วินพี่น้องกร่างฉุนเก๋งปาดหน้า 2 พลเมืองดีเข้าช่วยเจอเหล็กฟาดดับ 1 แม่ช็อกลูกตายไร้สาเหตุ (คลิป)

2 ก.ค. 64

กรณีเกิดเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถเก๋ง และได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายกัน โดยการใช้อาวุธท่อนเหล็กทำร้ายร่างกาย วินจักรยานยนต์ ผู้ก่อเหตุ และคนขับรถเก๋ง มีปากเสียงกัน

803448

ก่อนพลเมืองดี 2 คน ที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ 2 ราย คือนายพงกมล สีอุดทา อายุ 31 ปี บาดเจ็บถูกเหล็กแทง บริเวณคิ้ว และนายจักรพันธ์ หงษ์ไชยคำ อายุ 25 ปี บาดเจ็บสาหัส ถูกเหล็กแทงบริเวณท้ายทอย ล่าสุดเสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลเพชรเวช

751694164597

ผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายมนตรี วินเบอร์ 33 และนายดวงสิทธิ์ วินเบอร์ 20 เพื่อนร่วมวินให้ข้อมูลว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน

628841

วันที่ 2 ก.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณเยื้องกับซอยปรีดีพนมยงค์ 8 ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เป็นถนนฝั่งละ 2 เลน ไม่มีเกาะกลางถนน

911745

นายพงกมล สีอุดทา อายุ 31 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่าเหตุการณ์ ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 19.00 น. ตนเองกำลังขับรถออกจากซอยปรีดี 8 และเห็นรถจักรยานยนต์รับจ้าง 2 คัน ขี่มาทางตรงและชนกับรถเก๋งที่กำลังจะเลี้ยวขวา 1 คัน จึงมีการจอดพูดคุยกันบริเวณข้างทาง ตนเองจึงเข้าไปสอบถามว่าเรียกประกันหรือยัง ทางเจ้าของรถเก๋งบอกว่าเรียกแล้ว ตนเองจึงขี่รถออกไป ก่อนจะชักชวนนายจักรพันธ์ ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่ทำงานขี่รถจักรยานยนต์มาดูที่เกิดเหตุด้วย

cgcg-2

จากนั้นตนเองก็แวะไปส่งลูกในซอย ก่อนจะขี่ออกมาดูเหตุการณ์ต่อ ยังไม่ทันได้พูดหรือมีปากเสียงกับใคร วินทั้ง 2 คนก็เข้ามาหาตนเองและชกต่อย ก่อนจะใช้แท่งเหล็กแทงเข้าใกล้ดวงตา คล้ายจะฆ่า ถ้าตนเองไม่หลบคงจะเข้าจุดสำคัญ

459558

จากนั้น เมื่อนายจักรพันธ์เห็นเหตุการณ์ จึงพยายามจะเข้ามาห้ามปราม แต่กลับถูกเหล็กแข็งทิ่มอย่างแรงบริเวณท้ายทอย ก่อนล้มหัวฟาดพื้นสลบและนอนแน่นิ่งไป ก่อนทั้งเจ้าของรถเก๋ง วินจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุจะหนีไป ตนเองยอมรับว่าตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกู้ภัยจะเดินทางเข้ามาช่วยเหลือ

169315

ตนยืนยันว่าไม่เคยรู้จัก หรือมีเรื่องบาดหมางกับวินจักรยานยนต์แต่อย่างใด เพียงแค่เคยเห็นขี่ผ่านไปมาเท่านั้น ตนเองเพียงเห็นรถประสบอุบัติเหตุ เพียงแค่จะเข้าไปสอบถามตามปกติเท่านั้น โดยผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ขยัน รักพี่น้อง มีน้ำใจมาก เป็นเสาหลักของครอบครัว "นายจักรพันธ์ได้เสียชีวิตไปแล้ว และมองว่าผู้ก่อเหตุทำเกินไปมาก อยากจะให้มาชดใช้กรรม และอยากให้ได้รับโทษถึงที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ มองว่าควรจะคุยกันดี ๆ หรือไม่ เพราะตนเองไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่คู่กรณีด้วย ทำไมต้องทำร้ายกัน ทำไมต้องฆ่าน้องผมด้วย"

151537

นางสาวรุ่งฤทัย หงษ์ไชยคำ อายุ 52 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ขณะที่ตนเองกลับมาบ้านก็ไม่เจอลูกชาย ต่อมาเพื่อนของลูกชายได้โทรศัพท์มาบอกกับตนเองว่าถูกทำร้าย จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ก่อนจะพบว่าหมอกำลังปั๊มหัวใจ และไม่รู้สึกตัวแล้ว ตนเองแทบใจสลาย ต่อมาลูกชายจึงถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเพชรเวช ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พยายามสอบถามข้อมูลกับตนเอง แต่ตนเองไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกชายตนเองเสียชีวิตวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ที่โรงพยาบาล มีอาการเลือดคั่งในสมอง ไม่สามารถผ่าตัดได้ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตนเองนอนไม่หลับ และกังวลมากว่าลูกชายจะเสียชีวิต แต่สุดท้ายลูกชายก็จากไป โดยที่ยังไม่ได้พูดคุยกัน

714232

ที่ผ่านมาตนเองเช่าห้องอยู่กับลูกชาย และน้องชายตน โดยลูกชายจะเป็นหัวหลักหัวแรงของตนเอง จ่ายค่าเช่าห้อง ค่างวดรถ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในครอบครัวตลอดมา เพราะช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาตนเองตกงาน จึงมีผู้ตายเป็นกำลังหลักในครอบครัว และลูกชายกับผู้ก่อเหตุก็ไม่เคยรู้จัก หรือมีปัญหากันมาก่อน ลูกชายมีนิสัยดี ใจเย็น พูดจาเพราะ เป็นที่รักของเพื่อน ๆ ไม่เคยมีปัญหากับใครโดยก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีลางบอกเหตุ หรือลางสังหรณ์แต่อย่างใด

ล่าสุด ตนเองก็ยังไม่ได้พบกับคนก่อเหตุ ก็อยากจะถามว่าทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้ พูดกันดี ๆ ก็ได้ ทั้ง ๆ ที่ลูกชายตนเองก็ไม่ใช่คู่กรณีด้วย จะเข้ามาช่วยเพื่อนแท้ ๆ แต่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต "อยากบอกให้ลูกไปสบาย ตอนนี้ตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว เขาจะต้องชดใช้กรรมกับสิ่งที่ทำไปกับลูก"

ขณะที่ นายอดิศักดิ์ หงษ์ไชยคำ อายุ 29 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อตนเองทราบข่าวก็เดินทางมาหาแม่ทันที และอยากจะให้ผู้ก่อเหตุ ได้รับโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด จะมาขอขมาศพหรือไม่ก็แล้วแต่ ตนเองพูดไม่ถูก

666902

เบื้องต้นตำรวจ สน.คลองตัน สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัส จะต้องมีการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ และรอผลชันสูตรเพิ่มเติม เพื่อจะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

323649

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปยังบริเวณซอยสุขุมวิท 69 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา วินรถจักรยานยนต์ที่ผู้ก่อเหตุทำงาน นายมานพ พรชัย อายุ 45 ปี เพื่อนร่วมงานของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 19.00 น. ตนเองขี่รถผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุ กำลังจะส่งผู้โดยสาร ก็เห็นว่านายเบิร์ด ผู้ก่อเหตุ มีการเฉี่ยวชนกับรถเก๋งของคู่กรณี และกำลังจอดเคลียร์พูดคุยกัน ตนเองก็คิดว่าคงจะเคลียร์กันได้ตามปกติ แต่ผ่านไปไม่นาน ก็เห็นว่ามีรถกู้ภัยมาจอดยังที่เกิดเหตุแล้ว และมาทราบภายหลังว่า นายเบิร์ด และนายป๊อด ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นแล้ว ยอมรับว่าค่อนข้างตกใจ

ที่ผ่านมาเพื่อนร่วมงานทราบกันดีว่า ผู้ก่อเหตุทั้งคู่เป็นคนดุดัน หัวร้อน และชอบใช้อารมณ์อยู่เป็นประจำ และเคยมีปัญหากับคนอื่น ๆ อยู่บ้าง แต่ก็เกิดขึ้นนานมาแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิต มองว่าหากพูดจากันดี ๆ ก็ได้ ไม่น่าจะต้องทำถึงขนาดนี้ ส่วนสาเหตุตนเองไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น และที่ผ่านมาก็ทราบว่าผู้อ่เหตุทั้งคู่อาจจะมีปัญหาเรื่องเงินด้วยหรือไม่ ที่ทำให้เครียด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส