เปิดใจ "พระมุนี" สยบดราม่าผ้าเหลือง ปัดโหนลุงพลหวังซองบุญ จวกเพจดังหิวแสง (คลิป)

28 มิ.ย. 64

กรณีนายชัยรัตน์ ยอดพรม หรือ ปู่มหามุนี อริยดาบส อายุ 40 ปี เจ้าของสำนักสักยันต์ปู่มหามุนี และเน็ตไอดอลด้านสายไสยศาสตร์ ได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทที่วัดศรัทธาประกร (วัดเขารวก) จ.สระบุรี เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.64) ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับจุดประสงค์ของการบวชในครั้งนี้ว่าแท้จริงต้องการหวังเงินทำบุญใส่ซองจากแฟนคลับนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล รวมถึงความเหมาะสมของกิริยาวาจาในการบวช เพราะถูกขุดคุ้ยว่าในอดีตเคยเสพยาเสพติดและมั่วสีกาคาผ้าเหลือง

739921

ล่าสุดวันที่ 28 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายังวัดสนมลาว ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยเมื่อเดินทางมาถึงในช่วงเวลา 12.30 น. ทางพระอริยรโต ฉายาทางธรรมผู้รู้แจ้งในธรรม หรือ อดีตปู่มหามุนี กำลังไลฟ์สดเพื่อสอนเทศนาธรรมกับแฟนคลับผ่านเฟซบุ๊ก ภายในศาลาอรหันต์ 8 ทิศ

812524

พระอริยรโต กล่าวว่า ถึงอาตมาจะไลฟ์สดแต่ก็ไลฟ์อยู่ในความเหมาะสม ไม่ได้ออกไปสร้างคอนเทนต์กับญาติโยม อาตมาเข้าใจดีว่าต่างคนต่างรู้วินัยดี ไม่ก้าวก่ายกัน อาตมาเคยบวชที่ จ.มหาสารคาม ในปี 2545 ย้ายไปจำวัดอยู่ที่วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น ในปี 2548 จนกระทั่งถึงปี 2557 ได้สึกออกมา

175117

เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.64) อาตมาได้เข้าพิธีพิธีบรรพชาอุปสมบทที่วัดศรัทธาประกร (วัดเขารวก) จ.สระบุรี และจำวัดที่วัดสนมลาว เพราะมีความตั้งใจจะบวช 1 พรรษา สาเหตุของการบวชในครั้งนี้ อาตมาบวชทดแทนคุณครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นพ่อครูอาจารย์โหราพราหมณ์อายุ 70 ปี อีกทั้งอาตมายังอยากจะอุทิศส่วนกุศลให้กับน้องชมพู่ และอยากให้คดีความจบลงด้วยดี เพราะอาตมาสัมผัสได้ถึงความวุ่นวายต่าง ๆ ทุกอย่างถูกปั้นเรื่องจนแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย ซึ่งแต่เดิมแม่น้องชมพู่ไม่ได้สงสัยลุงพล อาตมาขอให้กำลังใจทั้งสองฝ่าย โดยขณะนี้ผู้ติดตามข่าวแบ่งฝ่ายออกเป็น 2 ฝ่าย ได้แก่ 1.ฝ่ายอัจฉริยะ 2.ฝ่ายทนายตั้ม ดั้งนั้นอาตมาจึงอยากให้คดีความน้องชมพู่จบลง ขณะนี้ประเทศประสบปัญหาโควิด-19 มากพอแล้ว

951231

ในประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการบวชของอาตมา ขอชี้แจ้งดังนี้ 

1.ความเหมาะสมในการบวช เพราะแต่ก่อนกิริยาวาจาไม่เหมาะสม อาตมาขอชี้แจงว่าการเป็นฆราวาสจะทำอะไรก็ได้ แต่อยู่ภายใต้กฎหมาย อาตมารู้ตัวดีว่าอาตมาพูดจาหยาบคาย แต่เมื่อเป็นสงฆ์ อาตมาก็ต้องปฎิบัติให้เหมาะสม อาตมาอยากสอนให้ผู้อื่นรู้ว่าไม่มีคำว่าสาย ซึ่งเมื่อสึกไปแล้ว อาตมาเชื่อว่าอาตมาจะได้ข้อคิดดี ๆ กลับไป

2.การตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับซองทำบุญ ใครได้ปัจจัย อาตมาไม่ได้เปิดรับบริจาคและไม่ได้แตะต้องปัจจัย เนื่องจากทางวัดเป็นเจ้าภาพในการบวช หากใครจะทำบุญก็ต้องไปทำกับวัดโดยตรง ไม่ต้องผ่านมือของอาตมา

3.เหตุผลการสึกในอดีต เพราะมั่วยาเสพติดและสีกา อาตมาสึกเพราะอยากเรียนรู้ชีวิตฆราวาส อาตมาไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่จิตของผู้กล่าวหาจะลุกเป็นไฟเอง อาตมาไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ยกตัวอย่างครั้งที่ไป สน.ตลิ่งชัน กับคุณน้ำฟ้า (ภรรยาหมอปลา) อาตมาตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกาย อาตมาได้แสงความบริสุทธิ์ใจไปแล้ว อาตมาเพียงร่างกายผอมเฉย ๆ อาตมาขอถามเพจหรือใครที่ใส่ร้ายอาตมาว่า “หิวแสงหรือไม่” ซึ่งอาตมามองว่าคนที่ใส่ร้ายอาตมาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของอาตมา เพราะเขารู้เรื่องในเรื่องที่อาตมาไม่รู้ โดยอาตมาจะขอใช้เวลา 1 พรรษานี้ ในการพิสูจน์ตัวเอง

758735

ทีมข่าวได้เดินทางมายัง วัดศรัทธาประกร (วัดเขารวก) ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เพื่อสอบถามถึงประเด็นดังกล่าวจากพระครูประสาทสารคุณ เจ้าคณะตำบลหน้าพระลาน เจ้าอาวาสวัดศรัทธาประกร (วัดเขารวก) 

812034

พระครูประสาทสารคุณ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.64) ได้จัดพิธีบวชนาค จำนวน 4 คน ซึ่งเป็นการตกลงคุยกันมาขอใช้โบสถ์ของวัดศรัทธาประกร (วัดเขารวก) มีเจ้าคณะอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ ก่อนจะย้ายไปจำวัดที่วัดอื่น โดย 1 รูป จำวัดที่วัดศรัทธาประกร (วัดเขารวก) อีก 3 รูปได้ไปจำวัดที่อื่น

290030

ทั้งนี้ อาตมาเคยติดตามจากข่าวอยู่บ้าง และเคยเห็นนายชัยรัตน์ ยอดพรม หรือ ปู่มหามุนี อริยดาบส ซึ่งขณะนี้บวชและจำวัดอยู่ที่วัดสนมลาว ซึ่งเมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.64) อดีตปู่มหามุนี มีอาการสำรวมดี โดยอาตมาได้เข้าไปทักทายว่า “การบวชเป็นสิ่งที่ดี หากมีโอกาสจะไปเยี่ยมที่วัดสนมลาว”

ส่วนจุดประสงค์การบวช อาตมาไม่ทราบว่าบวชด้วยจุดประสงค์อะไร ซึ่งปกติจุดประสงค์ของการบวชนั้นมีหลากหลาย เช่น ต้องการศึกษาธรรม สืบสานพุทธศาสนา ทดแทนคุณบิดามารดา แต่หากบวชเพื่อชื่อเสียง ลาภยศ เงินทอง ถือว่าเป็นบาป และอาตมาไม่ทราบประวัติของอดีตปู่มหามุนีว่าเคยมีประวัติการทำผิดวินัยสงฆ์ขณะบวชอย่างไร แต่ปกติก่อนจะบวช ทางวัดต้นสังกัดจะตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และประวัติวินัยสงฆ์ โดยจะอธิบายดังนี้

508253

1.เคยกระทำผิดทางกฎหมาย ไม่ว่าคดีใด ๆ เคยฆ่าคนตาย แต่พ้นโทษแล้ว สามารบวชได้
2.เคยกระทำผิดมทางกฎหมาย แต่ยังไม่ได้รับโทษหรือหนีคดี ไม่สามารถบวชได้
3.เคยกระทำผิดพระวินัย แต่ไม่ถึงขั้นปาราชิก สามารถบวชได้
4.เคยกระทำผิดพระวินัย ถึงขั้นปาราชิก ไม่สามารถบวชได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส