นักร้องลูกทุ่งสาวสวย หลิว อาจารียา นอกจากจะมีใจรักในเสียงเพลงแล้ว เธอยังมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอีกด้วย เมื่อได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เจ้าตัวได้เปิดใจว่าการทำธุรกิจหลายๆ อย่างที่ตัวเองได้ทำมา ทำให้ได้เรียนรู้และสอนบทเรียนให้รู้จักข้อผิดพลาดเยอะมาก เพราะกว่าที่จะประสบความสำเร็จในวันนี้ หลายธุรกิจที่ผ่านมาก็เจ๊งไม่เป็นท่า แต่สำหรับธุรกิจอาหารเสริมที่กำลังทำอยู่นี้ หลิวได้ลงไปดูและเรียนรู้เอง 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเผยปีนี้ตั้งเป้าไว้ทะลุ 100 ล้านเลยทีเดียว
ถาม ตอนนี้โควิดทำให้นักร้องไม่มีงานโชว์ตัว หลิวก็เลยหันมาทำธุรกิจออนไลน์ ทำอะไรบ้าง
หลิว อาจารียา : จริงก่อนหน้านั้น หลิวเองก็มองหาธุรกิจอยู่แล้ว แต่ว่ารอบนี้เราเข้าไปศึกษาแล้วก็จริงจังมากขึ้น มีการทำธุรกิจขึ้นมาเป็นอาหารเสริมออนไลน์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคิดมาตั้งแต่ก่อนโควิดอยู่แล้วค่ะ แต่มันมาเสร็จสมบูรณ์ออกมาช่วงโควิดพอดี สำหรับอาหารเสริมตัวนี้ เราคิดจากปัญหาของตัวเอง เพราะเราเป็นคนที่ขับถ่ายค่อนข้างยาก เราเลยทำตัวนี้ขึ้นมา แล้วเราก็ใช้ตัวเองเป็นตัวทดลองธุรกิจของเราไปเลย เพราะมันเริ่มต้นจากตัวของเรา ต้องบอกว่ากว่าที่จะออกมาได้ หลิวต้องทดลองของหลายรอบมากๆ จนกว่าเราจะได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วกว่าที่จะมาทำอาหารเสริมตัวนี้ หลิวทำมาแล้วนับสิบอย่างเลยค่ะ
ถาม ทำมาแล้วนับสิบอย่าง ทำอะไรมาบ้าง และทุกอย่างที่ทำประสบความสำเร็จไหม
หลิว อาจารียา : ถ้าเริ่มต้นเลย ทำมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นมินิมาร์ทที่เราทำขึ้นมาเอง เพราะว่าเรารู้จักกับอาจารย์ แล้วเขาก็เป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน เขาก็บอกว่าที่ปั๊มน้ำมันมีที่ว่างนะ มาทำไหม เราก็เลยได้ทำดูกับครอบครัว ซึ่งทำแล้วก็ดีนะคะ แต่เพราะว่าเราไม่ได้ลงไปดูเอง ช่วงนั้นงานของเราเยอะมากๆ ด้วย ก็มีคนดูแทนเรานะคะ แต่เพราะว่าเขาก็มีงานของแต่ละคนก็เลยไม่สามารถไปต่อได้ พอมินิมาร์ทจบไป เราก็ไปเปิดร้านอาหารแถวศรีนครินทร์ เป็นร้านอาหารแล้วก็มีดนตรีสด ธุรกิจนี้เรามีหุ้นส่วนแล้วเราก็ไม่ค่อยได้ไปดู พอเราไม่ได้เข้าไปดูด้วยตัวเอง บางทีมันก็จะมีรอยรั่ว พอจบจากร้านอาหาร ก็มาต่อที่ครีมทาผิว อย่างที่บอกคือเรามีเงิน เราอยากทำ แต่เพราะเราไม่มีความรู้ แต่อยากทำ ซึ่งพอเราได้ทำ ทำให้เรารู้เลยว่ามันไม่ใช่แค่เงินมันต้องมีสมองด้วยนะ พอเราลงเงินไปแล้ว เราไม่ได้ศึกษาผลที่ออกมา มันก็เลยไม่ได้ผลตอบรับหรือประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่น พอจบจากตรงนั้นเราก็ไปเปิดร้านมุกมะล่า ที่ร้านคือจะขายชานมไข่มุกกับหมาล่า ก็เลยเอามาตั้งชื่อว่า มุกมะล่า ร้านนี้เราเปิดให้แม่ที่ลำพูน แต่แล้วก็เหมือนเดิม เพราะว่าเราไม่ได้มีเวลาไปและด้วยประสบการณ์หลายๆอย่างที่เราทำก็ทำให้เรารู้แล้วว่าไม่ใช่แค่จะลงเงินนะ แต่ก็ต้องศึกษาให้ดีด้วย
ถาม ทำมาหลายอย่างถึงจะไม่ประสบความสำเร็จเลย แต่หลิวก็ยังไม่หยุดยั้ง ยังคงหาธุรกิจที่ทำต่อ และตั้งเป้าไว้ว่าจะทำให้ได้ถึง 100 ล้านเลย
หลิว อาจารียา : จริงๆ เรามีปัญหาในแต่ละธุรกิจที่เราได้ลงไปทำแล้ว หนึ่งเราก็รู้แล้วว่าเราไม่ได้ศึกษาเท่าที่ควร สองต้นทุนเราก็ไม่ได้คำนวณ กำไรเราก็ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ด้วย แต่ตอนนี้ที่หลิวทำคือทำตั้งแต่แรกเริ่มเลย เราหาผลิตภัณฑ์เอง ศึกษารายละเอียดทุกอย่างเองทั้งหมดเลย
ถาม กลัวไหมกับการทำธุรกิจ เพราะว่าเราก็พลาดไปเยอะมากแล้ว
หลิว อาจารียา : กลัวไหม ก็กลัวนะคะ แต่เราก็มีข้อมูลแล้วว่าสิ่งที่เราจะไม่พลาดต่อไปนี้ มันจะทำยังไงไม่ให้พลาดอีก หรือ พลาดน้อยที่สุด เพราะเราก็อยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่มันจะไม่พลาดแล้ว ถ้าเราลงไปดูรายละเอียดทุกอย่างใส่ใจ ไม่ว่าจะตอบลูกค้าเอง แรกๆ หลิวทำเองหมดทุกอย่าง วางระบบเองทุกอย่าง ก็จะทำให้เรารู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร
ถาม จากวันหนึ่งที่เราเป็นนักร้องแล้วเราต้องมาเป็น CEO เราปรับเยอะไหม
หลิว อาจารียา : ปรับเยอะเหมือนกันนะคะ แต่หลิวมองว่าทุกงานมันยากหมด แต่ถ้าเราไม่ท้อ มีสติ แก้ปัญหาไป ซึ่งสำหรับธุรกิจอันนี้ที่หลิวทำมาก็น่าจะเกือบปีแล้วค่ะ รวมถึงช่วงที่เราทดลองด้วย ซึ่งเราก็ตั้งเป้าไว้ว่าสิ้นปีนี้ จะทำให้ได้ร้อยล้าน ตั้งเป้าไว้ก่อนนะคะ เราจะได้หาหนทาง เพื่อที่จะทำให้สำเร็จ แต่ระยะทางทั้งหมดเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะหลิวตั้งไว้ร้อยล้าน มันจะตกลงมาสัก 70 ล้าน มันก็ไม่แย่เนอะ และสิ่งหนึ่งหลิวอยากเป็น คือเป็นเหมือนแม่บุ๋ม เหมือนพี่อั๋น ช่วยเหลือสังคม
ถาม แต่ในช่วงโควิดที่ศิลปินทุกคนไม่สามารถออกไปงานโชว์ตัวได้ แต่ก็จัดมินิคอนเสิร์ตเพื่อการกุศล
หลิว อาจารียา : ใช่ค่ะ ทางค่ายมิวสิค ดี เอนเตอร์เทนเมนต์ ได้จัดคอนเสิร์ตออนไลน์ขึ้นมาเพื่อส่งความสุขให้กับทุกคนทางบ้าน เพราะว่าทุกคนต้องเจอกับปัญหาที่เราไม่อยากที่จะเจอกัน ซึ่งคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเป็นการกุศลไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ว่าเรายังไม่ได้เปิดรับบริจาคนะคะ แต่ในอนาคตอาจจะขึ้นเบอร์หรือบัญชีของมูลนิธิต่างๆ ไว้ด้วยค่ะ
ถาม หลิวตั้งใจทำทุกอย่าง ทั้งเป็นศิลปิน นักธุรกิจ แล้วยูทูบเบอร์อีกที่จะทำ
หลิว อาจารียา : ตอนนี้ก็เริ่มๆ ทำแล้วค่ะ ก็มี COVER เพลงลงไปบ้างแล้วค่ะ ตอนนี้วิวเพลงก็ขึ้นไปเกือบๆ สองล้านวิว ตอนนี้ที่เปิดคือหลิวพาร่อน (หลิวพาเที่ยว) ส่วนในใหญ่ที่ทำในช่องคือพาไปเที่ยวเลยค่ะ
ถาม นอกจากจะทำทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นเจ้าแม่สายมู เชี่ยวชาญการไหว้เทพเจ้า ถือศีลต่างๆ ทำไมถึงมาสายนี้ได้
หลิว อาจารียา : เพราะว่าหมอดูทักว่าเรามีองค์ เขาทักว่าเรามีพระแม่กาลี พระแม่ลักษมี ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อแล้วเพื่อนก็พาเราไปไหว้พระแม่กาลีที่พัทยา เราก็รู้สึกขนลุก บางครั้งที่เราสวดมนต์ของพระแม่ เราก็น้ำตาไหล ซึ่งเราก็แบบคิดว่าเราเป็นอะไรหรือเปล่า แต่มานึกถึงตรงที่หมอดูทักเรา ก็เลยคิดว่าเราคงสัมผัสได้
ถาม แล้วหลิวได้ศึกษาไหม เพราะว่าพระแม่กาลีเหมือนเป็นปางที่ดุร้าย
หลิว อาจารียา : เราไม่ได้ศึกษาอะไรลึกมากขนาดนั้นค่ะ แต่พระแม่กาลีเป็นอีกปางที่คอยสู้ศึก ปกป้องความดีงาม ส่วนเลือดที่เราเห็นติดอยู่กับปากท่าน เพราะว่าท่านฆ่าปีศาจ แล้วก็กลืนเลือดเข้าไป ไม่งั้นปีศาจก็จะสามารถสร้างอีกตัวขึ้นมาได้ ซึ่งก็เคยมีเหตุการณ์ที่เราได้ไปขอพรไว้ พอได้ แล้วเราไม่ไปแก้ ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น เหมือนท่านมาเตือนเรา อย่างเราเปิดเพลงไว้ แล้วอยู่เพลงนั้นกลายเป็นเสียงบทสวดมนต์ของท่านขึ้นมา ส่วนใหญ่ที่เราขอท่านไป ก็จะเป็นเรื่องงานเป็นหลัก เราก็ขอท่านว่าปีนี้ลูกของเงินจำนวนเท่านี้ ก็จะได้ ก็จะไปแก้ ไปรำค่ะ ซึ่งที่ไปคือวิหารพระแม่กาลีที่พัทยาค่ะ
ถาม เห็นว่าใครที่ไปอธิษฐานขอพระแม่กาลี จะต้องโสด
หลิว อาจารียา : ไม่จริงค่ะ ก็คนเข้าจีบบ้าง
ถาม นอกจากขอในเรื่องของงานแล้ว หลิวยังขอเลขเด็ดมาฝากแฟนๆ ด้วย
หลิว อาจารียา : ในเรื่องของเลขเด็ด เราไปเข้าวัดทำบุญถือศีลนั่งสมาธิ หลิวเชื่อว่ามันส่งผลให้เราฝันด้วย ฝันว่าได้กลับไปที่บ้านเก่า ที่ลำพูน แล้วเจอยายที่บ้าน พอเราตื่นขึ้นมา เราก็มาถามแม่ว่ายายอายุเท่าไหร่ ฝันแล้วมาตีเป็นเลขเอาค่ะ (หัวเราะ)
ถาม แต่เห็นที่ยังสวยสวนทางกับอายุแบบนี้ เพราะว่าหลิวใช้วิธีการอาบน้ำแก้ปีชง
หลิว อาจารียา : ตอนนี้อายุ 35 แล้วค่ะ หมอดูก็ทักเรา เขาให้เราอาบน้ำมนต์ ที่วัดป่าพุทธญาณ มีหลวงพ่อแค่องค์เดียวที่นั่น ซึ่งเราก็ไปอาบแก้เคล็ด แล้วน้ำมนต์ที่เราอาบ เทียนที่หลวงพ่อหยอดลงน้ำคือออกมาเป็นเลขที่ออกไปงวดล่าสุดค่ะ
