ไม่รอด! รวบโจ๋แหกด่านชนตำรวจ อ้างตกใจซิ่งเก๋งญาติซุกไอซ์ คลิปมัดใส่เกียร์หมาเผ่น (คลิป)

จากเหตุการณ์วันที่ 21 มิ.ย. 64 เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สภ.เมืองนครสวรรค์ บริเวณหน้าโรงเรียนนครสวรรค์ปัญญานุกูล ถ.พหลโยธิน (ขาขึ้น) ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ จากนั้นมีคนร้ายขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า สีดำ ทะเบียน กอ-893 นครสวรรค์ หลบหนีการตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขับรถไล่ติดตามคนร้ายไปถึงบริเวณหน้าวัดเขามโน ถนนหนองเบน-ลาดยาว กม.7 ต.หนองกระโดน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ รถยนต์ของคนร้ายที่ขับหลบหนีเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไล่ติดตาม จนทำให้เสียหลักพลิกคว่ำทั้ง 2 คัน ได้รับความเสียหาย และคนร้ายหลบหนีทิ้งรถคันที่ขับไว้

ทำให้ ส.ต.ท.วีระพงษ์ แสงนิลเกิด ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งเป็นผู้ขับรถไล่ตามคนร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล

จากการตรวจสอบรถเก๋งสีดำที่คนร้ายได้ขับหลับหนี ภายในรถเจอยาไอซ์ น้ำหนัก 2 กรัม ธนบัตรฉบับละ 100 บาท จำนวน 3 ใบ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการกระจายกำลังติดตามตัวคนร้ายที่หลบหนี คาดว่าจะสามารถติดตามจับกุมได้ไม่ยากเนื่องจากสืบทราบจนรู้แล้วว่าคนร้ายเป็นใคร มีประวัติเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ ทราบชื่อคือนายไกรสรณ์ น้อยรุ่ง 

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ มีเสียงชาวบ้านกรีดร้องกรี๊ดก่อนที่จะวิ่งไปดู จากนั้นชาวบ้านในซอยวัดเขามโน คือนางลมัย ไพบูลย์ อายุ 52 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์วิ่งออกจากซอย และสวนกับคนร้าย ที่วิ่งหนีด้วยความเร็วสวนกลับเข้าซอยไปทันที

ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ พ.ต.ต.พรชัย ขุนพิลึกลือเดช สว.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ เปิดเผยว่า หลังพบคนร้ายแหกด่าน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนร้ายไปจนถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าระหว่างนั้นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถผู้ต้องหาเบียดกันในเส้นทางและรถของผู้ต้องหาขึ้นมาปัดหน้าของรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากมีความพยายามที่จะตบรถเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตกไหล่ทางจึงมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ผู้ต้องหาจึงวิ่งหลบหนีไปในป่า

ซึ่งเมื่อตนได้รับรายงานจึงพร้อมด้วยชุดสืบสวน รวมกันปิดล้อมพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุไว้ จากนั้นภรรยาผู้ต้องหา คือน.ส.ปรัชญาพร ชาติดอน อายุ 31 ปี ต.ศาลเจ้าไก่ต่อ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ได้ให้การว่า วันที่ 21 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 09.00 น. นายไกรสรณ์ ได้ขับขี่รถยนต์เก๋งของญาติ มาเอาเอกสารการรายงานตัวบุคคลพ้นโทษคดียาเสพติดให้โทษ ที่ตนเพื่อจะเดินทางไปรายงานตัวที่สำนักงานคุมประพฤติในจังหวัด เมื่อได้เอกสารแล้วก็ขับขี่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวนี้ออกไปจนทราบข่าวว่าแหกด่าน

กระทั่งเวลา 21.20 น. ตำรวจมีการดักซุ่มอยู่ ก็พบผู้ต้องหาเดินออกจากคู่น้ำ หลังโรงโมหินห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 กม. สภาพอิดโรย เจ้าหน้าจึงแสดงตัว ทำการตรวจค้น และสอบถามผู้ต้องหาว่าเป็นบุคคลที่ตำรวจตามหนอยู่หรือไม่ ซึ่งผู้ต้องก็รับสารภาพ ยอมให้ตำรวจจับกุม

ทั้งนี้จากคำให้การของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ได้ใช้วิธีเดินทาง และเข้าไปหลบในคู่น้ำ โดยใช้ต้นหญ้าคลุมตัวไว้ โดยยังไม่ได้กินข้าว กลัวความผิดจึงหลบหนีไม่ได้กล้าออกไปไหน เพราะมีทั้งยาเสพติด และเสพยาเสพติดมาก่อนด้วย การหลบหนีก็คิดว่าตำรวจคงไม่สามารถตามได้ทัน ส่วนผู้ต้องหามีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะถูกกระจกบาด อกปวด ลำตัวช้ำ และกระแทกกับพวงมาลัย และแขนขวา เบื้องต้นแพทย์ล้างแผลให้เรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้ต้องหารายนี้เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพ วันที่ 19 พ.ย. 64 ข้อหามียาเสพติดไว้เพื่อจำหน่าย

ตำรวจแจ้งข้อหามียาเสพติดไว้ครอบครอง ขัดขวางเจ้าพนักงาน เร่งสอบสวนเพื่อส่งศาลฝากขังต่อไป ขณะที่ยาเสพติดอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลต้นต่อที่มาของยาเสพติด หากพบจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

ภายหลักการสอบปากคำ ตำรวจควบคุมตัวนายไกรสรณ์ ผู้ต้องหาไปตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือ จากนั้นนายไกรส เปิดเผยว่า ตนเองทำไปเพราะตกใจกลัวความผิด และเพิ่งพ้นโทษมา ตนเองทราบแล้วว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ็บหนัก จึงขอโทษที่ทำให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ยืนยันไม่มีเจตนาและอยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทั้งนี้ ตนเองทราบดีว่าเพิ่งพ้นโทษ แต่รอบนี้เข็ดแล้วจริง ๆ ยืนยันว่าจะไม่ก่อเหตุเช่นนี้อีกแล้ว