พ่อ “อ๊อฟ” พาพิสูจน์ “หญิง” ตกเทรลเลอร์หัวฟาดดุมล้อ - ตร.โต้ รอยร้าวที่กะโหลกเป็นฆาตกรรม (คลิป)

30 ส.ค. 61
ภายหลังจากนายสมควร ดาราคำ พ่อของนายสุรพล ดาราคำ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวีว่า ส่วนตัวคิดว่า น้องหญิง อาจจะพลัดตกรถ เนื่องจาก ประตูด้านซ้ายของนายอ๊อฟเสีย ปิดไม่สนิทนั้น
อู่จอดรถเทรลเลอร์
วันที่ 29 ส.ค.61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวีลงพื้นที่พบนายสมควร ดาราคำ พ่อของนายอ๊อฟ เพื่อใช้รถคันที่ใกล้เคียงกับวันเกิดเหตุให้มากที่สุด แต่รถคันดังกล่าวปิดประตูได้สนิท โดยหากจะปิดให้ไม่สนิททำไม่ได้ โดยรถเทรลเลอร์ มีความกว้าง 2.10 เมตร ความยาว 1.90 เมตร และจากขอบเบาะคนนั่งถึงพื้น 1.75 เมตร
ทดลองขับรถโดยปิดประตูไม่สนิท
น็อตดุมล้อ 8 ดุม
นายสมควร พ่อของนายอ๊อฟ ให้ข้อมูลว่า ส่วนตัวคาดว่าน้องหญิงอาจจะหัวกระแทกมาโดนน็อตดุมล้อรถจนเป็นรอยบุบได้หรือไม่ ซึ่งทีมข่าวจึงวัดความสูงของล้อรถ สูงประมาณ 1.03 เมตร ระยะห่างของน็อตดุมล้อที่มี 8 ดุม อยู่ห่างกันประมาณ 4.5 นิ้ว โดยจากการสังเกตน็อตดุมล้อเป็นเหล็ก หากโดนกระแทกมีสิทธิ์ที่ศีรษะจะเป็นรอย
ภาพจำลองขณะที่น้องหญิงตกจากรถ
นอกจากนี้ นายสมควร ตั้งข้อสงสัยว่า หากน้องหญิงหล่นลงจากรถแล้วศีรษะถูกน็อตดุมล้อก่อน แล้วมาโดนคอกกันหมาที่เป็นเหล็กอีกขั้นได้หรือไม่ ซึ่งความห่างจากน็อตดุมล้อด้านบนไปถึงคอกกันหมาระยะห่างประมาณ 80 เซนติเมตร
ระยะห่างระหว่างคนขับและที่นั่งข้างคนขับ
ทีมข่าวขึ้นไปสำรวจบนรถเทรลเลอร์พบว่าหากน้องหญิงนั่งติดประตูตามคำกล่าวอ้างของนายอ๊อฟ จะพบว่าระยะห่างจากคนขับมาถึงตัวน้องหญิงจะอยู่ประมาณ 36 เซนติเมตร และหากนายอ๊อฟจะมาจับที่ตัวของน้องหญิงนั้น จะต้องเอื้อมตัวมาสุดถึงจะจับตัวได้
ทีมข่าวทดสอบนั่งบนรถเทรลเลอร์
โดยเมื่อพ่อของนายอ๊อฟขับรถในความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. เมื่อทีมข่าวลองเปิด-ปิดมือจับประตูรถ พบว่าเปิด-ปิดได้ง่าย โดยมือจับเปิด-ปิดประตูรถของอ๊อฟซึ่งเป็นคันที่เกิดเหตุก็จะลักษณะเดียวกัน แต่จุดที่ไม่เหมือนคือตัวสลักล็อกประตู เนื่องจากรถของนายอ๊อฟตัวสลักล็อกประตูรถเสีย จึงทำให้ปิดประตูได้ไม่แน่น อีกทั้งหากในวันเกิดเหตุประตูปิดไม่สนิทจริง ก็สามารถตกลงไปได้ โดยเฉพาะในช่วงทางโค้ง ประตูฝั่งซ้ายด้านของผู้โดยสารจะสามารถเปิดออกเองได้เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นทางตรงไม่มีสิทธิ์จะตก แต่คนนั่งต้องหาที่จับไว้เช่นกัน
หัวเกียร์ภายในรถ
หัวเกียร์ภายในรถ
ส่วนถ้าน้องหญิงกระโดดลงจากรถ จึงสันนิษฐานว่าต้องเหยียบบังโคนล้อแล้วค่อยกระโดนลง เนื่องจากถ้ายืนแล้วจะกระโดด เท้าจะเหยียบบันไดไม่ถึง อีกทั้งพื้นที่ว่างระหว่างเบาะคนนั่งกับประตูอยู่ติดกันจนไม่มีพื้นที่ว่างให้เหยียบได้ นอกจากนี้ พ่อนายอ๊อฟลองถอดหัวเกียร์ออกมา พบว่าด้านในเป็นเหล็ก ไม่สามารถใช้ตีหัวน้องหญิงแล้วเป็นรอยคล้ายเลขแปดได้
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า กรณีที่ฝ่ายผู้ต้องหามีการยืนหนังสือขอให้อัยการภาค 1 มีการยื่นขอให้ส่งหลักฐานการขันสูตรศพของผู้ตาย ให้สมาคมแพทย์นิติเวชพิจารณาลงความเห็นใหม่นั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาสามารถทำได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนพนักงานอัยการจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็เป็นดุลพินิจของอัยการ ส่วนตัวไม่ได้กังวลแต่อย่างใด ยังคงมั่นใจในพยานหลักฐาน ว่าคดีนี้คือคดีฆาตกรรม ส่วนจะมีการข่มขืนหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่หากพิสูจน์ทราบผู้ต้องหาก็จะมีถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม พร้อมเชื่อมั่นใจพยานหลักฐานทุกอย่างอยู่ในสำนวนทุกอย่างแล้ว ส่วนที่ฝ่ายคู่กรณี ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นแพทย์ผู้ลงความเห็นในการชันสูตร เนื่องจากไม่มีความรู้ความสามารถในการพิสูจน์ศพนั้น ตนมองว่าแพทย์นั้นก็มีใบประกอบวิชาชีพ ที่สามารถลงความเห็นได้ ส่วนหากไม่เห็นชอบ ก็มีสิทธิ์ไปดำเนินการได้ตามขั้นตอน นายอัจฉริยะ ยังเปิดเผยถึงข้อมูลบาดแผลของผู้ตาย ระบุว่า แผลที่กระโหลกศีรษะด้านขวา พบกระโหลกศีรษะแตกเป็นวงกลม2วงติดกัน คล้ายกับตัวเลข 8 โดยวงหนึ่งยาวประมาณ 1 เซนติเมตร และวงที่ 2 ยาว 2 เซนติเมตร ซึ่งบาดแผลจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้น้องหญิงเสียชีวิต
ภาพจำลองรอยร้าวบนกะโหลกน้องหญิง จากผลชันสูตร
อีกทั้งผลการเอ็กซเรย์ยังพบกระโหลกศีรษะร้าวทั้งใบ ลักษณะการร้าวคล้ายกับใยแมงมุม ซึ่งผิดแปลกไปจากการระบุว่าตกมาจากที่สูง ที่รอยร้าวน่าจะเป็นการร้าวแบบเส้นเดียว ซึ่งนายอัจฉริยะได้วาดลักษณะการร้าวให้ทีมข่าวดู ซึ่งเชื่อได้ว่าผู้ตายถูกทำร้ายก่อนเสียชีวิต ส่วนบาดแผลอื่น ๆ เป็นบาดแผลเล็กน้อยตามร่างกาย จากนี้ตนและทีมทนายความก็รอเพียงการขึ้นศาล ยังยืนยันว่าเหตุการณ์นี้คือการฆาตกรรมแน่นอน
รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงษ์ พูตระกูล นักวิชาการด้านอาชญวิทยา
รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงษ์ พูตระกูล ประธานกรรมการสถาบันอาชญาวิทยาและการบริการงานยุติธรรม ม.รังสิต กล่าวว่า คำกล่าวอ้างว่าประตูรถปิดไม่สนิทหรือกลอนประตูเสียนั้นค่อนข้างเป็นไปได้ เพราะส่วนตัวเชื่อว่าผู้ตายต้องนั่งพิงประตู แต่ไม่รู้ว่าจะพิงในลักษณะใด หากคนที่กำลังจะถูกทำร้ายหรือข่มขืน คงนั่งหันหลังให้ประตูมองตรงไปที่คนร้าย แต่ทั้งหมดจะเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมอำพรางก็ขึ้นอยู่กับผลทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันเท่านั้น กรณีของน้องหญิงที่อ้างว่าเกิดจากอุบัติเหตุตกจากรถ หรือตั้งใจกระโดดลง ด้วยความเร็วรถขณะนั้น 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากตกลงจากที่สูงไม่ใช่แค่เพียงกะโหลกศีรษะแตก แต่จะต้องมีรอยฟกช้ำ บาดแผลตามร่างกาย หรือส่วนต่าง ๆ หัก แต่จากข่าวทราบว่าสภาพศพไม่มีร่องรอยที่ว่าแต่อย่างใด ดังนั้นยังมุ่งประเด็นหลักไปที่การฆาตกรรมจนเสียชีวิต เพราะยังไม่มีเหตุจูงใจ และหลักฐานอื่น ๆ เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งวันนี้จากกรณีที่ทีมข่าวลงพื้นที่แล้วเทียบเคียงจุดที่ใกล้กับประตู รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงษ์ บอกว่า จากภาพบริเวณล่างประตูมีดุมล้อรถรถบรรทุกและโครงเหล็กที่กึ่งกลางตัวรถ ส่วนตัวมองว่าหากตกลงมากระแทกบริเวณสองจุดดังกล่าวแล้วเสียชีวิต เป็นไปได้ค่อนข้างยาก เพราะด้วยระยะความเร็วของรถวิ่งประมาณ 15-30  หรืออาจ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงทำให้ตกลงมาแล้วเฉียงไปบริเวณด้านข้างรถ ทำมุม 45-60 องศา ไม่กระทบโดยตรงกับบริเวณดุมล้อหรือโครงเหล็ก หากเป็นอุบัติเหตุพิงประตูแล้วตกลงไปกะโหลกก็จะเป็นรอยร้าวแตกคล้ายกับโยนลูกมะพร้าวลงสู่พื้น เพราะจะกระแทกกับพื้นมากกว่าอะไหล่และอุปกรณ์รถ ดังที่กล่าวไปข้างต้น คือ ตัวของน้องหญิงจะตกเฉียงออกไป 45 องศา ไม่ร่วงไปที่ล้อทันที
ดุมล้อรถเทรลเลอร์
ทั้งนี้ หลังจากที่พ่อของนายสุรพล ให้สัมภาษณ์และชี้ประเด็นใหม่ว่าเป็นอุบัติเหตุ ส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะยังไม่มีเหตุหรือหลักฐานที่เชื่อว่าเป็นแบบนั้น และยังเชื่อว่าเป็นการเสียชีวิตโดยถูกใช้ของแข็งไม่มีคมทุบทำร้ายบริเวณศีรษะ ประกอบกับรอยแตกที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้เปิดเผยออกมานั้น ตนเองไม่ทราบ เพราะไม่เห็นผลชันสูตรศพโดยตรง จึงไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเป็นรอยแตกจากอะไร แต่รอยบุบคือรอยจากของแข็งกระแทกอย่างแน่นอน เพราะหากเกิดอุบัติเหตุหรือหล่นลงจากรถ จะเป็นรอยแตกทางยาวหรือเป็นบริเวณอื่นซึ่งไม่ใช่ตรงด้านหลัง ดังนั้น จากกรณีนี้ตัวเองมองว่า ผู้เป็นพ่อซึ่งมีความรักต่อลูก จึงเชื่อในความบริสุทธิ์ของลูก ทำให้ออกมาให้ข่าวดังกล่าว แต่ในความเป็นจริงกลับไม่มีความสอดคล้องใด ๆ

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ