ระทึก! พิตบูลลี่น้อยขย้ำเด็ก 3 ขวบผวา เจ้าของรับผิดปล่อยหลุดแหกเขี้ยวโชว์ยันพันธุ์ผสมไม่ดุ (คลิป)

15 มิ.ย. 64

กรณีเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 17.45 น. ที่ผ่านมา ระหว่างที่น้องเปียโน อายุ 3 ขวบ กำลังขี่รถจักรยานยนต์ของเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้าน สุนัขอเมริกันบูลลี่ได้หลุดออกมา และเข้ามากัดน้องเปียโนจนได้รับบาดเจ็บ แต่โชคดีที่พ่อแม่ของน้องเปียโน เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน โดยเหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร

217409

ล่าสุดวันที่ 15 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมาที่หมู่บ้านดังกล่าว จ.สมุทรสาคร ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ น้องเปียโน ผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้อยู่ที่บ้าน เพราะยังคงหวาดกลัวและไม่กล้ากลับมาอยู่ที่นี่

131396

น.ส.ศิริมาศ คุณนุช อายุ 33 ปี แม่ของผู้ได้รับเปิดเจ็บ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 17.00 น. น้องเปียโน ลูกสาวของตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ของเล่นอยู่ที่หน้าบ้าน ส่วนตนยืนดูอยู่ใกล้ ๆ ขณะนั้นได้มีสุนัขสีขาววิ่งเข้ามาขย้ำจนรถล้มทับตัวน้องเปียโน และทำท่าจะกัดคอ โดยแพทย์ระบุว่าแผลที่แขนเกิดจากการตะครุบ ขณะนั้นสามีของตนกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่หน้าบ้าน จึงรีบวิ่งเข้ามาช่วยจับสุนัข แต่สุนัขวิ่งหนีเข้ามาตะครุบตนแทนจนตนล้มลงไปที่พื้นถนน กระทั่งเจ้าของสุนัขได้ยินเสียงร้องโวยวายรีบวิ่งออกมา

526790

ในเบื้องต้นน้องเปียโนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า มีรอยถูกกระแทก และลำตัวมีรอยเขียวช้ำ รวมถึงมีรอยขีดข่วน ส่วนที่หนักสุดคือที่ข้อมือข้างซ้ายถูกกัดจนเป็นรู แต่โชคดีที่ไม่โดนเส้นประสาท เพราะถ้าโดนเส้นประสาทอาจจะมีปัญหาเรื่องการควมคุมการเคลื่อนไหวตลอดชีวิต โดยปกติแล้วน้องเปียโนเป็นเด็กที่มั่นใจมากและร่าเริง เพราะตนฝึกทักษะทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีพัฒนาที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้มีอาการหวาดผวา จากเด็กที่ชอบสัตว์เลี้ยงและเคยขอเลี้ยงสัตว์ ตนจึงแก้ปัญหาด้วยการซื้อรูปปั้นสัตว์ให้แทน ส่วนที่บ้านของยายจะมีแมว น้องจะเข้าไปเล่นกับแมวตลอด แต่ตอนนี้ไม่กล้าเล่นและรู้สึกกลัว หลังจากนี้แพทย์แนะนำให้พบจิตแพทย์เด็ก ซึ่งตนกลัวว่าสภาพจิตใจและพฤติกรรมจะไม่กลับมาปกติ และสิ่งนี้เป็นการสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้

ทางด้านของคู่กรณีได้เข้ามาขอโทษ และจะชดใช้ค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าจะไม่นำสุนัขออกมาเดินเล่น ทั้งนี้ตนอยากจะเรียกร้องให้นำสุนัขออกจากพื้นที่ไปเลย และจัดให้เป็นสัตว์กลุ่มที่ต้องควมคุมพิเศษ นอกจากนี้ตนได้ร้องเรียนไปศูนย์ดำรงธรรม และกรมปศุสัตว์ให้เข้ามาตรวจสอบแล้ว

831446

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าของสุนัขจะบอกว่าไม่ใช่พิตบูล 100% แต่นี่ขนาดเป็นพันธุ์ผสมยังมีบาดแผลถึงขนาดนี้ โชคดีที่ลูกของตนมีน้ำหนักเยอะ เพราะถ้าเป็นเด็กตัวเล็กอาจจะถึงขั้นกระดูกหักไปแล้ว นอกจากนี้ คู่กรณีได้บอกว่าจะฟ้องกลับที่พ่อของเด็กจับสุนัขทุ่มลงกับพื้น ซึ่งตนเชื่อว่าพ่อแม่ทั้งประเทศถ้าเห็นสุนัขกัดลูกก็คงจะรีบแยกออกให้เร็วที่สุด

641856

ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านพักของเจ้าของสุนัข ซึ่งตั้งอยู่เยื้อง ๆ กัน สังเกตเห็นว่ารั้วบ้านและประตูรั้วค่อนข้างจะมิดชิด ซึ่งเจ้าของบ้านได้สาธิตการปิดประตู เวลาปิดจะเสียงดัง วันที่เกิดเหตุเข้าใจว่า ประตูถูกปิดแล้ว ไม่ทราบว่าทำไมสุนัขถึงยังออกไปได้

ส่วนสุนัขที่เลี้ยงไว้มีทั้งหมด 2 ตัว คือ ตัวที่กัดเด็กเป็นสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ เพศเมีย สีขาว อายุ 6 ปี ชื่อ กีวี่ ฟันค่อนข้างจะน้อย สำหรับตัวที่ 2 เป็นพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก สีดำ เพศเมีย อายุ 5 ปี ชื่อ เบลล่า พบว่ามีเขี้ยวคมกว่า แต่สุนัขค่อนข้างจะนิ่งเงียบ และไม่ได้เห่า

574297

นายจุฑาวัชร วิชกูล อายุ 30 ปี เจ้าของสุนัข เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ ตนปั่นจักรยานไปเอาผ้าที่บ้านของแม่ และขณะที่ขี่รถเข้าบ้าน ตนถือตะกร้าผ้าเลยใช้เท้าปิดประตู และด้วยความที่เป็นประตูสแตนเลส จึงได้ยินเสียงปิดดังขึ้นเข้าใจว่าประตูปิดลงแล้ว กระทั่งตนได้ยินเสียงร้องช่วยด้วย เลยรีบวิ่งออกไปช่วย และจากนั้นตนได้ดูแลตลอดจนถึงโรงพยาบาล ส่วนสุนัขของตนไม่มีอาการอะไร แต่อาจจะเจ็บเพราะถูกทุ่มลงพื้น แต่เข้าใจว่าพ่อของเด็กอาจจะโมโหที่ลูกถูกกัด

191663

ทั้งนี้ตนเลี้ยงสุนัขมาตั้งแต่อายุ 30 วัน ตอนนี้อายุประมาณ 6-7 ปี โดยเริ่มแรกที่ตนเลี้ยงตนได้ทำรั้วบ้าน และประตูให้มิดชิด เพื่อที่จะได้ป้องกัน ตนตั้งใจจะเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เพราะตนทำงานหาเช้ากินค่ำ และส่วนหนึ่งเป็นคนรักสัตว์มากเลยชอบเลี้ยงสัตว์ สุนัขไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือดุร้าย ซึ่งสุนัขตัวที่กัดไม่ใช่พันธุ์พิตบูล แต่เป็นอเมริกันบูลลี่ โดยความแตกต่างกัน คือ บูลลี่จะหน้าดุแต่ใจดี เพราะถูกตัดต่อสายพันธุ์

451815218724

แต่เมื่อก่อนอาจจะรู้สึกฝังใจ เพราะเด็กในหมู่บ้าน เวลาผ่านหน้าบ้าน และเห็นสุนัขอยู่ในรั้วออกไปไหนไม่ได้ เด็กมักจะมาหลอกให้สุนัขเห่า ด้วยเหตุนี้เลยอาจจะฝังใจกับเด็ก เบื้องต้นหน่วยงานต่าง ๆ ได้อนุญาตให้เลี้ยงต่อได้ แต่ต้องทำรั้วแบ่งโซนให้อยู่ที่ด้านหลังบ้าน และจะต้องทำหมัน ตัดเขี้ยว เพื่อลดพฤติกรรมความดุร้ายลง เพราะถ้านำออกจากพื้นที่ ตนก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน อีกทั้งตนเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด และเป็นห่วง กลัวคนอื่นจะเลี้ยงไม่ดีเท่าตน ด้วยเหตุนี้ตนจึงอยากจะขอความเป็นธรรมให้สุนัขที่ถูกทุ่มลงพื้น แต่ตนเข้าใจคนเป็นพ่อแม่คงจะเป็นห่วงลูก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส