เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 จังหวัดพะเยา คลัสเตอร์บ้านร่องส้าน ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 2 ราย และต.สบบง อ.ภูซาง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย รวมเป็น 6 ราย มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เดินทางมาจากจ.ชลบุรี ซึ่งหนึ่งใน 6 ราย เป็นเด็กอายุ 2 ขวบ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงคำทั้ง 6 ราย
ขณะที่ทีมงาน ศบค.จังหวัด ประกาศสั่งให้ปิดโรงเรียน จำนวน 7 แห่งในพื้นที่อ.เชียงคำ และอ.ภูซาง สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมในพื้นที่จ.พะเยา มีจำนวน 126 ราย รักษาหายแล้ว อนุญาตกลับบ้าน 92 ราย ผู้ติดเชื้อรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 33 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ขณะที่โรงเรียนสีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ออกประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.64 หลังพบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 คนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยอาศัยอยู่กับครอบครัวในหมู่ที่ 3 ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง และมีประชาชนในพื้นที่ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงที่เกิดการแพร่กระจายของไวรัส ทำให้ต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวไว้ก่อน
เช่นเดียวกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเฉลิมพระเกียรติ บ้านสีบัวทอง ซึ่งอยู่ติดกัน ทางองค์การบริหารส่วนตำบลสีบัวทอง ออกประกาศหยุดการเรียนการสอนเช่นเดียวกัน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 30 มิ.ย.64 เพื่อทำความสะอาดฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กรระจายของเชื้อโรค
ขณะที่สถานการณ์ผู้ติเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จ.อ่างทอง พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3 ราย รวมผุ้ติดเชื้อสะสมในระลอกใหม่ 225 ราย อยู่ระหว่างการักษา 18 ราย รักษาหาย 203 ราย และมีผู้เสียชีวิต 4 ราย
กรณีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ออกหนังสือถึงศึกษาธิการจ.เชียงรายให้ประสานกับสถานศึกษาทุกแห่งในการตรวจสอบนักเรียนและนักศึกษาที่เดินทางมาจากพื้นที่ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย เพื่อให้ป้องกันไวรัสโควิด-19 แบบเข้มข้น ภายหลังจากพบการระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ ต.ตับเต่า เป็นคลัสเตอร์ใหญ่
คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ยังมีคำสั่งที่ 46/2564 กำหนดให้พื้นที่ ต.ตับเต่า อ.เทิง เป็นพื้นที่ควบคุมโดยห้ามเข้าและออกหมู่บ้านหากจำเป็น ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) และคณะกรรมการหมู่บ้านพิจารณาอนุญาตเป็นกรณี ๆ ไป รวมทั้งตั้งจุดคัดกรองและห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 21.00-05.00 น. เว้นแต่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ ยังห้ามรวมกลุ่มสังสังสรรค์ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่า 2 คนขึ้นไป ยกเว้นเป็นกิจกรรมภายในครอบครัว ปิดตลาดนัด ตลาดเร่ เป็นต้น ขณะที่ในเขต อ.เมืองเชียงราย ภายหลังพบนักเรียนขั้น ม.5 ติดเชื้อไรัสโควิด-19 จากมารดาที่อยู่ที่ ต.ตับเต่า ทำให้นายธเนศ โกมลธง รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ออกประกาศว่า กรณีการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 14 มิ.ย.64 ให้หันมาเรียนรูปแบบ On-Site ในสถานศึกษาในสังกัดทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.64 - 4 ก.ค.64
กรณีโลกออนไลน์มีการเผยแพร่เรื่องราวชวนบีบหัวอกของผู้เป็นพ่อแม่ จากเฟซบุ๊ก “ธนพล ชารี” ที่ได้แชร์ภาพเจ้าหน้าที่สวมชุดป้องกันการติดเชื้อ กำลังปฏิบัติหน้าที่รับผู้ป่วยโควิด-19 พร้อมข้อความ “คลัสเตอร์ใหม่หัวใจว้าวุ่น เปิดเทอมได้แค่ 2 วันมีแต่เด็ก ๆ ครับ 5 ราย 8-9-10 ปี น้ำตาไหลครับ เด็ก ๆ เคยมีพ่อแม่กอดนอน”
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ภายในระยะเวลาไม่นาน จึงมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจผู้ป่วยตัวน้อยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังหอบกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นรถโรงพยาบาล โดยมีพ่อแม่โบกมือให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ
ล่าสุดวันที่ 18 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังนายธนพล ชารี พนักงานกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งพนักงานขับรถ รพ.มหาสารคาม เจ้าของโพสต์ดังกล่าว กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาตั้งแต่ 13.00 น. ตนได้นำรถพยาบาลออกเดินทางตะเวนรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนเข้ามารับการรักษา ณ หอผู้ป่วยเฉพาะโรค รพ.มหาสารคาม โดยผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 8 – 10 ขวบ จำนวนทั้งหมด 5 ราย ซึ่งติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดเพื่อนนักเรียนที่ติดเชื้อโควิด-19 จากคลัสเตอร์งานบวช ในพื้นที่ ต.บัวค้อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยน้อง ๆ ทั้งหมดกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถม ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม ซึ่งพบเชื้อจากการขยายผลตรวจเชิงรุกของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ทั้งนี้ระหว่างเดินทางไปรับผู้ป่วยแต่ละหลัง ตนได้พบภาพสะเทือนใจ คือ เด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ละคนต้องหอบหิ้วกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ ที่ภายในบรรจุสิ่งของจำเป็น ก้าวขึ้นรถอย่างช้า ๆ และไม่สามารถกอดลาพ่อแม่เหมือนอย่างเคย ส่วนพ่อแม่ต่างกลั้นน้ำตาและได้แต่ยืนโบกมือลาเด็ก ๆ ให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ พร้อมกับบอกว่าสู้ ๆ ซึ่งจะวิดีโอคอลหา ตนเห็นแล้วรู้สึกสะเทือนใจจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
นอกจากนี้ ตนในฐานะที่เป็นพ่อคน ก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ จึงได้แต่ถ่ายภาพ แล้วนำโพสต์ให้กำลังใจแทน และหวังให้คนใกล้ชิดที่ได้เห็นระวังตัวเองให้มาก ๆ เพราะโรคภัยไข้เจ็บสามารถมาเยือนเราทุกคนได้ทุกเวลา โดยเฉพาะโควิด-19 ที่สามารถทำให้คนในครอบครัวต้องแยกห่างจากกัน แม้จะเป็นการแยกตัวเพื่ออกมารักษาร่างกาย แต่เมื่อผู้ป่วยเป็นเด็กเล็กที่ต้องการความรักและเคยอยู่ใกล้ชิดนอนกอดพ่อแม่ทุกคืน จากนี้อีก 14 วัน หรือตลอดการรักษาพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร
ในระหว่างที่ตนกำลังขับรถพยาบาลเพื่อนำผู้ป่วยทั้งหมดเข้ามารักษาตัว ณ รพ.มหาสารคาม บรรยากาศบนรถเป็นไปด้วยความเงียบ เด็กบางรายมีอากาเศร้าซึมอย่างเห็นได้ชัด ตนได้แต่ชวนคุยผ่านลำโพงที่ใช้สื่อสารจากหน้ารถ แต่ก็แทบจะไม่มีเสียงตอบกลับมา
ส่วนเด็กบางส่วนได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.มหาสารคาม อีก 1 คน รักษาที่ รพ.สนามอำเภอกุดรังกับญาติที่รับตัวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเด็กมีสุขภาพแข็งแรงดี ส่วนพ่อแม่นั้นต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่ว่าจะติดเชื้อหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองต้องกักตัว 14 วัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนเรื่องของการเปิดเรียนของภาครัฐตนมองว่าไม่สมควรเปิด เพราะยังฉีดวัคซีนไม่ครบ อย่างน้อย ๆ ครูหรือผู้ปกครองได้รับการฉีดวัคซีน 70-80% ก็น่าจะดีกว่านี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม พ่อและแม่ของเด็กที่ป่วยติดเชื้อโควิด-19 บอกว่า "เราค่อนข้างเป็นห่วงลูก ตอนนี้ก็ยังช็อกอยู่ คิดถึงลูกตลอดเวลา เพราะตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยอยู่ห่างจากกันเลย"
