สุดงง! อดีตผู้กำกับขโมยรถอ้างลืมกินยากลายเป็นโจร เต้นรถแฉเล่ห์หัวล้านชิ่ง (คลิป)

20 มิ.ย. 64

กรณีสมาชิกเฟซบุ๊ก Tan Patcharapon โพสต์ข้อความว่า "ขอความช่วยเหลือ ท่านใดเห็นรถ Ford everest ทะเบียน 5 กจ 6813 กทม. ด้านหลังรถติดสติ๊กเกอร์ Big Auto รบกวนแจ้ง 0880881171 โดยรถโดนขโมยจาก BIG AUTO สาขากาญจนาภิเษก ถนนกาญบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. โดยผู้ก่อเหตุเสื้อเชิดลายสีขาว อ้วน และมีอายุ"

727416356342

กระทั่งวันที่ 19 มิ.ย.64 พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง และ กก.สส.บก.น.9 เข้าจับกุม พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ (นรต.34) อดีต ผกก.ฝ่ายบริการศึกษา ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 283/2564 ลงวันที่ 19 มิ.ย.64 ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลางรถยนต์ฟอร์ด รุ่นเอเวอเรสต์ ไทเทเนียม สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 5 กจ 6813 กรุงเทพมหานคร มูลค่าประมาณ 1.7 ล้านบาท ซึ่งได้มาจากการวิ่งราวทรัพย์เต็นท์รถมือสอง โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในซอยบางแวก 81 แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กทม.

232314

ล่าสุดวันที่ 20 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุที่เต็นท์รถยนต์มือสอง บิ๊กออโต้ ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. เป็นเต็นท์รถขนาดใหญ่ มีรถมือสองวางจำหน่ายประมาณ 50 คัน ซึ่งจุดเกิดเหตุที่ผู้ต้องหามาก่อเหตุนั้น เป็นโซนด้านหน้าแถวแรก ติดกับทางออกถนนกาญจนาภิเษก

;0ixbf

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนผู้ต้องหาจะเข้าไปก่อเหตุ ได้ทำทีมาขอเลือกรถยนต์มือสองในเต็นท์รถแห่งที่ 1 ที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ แต่เนื่องจากเต็นท์ที่ 1 มีรั่วรอบขอบชิด จึงไม่สะดวกต่อการหลบหนี ผู้ต้องหาจึงเดินไปยังเต็นท์รถแหล่งที่ 2 ซึ่งเป็นเต็นท์ที่เกิดเหตุ ก่อนก่อเหตุแล้วขับหลบหนีไป ส่วนเต็นท์รถที่เกิดเหนุนั้น พบว่าวันเกิดเหตุกล้องวงจรปิดไม่ทำงาน จึงไม่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้

เวลา 14.00 น. พ.ต.ท.วัชรพัฒน์ เรืองอัครนนท์ รองผกก.(สอบสวน) สน.หลักสอง ได้คุมตัว พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ (นรต.34) อายุ 62 ปี อดีต ผกก.ฝ่ายบริการศึกษา ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 283/2564 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาทำแผนประกอบการรับสารภาพ คือ บริเวณเต็นท์รถแห่งที่ 1 อยู่ติดกับเต็นท์รถที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาทำทีเดินเลือกซื้อรถยนต์ และภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้

880251

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาผู้ต้องหามาทำแผนในจุดที่ 2 ซึ่งเป็นบริเวณเต็นท์รถยนต์จุดเกิดเหตุ โซนบริเวณด้านหลัง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาเดินมาทำทีขอซื้อรถกับพนักงานร้าน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุจุดที่ 3 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาขอลองขับรถฟอร์ด รุ่นเอเวอเรสต์ ไทเทเนียม สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 5 กจ 6813 กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไปขณะที่พนักงานเผลอ

996569

หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ ทีมข่าวพยายามสอบถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุกับผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาก็ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่สวแต่อย่างใด ทั้งนี้ระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้มีคุณจอยและคุณบิ๊ก เจ้าของเต็นท์รถยนต์ที่เกิดเหตุ มาสังเกตการณ์ด้วย 

ทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลกับ พ.ต.ท.วัชรพัฒน์ เรืองอัครนนท์ รองผกก.(สอบสวน) สน.หลักสอง ให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวน พ.ต.อ.พันธุ์ศินิ ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า ก่อเหตุไปโดยไม่รู้สึกตัว เนื่องจากขาดยาหลายชนิดที่กินรักษาอาการป่วยหลายโรค กระทั่งตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในบ้านพักสติจึงได้ฟื้นคืนกลับมา

220929

อย่างไรก็ตาม ชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องรอสอบปากคำญาติพี่น้อง และพิจารณาหลักฐานจากแพทย์อีกครั้ง เนื่องจาก พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ เคยถูกให้ออกจากราชการปี 58 หลังก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน ในท้องที่ สน.ตลิ่งชัน เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 24 ก.ค.58 พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ เคยวางแผนเข้าไปซื้อรถยนต์มือสอง ทะเบียน 3 กว 7405 กรุงเทพมหานคร มูลค่า 6.9 แสนบาท จากเต็นท์รถยนต์มือสอง ย่านบรมราชชนนี ซึ่งระหว่างขับลองรถเจ้าตัวได้ใช้สเปรย์ดับกลิ่นกายฉีดใส่หน้าพนักงานประจำเต็นท์ จนต้องวิ่งหนีตาย จากนั้นได้ขับรถไปจอดไว้ที่โรงแรมเวียงใต้ ถนนข้าวสาร กระทั่งชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.ติดตามจับกุมได้ในวันรุ่งขึ้น โดยครั้งนั้นถูกดำเนินคดีชิงทรัพย์ ติดคุกนาน 5 ปี จนพ้นโทษออกมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง

302299

นายบิ๊ก และน.ส.จอย เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสองที่เกิดเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังจากเกิดเหตุในฐานะเจ้าของเต็นท์รถก็มีความกังวลใจ แต่ก็เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทั่งได้ตัวผู้ต้องหา สำหรับเต็นท์รถของตนก็ถือว่ามีมาตรการดูแลความปลอดภัยที่ค่อนข้างดี แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกินมาตรการความปลอดภัยที่เต็นท์รถของตัวเองจริง ๆ

หลังจากรู้ว่าผู้ก่อเหตุสวมวิกผมมาเพื่อก่อเหตุ ทำให้ตัวเองมั่นใจว่าเขาเตรียมการมาก่อเหตุแน่นอน อีกทั้งพฤติกรรมของผู้ต้องหายังขับรถยนต์ของตัวเองไปจอดไว้ที่วัดมะพร้าวเตี้ย แล้วนั่งแท็กซี่มาก่อเหตุ จากนั้นก็ขับรถของกลางไปไว้ที่วัดมะพร้าวเตี้ยอีกครั้ง ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้เชื่อว่าผู้ก่อเหตุเตรียมการมาก่อนแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ถึงผู้ก่อเหตุจะเป็นอดีตผู้กำกับ และเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ตนก็ไม่ได้ตกใจอะไร ยิ่งตัวเขาเคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ติดตามคดียิ่งต้องเพิ่มความสำคัญกับผู้ต้องหารายนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ผู้ก่อเหตุใช้เวลาก่อเหตุแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น อีกทั้งเต็นท์ของตัวก็อยู่ติดกับถนน จึงทำให้ผู้ก่อเหตุขับนถยนต์ออกไปได้ง่าย พวกตนจึงอยากเตือนเป็นอุทาหรณ์ ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทุกคนต่างลำบาก จึงอยากให้ทุกคนระวังเพิ่มมากขึ้น 

969603

นายป๋อง ที่ปรึกษาด้านการขาย ซึ่งเป็นพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 12.10 น. พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ ผู้ต้องหา ได้เดินมาเลือกรถยนต์ที่เต็นท์รถอีกแห่ง ที่อยู่ติดกับเต็นท์รถที่ตนทำงาน จากนั้นก็เดินมาเรื่อย ๆ มาถึงเต็นท์รถแห่งนี้ เมื่อมาถึงผู้ต้องหาได้ถามหารถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง ตนจึงพาไปดูรถยนต์อยู่โซนด้านหลังร้าน กระทั่งดูไปสักพักผู้ต้องหาเปลี่ยนใจ อยากดูรถยนต์คันใหม่ ตนจึงพาไปดูคันที่ถูกขโมยไป มูลค่าประมาณ 1.7 ล้านบาท (ราคามือ 2 ประมาณ 9 แสนบาท) ซึ่งเป็นคันที่จอดไว้ด้านหน้าร้าน ติดกับถนนกาญจนาภิเษก

878816

จากนั้นตนได้ให้พนักงานอีกคนไปหยิบกุญแจรถยนต์มาให้ จังหวะนั้นตนก็เปิดรถยนต์ให้ลูกค้าดู แล้วลูกค้าขอเข้าไปนั่ง และให้ตนสตาร์ตรถให้ จู่ ๆ ผู้ต้องหาก็ขับออกไปจากเต็นท์รถทันที จากนั้นตนได้มีแจ้งเรื่องดังกล่าวกับเจ้าของเต็นท์รถ แล้วก็ได้ขับรถตามผู้ก่อเหตุ แต่ก็ขับไล่ตามไม่ทันแล้ว รวมเวลาที่ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้เวลาประมาณ 30 นาที

823201

สำหรับผู้ต้องหารายนี้ ขณะที่เข้ามาในเต็นท์รถเขามีพฤติกรรมปกติ ไม่มีพิรุธ แต่งกายดีภูมิฐาน และพูดคุยกับตนเกี่ยวกับไฟแนนซ์ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อรถเหมือนลูกค้าทั่วไป ตนจึงไม่ทันคาดคิดว่าจะมาก่อเหตุ ส่วนเรื่องวิกผมที่ผู้ต้องหาสวมใส่ ตนก็แอบสงสัยอยู่บ้าง แต่ขณะนั้นคิดว่าเขาย้อมผมสีดำ ไม่คิดว่าจะใส่วิกผมจริง ๆ 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส