ทนายเพื่อนแท้ "สมเกียรติ" ดึงสติพล ถอยห่างก๊วนยูทูบมาเป็นคนเดิมอยู่กับลูก (คลิป)

จากกรณที่ทนายสมเกียรติ โรจนะวรกมล ทนายความส่วนตัวของลุงพลและป้าแต๋นในคดีบุกรุกป่าไม้ ไลฟ์เฟซบุ๊กแนะนำลุงพลเรื่องการที่ให้ลุงพลเว้นระยะห่างจากกลุ่มยูทูเบอร์และใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้นนั้น

วันที่ 12 มิ.ย. 64 ทนายสมเกียรติ โรจนะวรกมล ทนายความส่วนตัวของลุงพล เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนเองได้ตัดสินใจไลฟ์สด ซึ่งมีใจความทำนองว่า เป็นห่วงลุงพล ในฐานะหัวอกคนเป็นพ่อเหมือนกัน เพราะตนก็มีลูกรุ่น ๆ เดียวกันกับลุงพล จึงอยากแนะนำให้แบ่งเวลาให้คนในครอบครัว แบ่งเวลาให้ลูก ๆ เยอะขึ้นกว่านี้ เพราะสิ่งที่ลุงทำอยู่ไม่มีเวลาให้ลูก

ตนจึงอยากให้โอกาสที่ได้รับการประกันตัว ใช้เวลาตรงนี้กับลูกให้เยอะ งดการให้พื้นที่กับยูทูเบอร์บ้าง เพราะไม่รู้ว่าโอกาสที่มีให้คนในครอบครัวมันจะนานหรือสั้น เนื่องจากคดีป่าไม้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น อาจเป็นคดีที่เสี่ยงคุกอีกคดีหนึ่ง และการไลฟ์ก็เป็นการเตือนสติในฐานะทนายความ ไม่ใช่ต้องการให้ลุงกับยูทูเบอร์แตกแยก หรือแยกพวกเขาออกจากกัน เพียงแค่สงสารลูก 2 คนของลุงพล เพราะวันที่เจ้าตัวถูกขังในคดีชมพู่ ลูกก็มีความกังวลใจเป็นห่วงพ่อ ดังนั้นเมื่อมีเวลา ก็อยากให้ใช้โอกาสนั้นให้เต็มที่

ทนายสมเกียรติ ยอมรับว่า การไลฟ์เป็นการใช้น้ำเสียงที่ดุดัน เพื่อความน่าสนใจของช่องยูทูบของตัวเอง แต่ไม่ใช่การโกรธเคืองหรือขัดแย้งกับลุงพล เพราะหลังจากการไลฟ์เสร็จสิ้นแล้ว ลุงพลก็โทรมาหาทันที ลุงพลถามว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองก็ตอบด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับอธิบายเหตุผลว่าอยากให้ลุงมีเวลากับลูก ๆ ให้เยอะขึ้นกว่านี้ การคุยกันลุงก็มีน้ำเสียงปกติ ไม่ได้โกรธหรือทะเลาะกัน ตนเองเชื่อว่าลุงจะฟังความเห็น และการเสนอแนะของตัวเองบ้าง เพราะการแนะนำ คือการตักเตือน อีกทั้งเชื่อว่ากลุ่มยูทูเบอร์บางส่วนจะมีความเข้าใจในเจตนาของตนเอง เพราะคนดูเหล่านั้นเขารักลุงพล ทุกคนก็ต้องช่วยกับปกป้องลุง เพื่อไม่ให้กระทำผิดเงื่อนไขศาล ไม่หลุดประกัน "ยาขมมันเป็นยารักษาโรคนะ แต่ถ้ากินของหวาน ๆ เมื่อไร ก็เรียบร้อย" ดังนั้นลุงพลควรฟังคำแนะนำแล้วปรับตัวเองใหม่ เพื่อสิ่งที่ดีกว่า

ทั้งนี้ การที่ตนเองออกมาพูดแบบนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร หรือมีนัยเตือนว่าลุงกำลังจะติดคุก เพราะทุกคนดีย่อมเสี่ยงติดคุกทั้งหมด ไม่ว่าจะคดีไหน ๆ และอย่ามองว่าคดีป่าไม้อ่อนกว่าคดีน้องชมพู่ ถ้าหากทนายความไม่ทำคดีให้ครบถ้วน ลุงก็มีสิทธิ์ติดคุกได้ทุกคดี ส่วนกระแสข่าว ลุงพลแอบไปพบกับทนายความที่สำนักงานกฏหมายธรรมรังษี เป็นสำนักงานกฏหมายเพื่อคนจน ตนเองไม่ทราบเลยว่าลุงไปเจอหรือปรึกษาใคร แต่การที่ลุงจะเปลี่ยน เพิ่ม ลด ทีมทนายก็เป็นสิทธิ์ของลุง เพราะทุกวันนี้ลุงพลก็มีศักดิ์เป็นนายจ้าง ตนเองคือลูกจ้าง แต่ในมุมส่วนตัว ตนเองก็เป็นเพื่อนกับเขา และสำนักงานกฎหมายธรรมรังษีก็มีทนายความที่เป็นครูอาจารย์ทางกฎหมาย เป็นที่ปรึกษาให้ตนเองเหมือนกัน

บรรยากาศที่บ้านนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ยังคงมีกลุ่มยูทูเบอร์ และชาวบ้านใช้ชีวิตกันตามปกติ วันนี้ นายไชย์พล และนางสมพร ยังคงพักผ่อนเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้าน หลังเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้

ทีมข่าวหลายสำนักที่มาเกาะติดการทำข่าวที่บ้านกกกอก ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์หลายประเด็น หลังเดินทางกลับมาจากการยื่นหนังสือ แต่ทางด้านนายไชย์พลปฏิเสธ อ้างว่ายังอ่อนเพลียจากการเดินทาง ประกอบกับปฏิบัติตามมาตราการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 หลังเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ต้องกักตัวอยู่ในบ้าน 14 วัน เพราะมีสาธารณะสุขจังหวัดมุกดาหารเดินทางมาแจ้ง ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด