กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจาก รพ.ตรัง มีชายไทยพลัดตกจากอาคารสูงเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา นายนฤชิต อายุ 41 ปี ชาวจ.ตรัง เบื้องต้นทราบว่าในช่วงเช้ามืดของวานนี้ (22 มิ.ย.64) นายนฤชิต ได้เล่น เซิร์ฟสเก็ต (Surfskate) บนดาดฟ้าบ้านพัก โดยชั้นล่างเปิดเป็นร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ แล้วเกิดพลัดตกจากตึกลงสู่ถนนวิเศษกุล ซอย 4 (ซอยคลองห้วยยาง) ต.ทับเที่ยง ร่างกายกระแทกกับพื้นถนนอย่างแรง
โดยชั้นดาดฟ้าของตึกดังกล่าวมีความสูง 5 ชั้น ประมาณ 20 - 25 เมตร ญาติรีบนำตัวส่งโณงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ช่วยยื้อชีวิตแต่ไม่เป็นผล นายนฤชิตเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ล่าสุดวันที่ 23 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว ในพื้นที่ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ด้านล่างเปิดเป็นร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ โดยที่เกิดเหตุยังพบคราบเลือดของผู้ตายอยู่บนถนน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางกนกรจน รุ่งเรืองศิริพันธ์ อายุ 41 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.64) ขณะที่ตนนอนหลับอยู่บนชั้น 3 กับลูกสาวอีก 2 คน ใกล้เวลาช่วงเช้าตนได้ยินเสียงดัง “ตุ๊บ” 1 ครั้ง ตอนนั้นไม่ได้เอะใจอะไร เพราะปกติช่วงเวลานั้นก็จะมีช่วงที่มีรถของเทศบาลมาเก็บขยะในหมู่บ้าน ไม่ได้คิดอะไรจึงนอนหลับต่อไป
กระทั่งมีคนมากดกริ่งที่หน้าบ้าน ตนก็ยังแปลกใจว่าใครมากดกริ่งเรียกตั้งแต่เช้า พยายามเรียกชื่อสามีว่า “เบิร์ด ๆ ๆ ลงไปดูหน่อยใครมาเรียกหน้าบ้าน” แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากสามี คิดว่าสามีอาจจะยังหลับอยู่หรือไปออกกำลังกายกับพ่อและแม่ ตนจึงเดินลงไปดูก็พบว่าเป็นเพื่อนบ้าน มาบอกว่า “สามีนอนบาดเจ็บอยู่ ตกลงมาจากด้านบน” ตอนนั้นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก รีบวิ่งไปดูสามีก่อน ซึ่งขณะที่เข้าไปดูพบว่าสามีนอนอยู่ในสภาพนอนหวาย ไม่สวมเสื้อ ในกางเกงขาสั้น และรองเท้าผ้าใบ แขนข้างซ้ายหัก ข้อศอกด้านซ้ายหักแตก เนื้อฉีกออกมา สะโพกและขาหัก ตอนนั้นตนพยายามเรียกสามีให้มีสติ และบอกว่าจะรีบไปหยิบโทรศัพท์ปิดบ้าน เพื่อจะพาไปโรงพยาบาล
จังหวะนั้นตนได้บอกให้ลูกสาวคนโตเข้ามาดูสามี ซึ่งสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด คือ ลูกสาวบอกให้ฟังว่า “ระหว่างที่แม่ไปหยิบของในบ้าน พ่อได้จับมือลูกมากำไว้ที่หน้าอกข้างซ้าย” ยิ่งทำให้ตนรู้ว่าสามีอาจจะอยากบอกรัก และอำลาลูก และตนเป็นครั้งสุดท้าย แต่ตนลงมาไม่ทัน ทางมูลนิธิจึงได้ช่วยกันนำสามีส่งโรงพยาบาลทันที
โดยในคืนวันที่ 21 มิ.ย.64 เวลา 21.00 น. สามีได้บอกกับตนว่าจะรีบนอนก่อน เพราะรู้สึกปวดหัว ซึ่งตอนที่สามีลุกขึ้นมาเล่นเซิร์ฟสเก็ต ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะสามีได้บอกอะไร แต่บนดาดฟ้า ตน สามี และลูกสาวอีก 2 คนจะขึ้นไปเล่นกันประจำ เพราะเป็นที่ฝึกหัดอันดับแรก จัดพื้นที่ไว้อย่างดี ส่วนตัวคิดว่าสาเหตุที่สามีได้ตกลงมาเป็นเพราะท่าสแนป 360 องศา ซึ่งสามีจะหัดท่านี้ทุกครั้งที่เล่น เป็นท่าที่อันตรายมาก และจนทำให้พลัดตกลงมา จนอาจจะลืมว่าตัวเองสูง 180 เซนติเมตร จึงทำให้ตกลงมาจากดาดฟ้าดังกล่าว
ขณะนี้ตนยังรู้สึกเสียใจ ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ตนและลูกสาวคงจะหยุดเล่นไปก่อน และจะกลับมาเล่นอีกหรือไม่ก็คงต้องคิดดูก่อน เพราะตนต้องสูญเสียสามีผู้เป็นที่รักไปเพราะอุปกรณ์กีฬาชนิดนี้
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปยังสมาคมฮกเกี้ยน ศาลาบำเพ็ญกุศล ซึ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลศพของนายนฤชิต อายุ 41 ปี บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายนิพนธ์ รุ่งเรืองศิริ พ่อของนายนฤชิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ออกจากบ้านเวลาประมาณ 05.00 น. เพื่อไปวิ่งออกกำลังกายภายในหมู่บ้าน ซึ่งตอนที่จะออกจากบ้านก็คิดอยู่ว่าครอบครัวของลูกชายคงจะนอนหลับ จึงปิดบ้านไปออกกำลังกายกับภรรยาด้วยกัน 2 คน
จากนั้นระหว่างที่ตนกลับมาบ้าน ปรากฏว่าก็มีรถมูลนิธิกุศลสถานจอดอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว ตอนแรกคิดว่ามีอุบัติเหตุรถชน หรือมีคนล้มรถ แต่พอเข้าไปดูใกล้ ๆ กลับพบว่าเป็นลูกชายของตนที่พลัดตกลงมาจากดาดฟ้า ทำให้ตนนึกคิดขึ้นมาว่า “ลูกชายขึ้นไปเล่นเซิร์ฟสเก็ต และพลัดตกลงมาแน่ ๆ” เนื่องจากบนดาดฟ้าลูกชายจะเล่นประจำแต่ไม่ทุกวัน ซึ่งตอนนั้นตนรู้ได้เลยว่าลูกชายคงจะมีชีวิตรอดยากแล้ว เพราะดูจากความสูงที่ตกลงมา และบาดแผล แขนขาหักงอ เพราะตนก็เป็นหัวหน้าของมูลนิธิกุศลสถานดังกล่าวด้วย ทำงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มามาก แต่พอมาทราบว่าเป็นลูกชายตัวเอง ก็รู้สึกเสียใจและทำใจได้ยาก
นอกจากนี้ ที่สำคัญตนเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะลูกชายสูง 180 ซม. บนดาดฟ้าก็มีกำแพงกั้นรอบ แต่อาจจะเป็นจังหวะที่เผลอตัวจนพลัดตกลงมา ซึ่งลูกชายก็เพิ่งจะหัดเล่นได้ 3 เดือน ตนอยากฝากเตือนถึงคนที่ชอบเล่นเซิร์ฟสเก็ตว่าถ้าคิดจะเล่น ต้องเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ไม่ควรไปเล่นพื้นที่สูง และควรจะมีอุปกรณ์ที่ครบ เพราะกีฬาชนิดนี้ถือว่าเสี่ยงและอันตราย ตนจึงอยากฝากเป็นบทเรียน หลังจากนี้ตนสั่งห้ามลูกสะใภ้ และหลานอีก 2 คน หยุดเล่นชั่วคราว เพราะตนยังทำใจไม่ได้
