แทงพรุนลุงพิการ 20 แผล สาวโผล่ขับรถทิ้งป่า ล็อกเพื่อนเมาเค้น 29 ชม. อ้างถูกซ้อมรับผิด (คลิป)

จากกรณีผู้สื่อข่าวจังหวัดสตูลได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้าน จึงเดินทางไปที่บ้านซอย 2 ถนนปานชูรำลึก ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นบ้านของนายอุทัย ทองเหลือ หรือ บังบู อายุ 50 ปี ผู้ตาย จากการถูกคนร้ายแทงตามลำตัวมากกว่า 20 แผล ถูกทิ้งให้เสียชีวิตในป่าข้างทางถนนโคกพะยอม ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล เมื่อกลางดึกของวันที่ 15 มิ.ย. 64

ทางครอบครัวเผยว่า "บังบู" เคยเป็นผู้ป่วยทางจิต ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยทำร้ายใครเป็นคนอัธยาศัยดี ชอบเลี้ยงไก่ชนไว้ดูเล่นที่บ้าน ร่างกายมีความผิดปกติจากอุบัติเหตุทางรถยนต์บริเวณต้นขาซ้ายและแขนขวาโก่งงอ เดินเหินไม่ปกติ หากถูกชนหรือผลักก็พร้อมจะล้มทันที นอกจากนี้เจ้าตัวยังมักจะห้อยพระเต็มคอทุกครั้งเวลาออกนอกบ้าน ซึ่งเป็นของรักของหวง ห้ามใครแตะต้อง มีพระสมเด็จ หลวงปู่ทวด และพระอีกมากมาย ซึ่งทางครอบครัวไม่ทราบแน่ชัดว่าใช่พระแท้หรือไม่

โดยในวันเกิดเหตุ ผู้ตายได้แต่งตัวแนวเพื่อชีวิตและขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปในเวลา 18.00 น. เพื่อไปดื่มสังสรรค์ที่บ้านเพื่อน และจะไปร้านคาราโอเกะ ได้ห้อยพระเครื่องพวงใหญ่ติดตัวออกไปด้วย กระทั่งเวลาต่อมาครอบครัวได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่า ผู้ตายถูกแทงด้วยอาวุธมีคมจำนวนหลายแผลแบบไม่ยั้ง และถูกทิ้งไว้ที่ป่าเสม็ด เชื่อว่าคนร้ายมีมากกว่า 1 คน โดยรถจักรยานยนต์และพระเครื่องได้สูญหายไป ทำให้เชื่อว่ามีการต่อสู้ชิงทรัพย์เกิดขึ้น ขณะนี้ร่างของผู้ตายยังควอยู่ที่โรงพยาบาลสตูล ครอบครัวจะไปรับศพมาบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าช้าไทย

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบสร้อยพระเครื่องสแตนเลสของผู้ตายแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ถูกนำมาจอดทิ้งไว้ ห่างจากบ้านของผู้ตายประมาณ 1 กิโลเมตร

วันที่ 17 มิ.ย. 64 ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ถนนปานชูรำลึก ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นางแล่มาก ทองเหลือ อายุ 71 ปี แม่ของผู้ตาย ซึ่งยังคงอยู่ในสภาวะโศกเศร้า บอกว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายเพิ่งให้เงินคนพิการฝากไว้กับตนจำนวน 700 บาท แต่ในวันเกิดเหตุ คาดการณ์ว่าคือเวลาประมาณ 23.00 น. เวลาประมาณ 18.00 น. ผู้ตายได้ขอเงินจากตน 100 บาท บอกว่าจะขอไปฟังเพลงตู้ร้านคาราโอเกะ ตนก็ได้ขอร้องว่าอย่าไปเลย อยากฟังเพลงหรือดื่มสังสรรค์ก็ขอให้ทำที่บ้าน แต่ผู้ตายก็ยืนยันจะไป ปกติผู้ตายนาน ๆ จะออกไปสังสรรค์เฉลี่ย 2 สัปดาห์ 1 ครั้ง

หลังจากที่ผู้ตายออกจากบ้านไปในเวลาประมาณ 19.00 น. ตนก็ได้ลุกขึ้นมาชะเง้อรอผู้ตายกลับมาบ้านทุกชั่วโมง เนื่องจากปกติผู้ตายจะออกไปสังสรรค์ไม่นาน 2 ชั่วโมงก็จะกลับ แต่ผู้ตายก็ไม่กลับมา ทำให้ตนนอนไม่หลับตลอดคืน กระทั่งรุ่งเช้าของวันที่ 16 มิ.ย. 64 เวลาประมาณ 8.00 น. ตนก็ได้รับทราบข่าวร้าย ตนพูดอะไรไม่ออก เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ตนได้เห็นรูปลูกชายถูกทำร้าย มีแผลทั่วร่างกาย ทำไมคนร้ายถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้ ตนอยากรู้ว่าคนร้ายทำลูกชายตนทำไม ที่มุ่งประเด็นไปเป็นการชิงทรัพย์ สร้อยพระเครื่องสแตนเลสของผู้ตายก็ไม่ได้มีมูลค่าอะไร เป็นเพียงพระที่ได้รับต่อมาจากพ่อของผู้ตาย ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้ ตนอยากบอกผู้ตายว่าไม่ต้องเป็นห่วง

เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งกับครอบครัวของผู้ตายว่า ขณะนี้มีชาวบ้านพบเจอรถจักรยานยนต์ของผู้ตายแล้ว ทีมข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าสถานที่พบเจอรถจักรยานยนต์นั้นเป็นซอยยาว สองข้างทางเป็นสวนมะพร้าว มีบ่อหน้าและหญ้าขึ้นจำนวนมาก

นายอ้วน (นามสมมติ) เล่าว่า เมื่อวานนี้เวลา 14.00 น. ตนพบเห็นหญิงผมยาวประบ่า รูปร่างผอมสูง ใส่เสื้อยีนส์ กางเกงไม่แน่ชัดประเภทสีดำ อายุประมาณ 20-30 ปี ขับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายมาพร้อมกับชายอีก 1 คน ซึ่งตนจำลักษณะการแต่งกายไม่ได้ ที่ขับรถจักรยานยนต์ตามกันมา

จากนั้นก็ได้ขับมาจอดบริเวณสวนมะพร้าวข้างทาง โดยผู้หญิงได้ลงจากรถแล้วซ้อนทางรถของผู้ชายออกไป โดยขณะนั้นตนไม่ได้สนใจ เนื่องจากคิดว่าคนน่าจะมาจอดรถเก็บมะพร้าวจับปลา หรือตัดหญ้าไปให้วัว

กระทั่งวันนี้ เวลา 11.00 น. ตนยังคงพบว่ารถจักรยานยนต์ของผู้ตายยังคงจอดอยู่ที่เดิม ตนจึงเอะใจ เนื่องจากไม่น่ามีใครมาจอดรถทิ้งไว้ข้ามวันแบบนี้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะตนได้ติดตามข่าวของผู้ตายว่าถูกขโมยรถจักรยานยนต์ไป สุดท้ายจึงทราบว่ารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่คือรถของผู้ตายจริง ทำให้ตนรู้สึกตกใจ ทั้งนี้ในซอยแห่งนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด แต่หากออกซอยไป จะมีกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ค่อนข้างโหดร้าย แม้ตนไม่ได้เห็นภาพแผล แต่แค่ได้ยินว่าผู้ตายถูกแทงกี่แผล ก็รู้สึกแย่ไปด้วย จึงอยากวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายให้ได้

ด้านนายนิพนธ์ ขวัญทอง อายุ 45 ปี ผู้ต้องสงสัยที่ถูกคุมตัวไปสอบสวน ล่าสุดถูกปล่อยตัวออกมา เพราะได้รับการยืนยันแล้วว่าบริสุทธิ์ เจ้าตัวเล่าว่า ตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปเมื่อวานนี้ มีการจับมือตนไขว้หลัง สั่งให้ตนนั่งยอง ๆ และเตะหว่างขาของตน จนกระทั่งเย็นวันนี้ ตนถูกปล่อยตัวออกมาหลังจากถูกสอบ 29 ชม.

ทั้งนี้ ตนรู้จักผู้ตายเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน เนื่องจากผู้ตายได้รับเหมาฉาบปูนให้บ้านของตน ผู้ตายเป็นคนติดสุรา มีอาการมึนเมาตลอดการทำงาน จากนั้นผู้ตายก็ได้แวะเวียนมาดื่มสังสรรค์กับตนบ้างเป็นบางครั้ง โดยในวันที่ 15 มิ.ย. ตนสังเกตเห็นผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านของตนในเวลาประมาณ 19.00 น. แล้วจากนั้นไม่เกิน 5 นาที ก็ขับผ่านกลับไป ทั้งนี้ ในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาตน 16 มิ.ย. ตนมีอาการมึนเมา ทำให้ตนให้การวกไปวนมา และถูกซ้อมให้เปิดปาก แต่จริง ๆ แล้วตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ตนรู้สึกสงสารผู้ตาย แต่ตนไม่ทราบว่าใครคือคนร้าย ทั้งนี้ผู้ตายมักมีอาการโวยวายขณะมึนเมา ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ระบุว่า นายพนธ์ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ เพียงแต่นายพนธ์มีอาการมึนเมา ทำให้การไม่รู้ความ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องตรวจสอบว่าใครเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายมาจอดทิ้งไว้ในสวนมะพร้าว ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อไล่หาความจริง และจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ