กรณีตำรวจ สน.บางเขน รับแจ้งเหตุหญิงพลัดตกจากที่สูง บริเวณอาคารจอดรถ ด้านหลังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางเขน จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์ รพ.ภูมิพล และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณป้อมรับบัตรทางลงอาคารจอดรถ พบร่าง น.ส.ประกายฟ้า พูลด้วง อายุ 30 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงสีเทา ใส่หน้ากากอนามัย สภาพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต
จากการตรวจสอบพบรถยนต์ ทะเบียน ษง 5990 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บนชั้น 3 บี หลังจากรถคันดังกล่าวขับเข้ามาภายในห้างฯ ตั้งแต่ เวลา 12.00 น. และขับวนเข้า-ออก 2 รอบ ก่อนที่จะขับไปจอดชั้น 3 บี กระทั่งผู้ตายตัดสินใจกระโดดลงมา
สอบสวนญาติผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ ระบุว่า ผู้ตายเป็นนักดนตรีอิสระ และยูทูเบอร์ ก่อนหน้านี้ได้เกิดความเครียด เนื่องจากไม่มีงาน และขาดรายได้ โดยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 1 ครั้ง แต่สามารถห้ามไว้ได้ทัน แต่ก็เกิดเหตุสลดขึ้นในครั้งนี้
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยังวัดลาดสนุ่น ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นสถานที่จัดพิธีศพของ น.ส.ประกายฟ้า พูลด้วง อายุ 30 ปี โดยเมื่อเวลา 16.00 น. มีพิธีรดน้ำศพ มีญาติ เเละเพื่อน ๆ เดินทางมาร่วมไว้อาลัย บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
น.ส.ล้ำเลิศ วิทิต อายุ 53 ปี เเม่ของผู้เสียชีวิต ที่ยังอยู่ในอาการเสียใจ บอกว่า ตนยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมีลูกเพียงคนเดียว ซึ่งที่ผ่านมาลูกสาวเป็นเสาหลักในการเลี้ยงดูพ่อเเม่ ตั้งเเต่เล็กจนโตเขาเป็นคนมีความรับผิดชอบ ทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรี เเละมีความสามารถด้านการร้องเพลงมาตั้งเเต่เด็ก มีความฝันอยากเป็นนักร้อง จึงเข้าประกวดร้องเพลงตามรายการต่าง ๆ มากมาย เเละยังรับงานร้องเพลงงานอีเวนต์ตามห้างฯ งานแต่ง หรือแม้กระทั่งตามสถานที่บันเทิง เคยได้เงินมากที่สุดถึง 60,000 ต่อเดือน จนสามารถผ่อนบ้านให้เเม่ได้ ส่วนตัวเเม่ก็ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ดังนั้นลูกสาวจึงเป็นผู้ดูเเลมาโดยตลอด
ต่อมาเกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้ลูกสาวไม่มีงาน ส่วนตนก็อาการเริ่มดีขึ้น ตนกับสามีจึงช่วยกันขายก๋วยเตี๋ยว เพื่อให้มีเงินมาจุนเจือครอบครัว ทำให้ตอนนี้รายได้หลักมาจากก๋วยเตี๋ยว ทำให้ลูกสาวเกิดความน้อยใจ มักจะพูดเสมอว่า "ตอนนี้เหมือนตัวเองไม่มีคุณค่า ต้องทำให้พ่อเเม่ลำบาก" ตนก็พยายามปลอบใจว่า "อย่าคิดเเบบนั้นเลยลูก เราต้องช่วยกัน"
ที่ผ่านมาตนจะสนิทกับลูกมาก ปรึกษากันทุกเรื่อง เเต่ช่วงหลัง ๆ ลูกสาวไม่ค่อยเล่าอะไรให้เเม่ฟัง เเต่ก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 25 มิ.ย.64 ก่อนจะเข้านอน สังเห็นลูกสาวดูเศร้า ๆ ตาลอย ไม่พูดอะไร ตนก็เลยไปนอนข้าง ๆ เเล้วขอกอด ก็ไม่คิดว่าจะเป็นกอดครั้งสุดท้าย
กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น (26 มิ.ย.64) เวลา 07.00 น. ลูกสาวขับรถเก๋งออกจากบ้าน เพื่อไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาล เนื่องจากเขามีโรคประจำตัว เป็นภูมิเเพ้กับไขมันในเลือดสูง เเละหลังจากเจาะเลือดเสร็จ เวลา 10.00 น. ยังโทรศัพท์มาบอกเเม่ว่าเจาะเลือดเสร็จเเล้ว จะขอไปขับรถเล่น ซึ่งตนก็ไม่คิดอะไร กระทั่งช่วงเย็นมาทราบข่าวว่าลูกสาวเสียชีวิต ก็ไม่คิดว่าลูกจะตัดสินใจทำเเบบนี้ เพราะอีกเเค่ 2 วัน (29 มิ.ย.64) จะเป็นวันเกิดของเขา ลูกสาวสัญญากับตนว่าจะไปไหว้กระดูกยาย เเละพาไปเที่ยววัด
ทีมข่าวได้เข้าไปดูช่องยูทูของผู้ตาย ชื่อช่อง "Prakaifa Channel" มียอดผู้ติดตาม 4,900 คน เป็นช่องทางที่ผู้ตาย ลงคลิปผลงานการร้องเพลงของตัวเองไว้หลายคลิป เเละหลังจากเสียชีวิตมีผู้เข้าไปรับชมผลงานของผู้ตาย เเละคอมเมนต์แสดงความไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก ขณะที่เฟซบุ๊กของผู้ตาย "Prakaifa Pooldoung" ก็พบว่ามีผู้เข้ามาเเสดงความเสียใจเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ทีมข่าวได้เข้าไปตรวจสอบเพจของผู้ตาย "Prakaifa" พบว่าเมื่อวันที่ 20 พ.ค.63 เคยลงคลิปวิดีโอความยาว 6 นาที โดยคลิปดังกล่าวผู้ตายทำขึ้นเพื่อให้กำลังใจผู้ที่ตกงานในช่วงโควิด-19 พร้อมระบุข้อความว่า "ใครตกงาน ช่วงโควิด ยกมือขึ้น เราเป็นนักร้องอาชีพ ที่ตกงานมาแล้ว 2 เดือน ทุกงานแคนเซิลหมด รายได้ = 0"
"แต่เราคิดว่า ทุกอาชีพ มันสามารถต่อยอดได้
“ดนตรี” ก็ยังสามารถเยียวยาหัวใจหลาย ๆ คน
และพอเราได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ บ้าง
ทำในสิ่งที่ไม่ถนัดบ้าง ก็เลยค้นพบสิ่งที่ทำได้ดี
นอกเหนือจากการร้องเพลงหรือเล่นดนตรี
เราเชื่อว่า ทุกวิกฤต มีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ
แค่เราเปิดใจ และมองความเป็นจริงมากขึ้น
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกคนนะคะ"
นายสุวัฒน์ชัย พรกุลวัฒน์ อายุ 30 ปี แฟนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาผู้ตายเป็นคนที่ขยันทำงานมาก ๆ เพราะเป็นคนที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว เรียกได้ว่าเดือนหนึ่งมีงานแทบทุกวัน บางวันรับ 2 งาน ซึ่งงานส่วนใหญ่จะเป็นงานอีเวนต์ตามห้างฯ งานแต่ง หรือแม้กระทั่งตามสถานที่บันเทิง จึงทำให้เเต่ละเดือนมีรายได้ประมาณ 40,000-60,000 บาท แต่พอมาเจอสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่เดือนก.พ.63 รายได้ทุกอย่างกลายเป็นศูนย์ จึงทำให้เกิดความเครียดสะสม เพราะจากที่มีงานทำทุกวันกลายเป็นคนว่างงาน แต่ก็พยายามประครองรายได้ด้วยการหาอาชีพเสริมอย่างอื่นทำ เช่น ขายของ
โดยผู้ตายมีภาระต้องผ่อนบ้านให้เเม่ เเละรับผิดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในบ้าน เดือนละไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ซึ่งโควิด-19 ระลอกเเรก รัฐบาลยังมีมาตรการพักชำระหนี้ เเละมีเงินเยียวยา ทำให้พอประคองตัวมาได้ เเต่ระลอก 2 และ 3 ทำให้เเฟนสาวมีความเครียดหนักมากขึ้น และเขาเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง กระทั่งเมื่อช่วงเดือนพ.ค.64 ผู้ตายพยายามจะคิดสั้นด้วยการจะกระโดดตึกชั้น 4 ที่บ้านของตนมาแล้ว แต่ตอนนั้นตนไปช่วยไว้ทัน หลังจากนั้นก็พยายามพูดคุยให้ผู้ตายไม่เครียด อีกทั้งพาไปพบจิตแพทย์ โดยแพทย์บอกว่าผู้ตายเป็นโรคเครียดสะสม จึงให้ยามาทาน
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ผู้ตายก็ดูเหมือนจะดีขึ้น และกลายเป็นคนร่าเริงเหมือนเดิม โดยนิสัยเขาชอบให้กำลังใจคนอื่น ชอบทำให้คนอื่นมีรอยยิ้ม ทุกคนต่างก็คิดว่าคงไม่มีเหตุการณ์ซ้ำแบบเดิมอีกแล้ว กระทั่งในวันเกิดเหตุผู้ตายได้บอกกับครอบครัวว่าจะไปพบแพทย์ เพื่อไปเจาะเลือดวัดค่าคอเลสเตอรอล เพราะเป็นคนมีค่าคอเลสเตอรอลในเลือดสูง โดยวันนั้นผู้ตายไปคนเดียว พอไปหาหมอเสร็จก็ได้บอกกับตนว่าจะขับรถวนไปดูบ้านเก่าที่อยู่ย่านสะพานใหม่ ก่อนจะติดต่อไม่ได้อีกเลย จนมาเกิดเหตุการณ์สลดครั้งนี้
จากการสอบถาม นายชัยวัฒน์ จูงสาย อายุ 24 ปี เพื่อนร่วมงานและเป็นนักดนตรีในวง เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นหัวหน้าวง เเละเป็นนักร้องนำชื่อวง "คลาสเทล ซีซั่นเเบรนด์" ส่วนตนเป่าแซกโซโฟน ที่ผ่านมาร่วมงานกันหลายปี ในมุมการทำงานผู้ตายเป็นคนขยัน น่ารัก ทุ่มเทกับงาน เเละดูเเลน้อง ๆ ในวงเป็นอย่างดี การสูญเสียในครั้งนี้เหมือนตนเสียพี่สาวไปอีกคน
โดยก่อนหน้านี้ในช่วงโควิดรอบแรก สมาชิกในวงก็มีการนั่งพูดคุยกันถึงทิศทางของวงว่าจะปรับตัวอย่างไร ในสถานการณ์ที่ไม่มีงานเเบบนี้ โดยเเต่ละคนก็หันไปทำอาชีพอื่น ๆ เพื่อหารายได้มาประทังชีวิต ซึ่งปัจจุบันตนก็ขายขนม เเละซ้อมดนตรีอยู่ที่บ้าน เนื่องจากไม่มีงานเล่นดนตรี ส่วนผู้ตายก็ปรับตัวโดยการขายของ เเต่เนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่มีจำนวนมาก ลำพังเเค่ขายของอาจไม่พอหรือไม่ คาดว่าเป็นสาเหตุในการจบชีวิตตัวเอง