2 ผัวเมียป่วยโควิดรอเตียง 7 วันจนอาการทรุด ผัวต้องโกหก “เดี๋ยวหมอมา” สุดท้ายเมียดับคาห้องเช่า (คลิป)

25 มิ.ย. 64

กรณีเฟซบุ๊ก เพทาย สมจันทร์ เผยแพร่เรื่องราวสุดเศร้าของครอบครัวผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องรอเตียง กระทั่งจากไปต่อหน้าคนที่รักโดยไม่สามารถช่วยอะไรได้ ทั้งนี้มีข้อความระบุว่า “คิดง่าย ๆ ถ้าเป็นเรา…จะผ่านคืนนี้ไปยังไง? พี่ผู้ชายคนนี้และภรรยา ป่วยโควิด-19 ทั้ง 2 คน (เมียพบเชื้อ 18 มิ.ย.64 ผัวพบเชื้อ 20 มิ.ย.64) จนอาการฝ่ายหญิงค่อย ๆ แย่ลง แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก 2 คนสามีภรรยา ดูแลกันเองในห้อง จนถึงวันนี้ครบ 7 วัน ที่ภรรยารอรถมารับไปโรงพยาบาล สุดท้ายภรรยาอาการทรุด ทานข้าวไม่ได้ นอนนิ่ง ตัวซีด หายใจติดขัด โทรสอบถามเรื่องเตียง ได้รับคำตอบเดิม คือเตียงไม่ว่าง จนช่วงสาย ๆ วันนี้ ภรรยาอาการแย่ลง รอไม่ไหว หยุดหายใจ คำตอบที่ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ คือ ให้สามีช่วยปั๊มหัวใจไปก่อน สุดท้ายภรรยาเสียชีวิต"

573522

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในพื้นที่เขตราชเทวี โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวลาว (Miss Bounthavy) อาศัยอยู่กับสามีทราบชื่อนายสุทิน อายุ 43 ปี เป็นผู้ป่วยโควิด-19 เช่นเดียวกัน

794811

ล่าสุดวันที่ 25 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว ในพื้นที่เขตราชเทวี พบลักษณะเป็นชุมชนแออัด รถยนต์ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ จากการเดินสำรวจมีช่องทางเดินริมคลองมหานาคเพียง 1 เมตร ที่คนในชุมชนใช้สัญจร และเมื่อเดินไปถึงบ้านผู้เสียชีวิตก็พบว่าเป็นห้องเช่า แบบ Home rental room รูปตัวแอลติดกัน 7 ห้อง ใช้ห้องน้ำร่วมกัน และมีผู้อยู่อาศัยห้องละไม่ต่ำกว่า 2 คน

468969

ทีมข่าวพบนายยุทธนา เซอร์ประยูร ประธานชุมชนบ้านครัวเหนือ เปิดเผยว่า ชุมชนแห่งนี้มีประชากรรวม 2,000 คน แบ่งเป็นชาวพุทธและมุสลิมที่เกิดในพื้นที่จริง 60%, ประชากรแผง 40% อาศัยห้องเช่าแออัดใช้ห้องน้ำร่วมกัน แบ่งเป็น 30% เป็นคนไทยเข้ามาทำงานตามห้างสรรพสินค้าใกล้ชุมชน และ 10% เป็นชาวเมียนมาและชาวลาว ปัญหาของชุมชนคือมีผู้ติดเชื้อ 21 คนที่ยังรอเตียงรักษา

232288

นายนราเศรษฐ์ บุญญาวัลย์ อาสากลุ่มเส้นด้าย เข้ามาทำหน้าที่ประสานหาเตียงให้ผู้ป่วยในชุมชน เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อในชุมชนมีทั้งหมด 21 คน ซึ่งขณะนี้ยังคงต้องรอเตียง แต่ล่าสุดเสียชีวิตไป 1 คน ตนจึงได้เร่งประสานโรงพยาบาลต่าง ๆ นำผู้ป่วยออกไปได้เรื่อย ๆ เบื้องต้นขณะนี้ยังตกค้างอยู่ 12 คน

761332

ในวันนี้ รพ.ปิยเวช แจ้งเงื่อนไขรับผู้ป่วยได้เพียง 10 คน คือ รับอายุไม่เกิน 65 ปี ส่วนอีก 2 คน ได้แก่ ต่างด้าว 1 คน รอเอกสารผลตรวจโควิด-19 เพราะเพิ่งตรวจไปเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.64 คาดว่าพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.64) จะทราบผล และอีก 1 คน เป็นคุณตาอายุ 72 ปี ตนกำลังประสานงานกับโรงพยาบาล เนื่องจากคุณตามีโรคประจำตัว 3 โรค ทั้งต่อมลูกหมาก, หัวใจเต้นผิดจังหวะ และความดัน แต่ญาติแจ้งว่าคุณตายังพอที่จะดูแลตัวเองได้ ซึ่ง 2 เคสนี้คาดว่าวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.64) จะสามารถปิดเคสได้

515728

ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมองว่าไม่ใช่ว่ารัฐบาลทำงานไม่ดี แต่ปัญหาอยู่ที่ทรัพยกรและบุคคลากรไม่พอกับการเรียกตรวจเชิงรุกทุกวัน หากหักลบกับคนที่หายดี เตียงก็ไม่พอ ตนจึงคิดว่าถ้ากรุงเทพฯ ยังเป็นแบบนี้ ไม่นานกรุงเทพฯ เจอวิกฤตแน่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยากให้รัฐบาลกล้าพูดความจริงกับประชาชนและทำความเข้าใจกับประชาชน กล้าเปิดใจที่จะพูดว่าเตียงไม่พอ ไม่ใช่ให้ประชาชนที่รอการรักษาโทรศัพท์ไปสอบถาม สุดท้ายประชาชนต้องสิ้นหวัง ไม่ทันเตรียมใจ อีกทั้งเวลานี้รัฐบาลควรบูรณาการร่วมกัน ลดขั้นตอนที่เป็นราชการลงเสียที ดังนั้นเคสภรรยานายสุทิน ที่รอเตียงจนเสียชีวิต เป็นหนังม้วนเก่าที่วนกลับมาฉายอีกครั้ง ตนไม่อยากดูหนังเรื่องเดิมอีกแล้ว ขอฝากถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเร่งแก้ไข และเรียงลำดับความสำคัญให้ดีเสียที

ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามนายสุทิน อายุ 43 ปี สามีหญิงชาวลาวที่เสียชีวิต เนื่องนายสุทิน ใช้โทรศัพท์ไม่ค่อยเป็น ทำได้แค่โทรเข้า-โทรออก จึงขอคุยไม่นาน และอยากพักผ่อน

538754

นายสุทิน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันรู้ผลว่าติดโควิด-19 ได้คำตอบเพียงว่า "รอ ๆ อย่างเดียว" ตนจึงแอบคิดว่าจะรอดกันหรือไม่ แต่ภรรยาก็ยังหัวเราะ ยิ้มได้ กระทั่งวันที่ 21-22 มิ.ย.64 ภรรยาบอกว่าไม่ไหว เหนื่อยจนตนน้ำตาไหล ร้องไห้ จึงทำได้แค่ให้กินยาพารา และเช็ดตัว ตอนนั้นยอมรับว่าท้อแท้มาก และโมโหด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาหากี่คน ๆ ก็สอบถามแต่อาการเท่านั้น และก็ปล่อยให้ตนและภรรยารอเช่นเดิม

ทั้งนี้วินาทีที่ภรรยาแย่ที่สุด ตนต้องโกหกภรรยาว่า "เดี๋ยวหมอจะมาแล้วนะ" เพื่อให้ภรรยาสู้ และมีกำลังใจ มีความหวัง แต่ภรรยาก็สู้มาก และทนไม่ไหวจนเสียชีวิต ตนท้อและทำอะไรไม่ถูก ส่วนอาการของตนตอนนี้ร่างกายทรง ๆ เนื่องจากได้รับการรักษา และถึงมือหมอแล้ว สุขภาพร่างกายจึงดีขึ้น และสบายใจมากขึ้น ไม่เช่นนั้นตนก็คงตายตามภรรยาไปแน่นอน

สำหรับศพของภรรยา ญาติที่ประเทศลาว และตนเซ็นเอกสารมอบอำนาจให้โรงพยาบาลจัดการเรื่องศพเรียบร้อย และตนได้ขอให้เจ้าหน้าเก็บกระดูกภรรยาไว้ให้ หากหายดีแล้วจะทำบุญให้ภรรยาอีกครั้ง แต่ขณะนี้รอแพทย์แจ้งอีกว่าจะฌาปนกิจศพเมียที่วัดไหน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส