ลูกสาว "วัลลภ" เครียด! ชื่อพ่อเหมือนผู้ต้องหาฆ่าสาว เพื่อนเข้าใจผิด ล้อจนไม่กล้าไปเรียน

7 ก.ย. 61
วันที่ 7 ก.ย. 61 ที่ห้องรับแจ้งความ สภ.เมืองนครปฐม นายวัลลภ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม พร้อมนายทวีกิจ และนางบุญศรี ห้วยหงษ์ทอง ซึ่งเป็นบิดาและมารดา ได้เข้ามาขอแจ้งความประสงค์ในการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยระบุว่าเป็นคนละคนกับนายวัลลภ ห้วยหงษ์ทอง หรือ เสี่ยลภ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี บุกยิง น.ส.นภธรกนก เกษมโสภณ อายุ 23 ปี หรือ น้องเนิร์ส อายุ 24 ปี เมื่อคืนวันที่ 4 ก.ย. 61 ที่ผ่านมา
สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม
นายวัลลภ ห้วยหงษ์ทอง (กลาง) และบิดา (ขวา), มารดา (ซ้าย)
โดยนายวัลลภ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 34 ปี ผู้บริสุทธิ์ บอกว่า ตนได้พาครอบครัวมาเป็นพยาน และลงบันทึกไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากหลังเกิดเหตุในคดียิงน้องเนิร์ส ตนมีชื่อปรากฎตรงกับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ จากนั้นชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเริ่มมีเพื่อน ๆ ได้เข้ามาสอบถาม และโทรมาถามว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริงหรือไม่ ซึ่งตนได้ปฏิเสธไป แต่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดมาก กระทั่งเมื่อวานนี้ ลูกสาวของตน ซึ่งเรียนชั้นประถมศึกษา กลับบ้านมาถามตนว่า "พ่อเป็นฆาตรกรไปก่อเหตุฆ่าคนตายหรือไม่" ทำให้ตนตกใจ เพราะเห็นสีหน้าของลูกสาว ที่เกิดความวิตกกับสิ่งที่เพื่อน ๆ ถาม จึงได้นั่งปรับความเข้าใจกัน และคุยกันในครอบครัว สุดท้ายคือการเข้ามาลงบันทึกไว้ เพื่อป้องกันคนที่จะเข้าใจผิดต่อไป ซึ่งส่วนตัวไม่เคยพกปืน ทำแต่งานรับเหมาก่อสร้าง ช่วยบิดาของตัวเองเท่านั้น
นางบุญศรี ห้วยหงษ์ทอง มารดาของนายวัลลภ (ซ้าย)
นางบุญศรี อายุ 55 ปี กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อน ๆ มาหลายสาย จนแทบรับไม่ไหว เพราะญาติได้โทรมาสอบถามว่า ลูกชายได้ไปก่อเหตุรุนแรงแบบนั้นจริงหรือไม่ แต่ตนเองก็ได้ตอบไปว่า ไม่ใช่คนทำผิด โดยมีบางคนเชื่อ และบางคนก็ไม่เชื่อ ซึ่งทำให้เครียด สุดท้ายหลานสาวได้มาถามว่าพ่อของตัวเองว่าเป็นคนลงมือยิงหรือไม่ เพราะเพื่อนเริ่มล้อกันหนักขึ้น ทำให้อับอาย ไม่กล้าจะไปโรงเรียน ซึ่งการมาแสดงตัวกับตำรวจ ก็จะเป็นวิธีทางเดียวที่จะทำให้คนเข้าใจถึงเรื่องนี้ดีที่สุด
บัตรประจำตัวประชาชนของนายวัลลภ
บัตรประจำตัวประชาชนของนายวัลลภ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่รับแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ได้ทำการสอบถาม และตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าชื่อและนามสกุลตรงกันจริง แต่วันเดือนปีเกิด ของผู้ที่ตกเป็นข่าวนั้น มีอายุมากกว่า 2 ปี และที่อยู่ก็ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะเลขประจำตัว 13 หลัก ก็ชัดเจนว่ามีฐานข้อมูลไม่ตรงกัน
เจ้าหน้าที่รับเรื่อง ลงบันทึกประจำวัน
 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ