ผัวแค้นเมียตีจากลากเข้าป่าแทงร่างพรุน ญาติฉะสุดเหี้ยมลักเงินซ้ำกระตุกทองศพ (คลิป)

29 มิ.ย. 64

จากกรณี วันที่ 28 มิ.ย. 64 เวลา 20.00 น. ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ ขันคำ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ่อหลวง ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายใช้อาวุธมีดแทงกันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดท้ายหมู่บ้านนาฟ่อน หมู่ 4 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ภายหลังจากได้รับแจ้ง จึงรุดตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวน

946535

เมื่อไปถึงพบที่เกิดเหตุเป็นป่าหญ้าข้างทาง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 100 เมตร พบศพนางแก้ว หนูสา อายุ 58 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีดำ ผ้าถุง นอนจมกองเลือดอยู่ สภาพถูกแทงบริเวณราวนมขวา ทรวงอก รวม 8 แผล เจ้าหน้าที่รีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายบุญศรี หนูสา อายุ 50 ปี อดีตสามีที่เพิ่งเลิกกัน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป

712883

วันที่ 29 มิ.ย.64 ทีมข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ หมู่ 4 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าวเป็นป่าอยู่หลังบ้านผู้เสียชีวิต ลักษณะเป็นทางชันลงป่า สูงห่างจากบ้านผู้เสียชีวิตประมาณ 50 เมตร ป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุแอบปีนขึ้นมา ก่อนลากผู้เสียชีวิตลงมาแทงจนเสียชีวิต อีกทั้งจากการสังเหตุยังคงมีรอยคราบเลือดของผู้เสียชีวิตหลงเหลืออยู่

557706

นายนิตย์ แสงเมืองมา อายุ 49 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เผยว่า พี่สาวตนกับนายบุญศรี อดีตสามี ทั้งคู่คบหากันมานาน 20-30 ปี จดทะเบียนสมรสกัน มีลูกชายด้วยกัน 2 คน ตลอดระยะเวลาที่ทั้งคู่คบหากัน ผู้ก่อเหตุมักจะดื่มสุรา และเกิดอาการคลั่งคล้ายกันคนบ้า มาทำร้ายตบตีพี่สาวของตนอยู่บ่อยครั้ง จนร่างกายบวมช้ำ หนักสุดถึงหน้าแตก คิ้วแตก แต่ก็อดทนมาเพราะรัก

885483

แต่ล่าสุด เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาพี่สาวของตนทนพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุไม่ไหว จึงขอเลิกและแยกกันอยู่ ผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอม มักจะมาคอยตามตื๊อ แต่พี่สาวก็ตัดสินใจว่าจะไม่ยอมกลับไปคบหากับผู้ก่อเหตุอีก เหตุเกิดวานนี้ 28 มิ.ย. 64 ช่วงเวลา 17.00-18.00น. คนที่บ้านโทรมาบอกตนว่าให้รีบกลับมาบ้าน เนื่องจากพี่สาวถูกผู้ก่อเหตุที่เป็นอดีตสามีแอบเลาะปีนป่าหลังบ้านขึ้นมา ใช้อาวุธมีดแทงพี่สาวจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไปทางป่าหลังบ้าน พร้อมชิงเงินสดที่ติดตัวพี่สาวไปจำนวน 8,000 บาท อีกทั้งพยายามจะเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทของพี่สาวไปด้วย แต่สร้อยขาด แม่ของตนที่เห็นเหตุการณ์จึงเก็บเอาไว้ได้

137738

เมื่อทราบเรื่องตนจึงรีบกลับมาดูศพพี่สาวพบว่าศพพี่สาวอยู่ในสภาพสวมเสื้อแขนยาวสีดำ ผ้าถุงขาดหลุดรุ่ย ร่างเต็มไปด้วยเลือด อยู่สภาพถูกแทงบริเวณราวนมขวา ทรวงอก 8-9 แผล ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวพี่สาวไปส่งโรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

cg

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมองว่า เป็นการกระทำที่อุกอาจ และโหดเหี้ยมมาก ส่วนตัวตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ และขอไม่ให้อภัย อีกทั้งหากมีโอกาสได้เจอกับผู้ก่อเหตุที่หลบหนีไป ตนก็อยากจะฆ่าผู้ก่อเหตุให้ตายตามพี่สาวของตนไปเหมือนกับที่พี่สาวโดน พร้อมทั้งอยากจะให้ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เป็นไปได้ก็อยากให้ถึงขั้นประหารชีวิต จะได้ไม่ไปก่อเหตุดังกล่าวซ้ำกับผู้อื่นอีก

303809

นางมา แสนเมืองมา อายุ 78 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เผยว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.00-18.00 น. ตนอยู่กับลูกสาวที่บ้าน โดยตนนั่งเลี้ยงไก่ ส่วนลูกสาวกำลังปิ้งปลาอยู่ที่บริเวณเตาถ่านหลังบ้าน ขณะนั้นคงเป็นจังหวะที่ลูกสาวกำลังเอื้อมล้างมืออยู่ก๊อกน้ำใกล้เตาถ่าน ผู้ก่อเหตุที่แต่งกายสวมโม่งสีดำ เสื้อแขนยาวสีดำ เดินเลาะป่าหลังบ้านปีนขึ้นมาหาลูกสาว ก่อนฉุดกระชากลูกสาวลงไปในป่าหลังบ้านที่มีลักษณะเป็นทางชัน สูงห่างจากบ้านตนประมาณ 50 เมตร ก่อนใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมากระหน่ำแทงที่บริเวณช่วงลำตัว หน้าอกด้านหน้าของลูกสาวตน

942320

ขณะนั้นลูกสาวตนร้องขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวด ร่างเต็มไปด้วยเลือด ตนที่ได้ยินจึงวิ่งไปดูแต่ก็ไม่สามารถลงไปช่วยลูกสาวได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธมีดเกรงว่าตัวเองจะถูกทำลายด้วยเช่นกัน ตนจึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากญาติ ๆ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถพยาบาลให้เข้าช่วยเหลือลูกสาว และตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุหลังก่อเหตุก็ได้หลบหนีเข้าป่าหายไป

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกตกใจและรับไม่ได้กับพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ปมเหตุที่เกิดขึ้นตนมองว่า เป็นเรื่องชีวิตคู่ของทั้ง 2 คน เนื่องจากลูกสาวของตนทนพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุไม่ไหว ที่ตลอดระยะเวลาที่คบกันผู้ก่อเหตุมักจะทำร้ายร่างกาย และทุบตีลูกสาวของตนอยู่ตลอด เกือบตายมาแล้วหลายครั้ง จนลูกสาวทนไม่ไหวจึงทำการขอห่าง ผู้ก่อเหตุจึงเกิดความแค้นที่ลูกสาวไม่ยอมคืนดีด้วย ตอนนี้ตนก็รู้สึกไม่ได้รับความปลอดภัย เกรงว่าผู้ก่อเหตุจะย้อนกลับมาก่อเหตุดังกล่าวซ้ำ อยากให้ทางตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด

548112

นางเพ็ญ (นามสมมติ) หลานสาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติแล้วผู้ก่อเหตุเป็นคนนิสัยดี ขยันทำมาหากิน คบหาดูใจกับผู้เสียชีวิตมานานมากกว่า 20 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ทั้งคู่อาจจะมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันภายในครอบครัวบ้างตามประสาสามีภรรยา หลังเกิดเหตุตนก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าผู้ก่อเหตุจะมาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ส่วนปมเหตุที่เกิดขึ้นตนก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรแน่ชัด แต่ขณะนี้ทางครอบครัวก็ช่วยกันพยามติดต่อกับทางผู้ก่อเหตุที่หลบหนีอยู่ แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้

ซึ่งทางครอบครัวก็อยู่ในระหว่างช่วยกันติดตามหาตัว เพราะมีความหวังว่าอยากจะให้เจ้าตัวกลับมามอบตัวกับทางเจ้าที่ตำรวจ และรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุตนก็ได้มีการกล่าวคำขอโทษกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว สำหรับการสูญเสียในครั้งนี้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอทางผู้ก่อเหตุกลับมามอบตัว เพื่อสอบถามถึงปมเหตุที่แน่ชัด

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส