนตัวเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตนเองจึงตกลงว่าจะจ่ายค่าเลี้ยงดูตามที่ครอบครัวของฝ่ายหญิงต้องการ ซึ่งในการแสดงความรับผิดชอบครั้งนี้ ตนเองต้องการที่จะรับลูกมาดูแล แต่ไม่ต้องการที่จะนำตัวแม่เด็กมาดูแล
นายพันธ์ ชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุยืนยันว่าไม่ได้มีการมอมเหล้า และไม่มีเรื่องของการให้นางสาวอินดื่มเหล้าจนเมาอย่างแน่นอน เว้นแต่ว่าตนเองและเพื่อนที่นั่งอยู่ในงานก็ดื่มสังสรรค์เมาเป็นเรื่องปกติ แต่ยืนยันว่าน้องเขาไม่ได้กิน ส่วนที่ตนเองย้ายของออกจากบ้านนั้น เพราะเนื่องจากไม่ได้มีการจ่ายค่าเช่า เจ้าของบ้านจึงไล่ให้ออก
