จากกรณีเมื่อเวลา 18.30 น. ของวันที่ 11 มิ.ย. 64 พ.ต.ท.สุริยา ดำรงวัฒนา สว.สอบสวน สภ.คลองขนาน รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดขึ้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ จึงเดินทางไปรอรับผู้บาดเจ็บ ที่ท่าเทียบเรือคลองขนาน พร้อมตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมิราเคิลออฟไลฟ์ อบต.คลองขนาน
ทันทีที่เรือนำผู้บาดเจ็บเข้าเทียบท่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ขึ้นรถนำส่ง รพ.เหนือคลอง พบว่ามีผู้บาดเจ็บ 1 คน ได้เสียชีวิตลงแล้วระหว่างอยู่บนเรือ ทราบชื่อคือ นายวีระ ตรีสัตย์ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารที่เกิดเหตุ ถูกแทงด้วยของมีคมที่หน้าท้องด้านขวาจนไส้ทะลัก แขนขวามีบาดแผลถูกมีดบาด
ส่วนคนเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.ทองใหม่ สุดวิลัย อายุ 57 ปี เป็นภรรยาของ นายวีระ ผู้ตาย ถูกฟันด้วยมีดเข้าบริเวณท้ายทอย เป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส
ส่วนอีกรายคือ นายยอดยิ่ง สุขทอง อายุ 43 ปี ถูกแทงด้วยมีดเข้าที่หน้าท้องขวา 1 แผล และแขนซ้าย 1 แผล เจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ส่งรักษาที่ รพ.เหนือคลอง แต่น.ส.ทองใหม่ อาการสาหัส ถูกส่งต่อไปรักษาที่ รพ.กระบี่
ผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาในเรือลำเดียวกัน ทราบชื่อคือ นายธนกร เอ่งฉ้วน อายุ 42 ปี สภาพสวมเสื้อเปื้อนเลือด ถูกคุมตัวไปที่ สภ.คลองขนาน พร้อมอาวุธมีด 3 เล่ม เป็นมีดสปาต้า ยาว 50 ซม. 1 เล่ม มีดปลายแหลมยาวประมาณ 20 ซม. 1 เล่ม และมีดปลายแหลมยาว 30 ซม. อีก 1 เล่ม
น.ส.กนกพรรณ ดำรงอ่องตระกูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์สะเทือนขวัญทั้งผู้ก่อเหตุผู้ตาย และคนเจ็บเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน บ้านก็อยู่ไม่ไกลกัน ช่วงก่อนเกิดเหตุนายธนกร ผู้ก่อเหตุ มีพฤติกรรมชอบเสพยาเสพติด คาดว่าเพิ่งเสพยามาจนมีอาการหลอน เดินถือมีดยาวประมาณ 50 ซม. ไปที่ร้านอาหารของผู้ตาย และคนเจ็บ
จากนั้นเข้าไปใช้มีดฟัน น.ส.ทองใหม่ เข้าที่ท้ายทอย 1 ครั้ง ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุเห็นเหตุการณ์เข้าไปช่วยกันมัดตัว แย่งมีดควบคุมไว้ได้ ก่อนจะช่วยกันนำคนเจ็บไปส่ง รพ.สต.บ้านเกาะจำ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. มีนายวีระ สามีคนเจ็บเดินทางไปด้วย แต่ระหว่างนั้นนายยอดยิ่ง คนเจ็บอีกราย ขี่รถจักรยานยนต์มาที่เกิดเหตุ นายยอดยิ่งเป็นอริเก่ากับนายธนกร เคยมีปากเสียงกันมาก่อน นายธนกรยังอยู่ในอาการคลั่งจึงชักมีดปลายแหลมเข้าไปแทงใส่นายยอดยิ่งจนได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นนายธนกรขี่รถจไปที่ รพ.สต.บ้านเกาะจำ แล้วใช้อาวุธมีดอีกเล่มไปแทงนายวีระ สามีของ น.ส.ทองใหม่ ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกราย ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
น.ส.ทองใหม่ สุดวิลัย อายุ 57 ปี ภรรยาของ นายวีระ ผู้ตาย เล่าว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลา 16.30 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งเอนหลังอยู่ภายในบ้านหน้าโทรทัศน์ ก็ได้มีสิ่งของบางสิ่งบางอย่างฟันเข้ามาจากทางด้านหลัง บริเวณศีรษะใกล้ท้ายทอยเข้าอย่างแรง ตอนนั้นรู้สึกปวดมึนไปพักหนึ่ง มีเลือดไหลลงมาที่บ่าของตนแล้ว หันหลังไปดูพบว่าเป็นนายธนกร เอ่งฉ้วน หรือ เทพ ผู้ก่อเหตุ เป็นญาติที่รู้จักและอยู่บ้านติดกัน ขณะนั้นรู้สึกกลัวกลัวรีบตะโกนเรียกหาคนช่วยเหลือ
จากนั้นไม่นานทางสามีของตนได้รีบวิ่งมาเห็น จึงได้ดึงตัวผู้ก่อเหตุออกไปนอกบ้าน และมีการชกต่อยกัน ตนได้พยายามตะโกนบอกให้ทางสามีและผู้ก่อเหตุหยุดทะเลาะชกต่อยกัน มีชาวบ้านออกมาช่วยตะโกนเรียกให้ทางผู้ก่อเหตุหยุด แต่ก็ยังไม่หยุด จนมีเพื่อนบ้านเข้ามาล็อกตัวไว้ได้ และช่วยกันนำตัวตนไปทำแผลที่อนามัย โดยมีสามีของตนตามไปด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้ทางผู้ก่อเหตุไม่ได้มีปัญหาหรือทะเลาะอะไรกันเลย ตอนนี้ก็ยังแปลกใจเป็นอย่างมาก
ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดโภคาจูฑามาตย์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายวีระ ตรีสัตย์ อายุ 49 ปี โดยจะมีการฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 14 มิ.ย. 64
นางวรรณา แก้วเสริม อายุ 55 ปี พี่สาวผู้ตาย เผยว่า ตอนที่ทราบเรื่องรู้สึกใจหายเป็นอย่างมาก เพราะปกติตนจะอยู่อาศัยในตัวเมือง ทางน้องขายและน้องสะใภ้จะเปิดร้านขายอาหารกันที่เกาะ นานครั้งถึงได้พบเจอกัน ตอนนี้ตนเสียใจมาก ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมันรวดเร็วและกะทันหันจนเกินไป ก่อนหน้านี้ตนและน้องชายไม่ได้มีการได้พูดคุยอะไรกันเลย และไม่มีลางสังหรณ์อะไรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ ทุกอย่างปกติดี ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับพี่น้องของตน
ทีมข่าวเดินไปยังตึกศัลยกรรมชาย ชั้น 3 ของโรงพยาบาลกระบี่ นายยอดยิ่ง สุขทอง อายุ 43 ปี ผู้บาดเจ็บ มีบาดแผลบริเวณหน้าท้องด้านขวา 1 แผล ทางแพทย์แจ้งว่าแผลลึกถึง 4 ซม. และแผลที่ข้อศอก อีก 1 แผล เล่าว่า เมื่อวานนี้ขณะที่ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์เพื่อไปขายขนมอยู่นั้น ผ่านหน้าบ้านที่เกิดเหตุพบว่าทางนายวีระกับนายธนกรกำลังชกต่อยกันอยู่หน้าบ้าน ระหว่างนั้นก็มีชาวบ้าน 3-4 คน ยืนตะโกนให้แยกออกจากกัน และเรียกให้ผู้ก่อเหตุให้หยุดพฤติกรรมก่อกวน โดยที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามเลย และสังเกตเห็นว่าภรรยาของนายวีระ ก็กำลังโบกมือให้เข้าช่วยเหลือ
ตนเห็นท่าไม่ดี จึงได้รีบวิ่งเข้าไปดึงตัวผู้ก่อเหตุออกมา จังหวะนั้นทางผู้ก่อเหตุก็ได้มีการพูดขึ้นมาว่า "เมื่อ 10 ปีที่แล้ว นายวีระเคยไปเป็นชู้กับภรรยามาก่อน" ซึ่งตนเชื่อว่าขณะนั้นผู้ก่อเหตุเกิดอาการหลอนยาแน่นอน จากนั้นตนจึงพาตัวผู้ก่อเหตุ เข้าไปในบ้านของนายวีระ และบอกให้ทางชาวบ้านช่วยกันนำตัวนางทองใหม่ไปทำแผล ขณะนั้นตนได้อยู่กับทางผู้เหตุเพียง 2 คนเท่านั้นภายในบ้าน พยายามล็อกมือล็อกแขนเอาไว้ สอบถามตลอดว่าไปทำร้ายเขาทำไมกัน แต่ทางคนก่อเหตุก็ยังจะขัดขืนจะตามไปทำร้ายนายวีระต่อ มีการพูดขึ้นว่า "ปล่อยผม ผมจะตามไปฆ่ามัน" จนทางผู้ก่อเหตุได้หยิบมีดสั้นจ้วงแทงตนเข้าที่หน้าท้องด้านขวา 1 แผล และแทงบริเวณข้อศอก 1 แผล จนตนต้องปล่อยตัวผู้ก่อเหตุไปเพราะเจ็บแผล ทางผู้ก่อเหตุจึงรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านพร้อมกับมีดทั้ง 3 เล่ม และขี่รถจักรยานยนต์ส่วนตัวตามไปที่อนามัยเพื่อจะไปก่อเหตุต่อ
ซึ่งสาเหตุที่ตนกล้าเข้าไปดึงตัวผู้ก่อเหตุ เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ผู้เห็นชอบมีปัญหาในเรื่องการทำงาน เอาเปรียบเพื่อนร่วมงานด้วยงาน บางครั้งชอบขโมยของ ตนได้เรียกตัวมาพูดคุยตักเตือน มีปากเสียงกันหลายครั้ง จนผู้ก่อเหตุเกิดความเกรงใจ เกรงกลัวอยู่บ่อยครั้ง จึงกล้าเข้าไประงับเหตุ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นคู่อริกัน แต่สุดท้ายก็ไม่คิดว่าผู้ก่อเหตุจะกล้าเข้าทำร้ายตน
ด้านนางสุชาดา เอ่งฉ้วน อายุ 33 ปี น้องสาวผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเพิ่งจะได้ทราบเรื่องเมื่อวานนี้ หลังจากที่ตำรวจจับตัวพี่ชายของตนไปโรงพักแล้ว ซึ่งได้มาทราบจากเพื่อนบ้านใกล้เคียง เพราะก่อนหน้าตนกำลังหาหอยอยู่กลางทะเล ตอนที่ทราบเรื่องยอมรับว่าตกใจเป็นอย่างมาก รู้สึกโกรธแค้นพี่ชายอย่างมาก อยากสอบถามด้วยตัวเองว่าไปก่อเหตุแบบนั้นได้อย่างไร เพราะเป็นญาติพี่น้องห่าง ๆ กันที่อยู่บ้านติดกันอีกด้วย
โดยปัญหาที่มีการก่อเหตุ ตนไม่ทราบด้วยซ้ำ เพราะก่อนหน้านี้ทางพี่ชายของตนเป็นคนที่ต้องเข้ารับการรักษาอาการทางจิตมานานแล้ว บ้าคลั่งเป็นบ้าอยู่ตลอดเมื่อก่อนที่ผ่านมา จากนั้นก็ได้ช่วยกันพาไปรักษาให้ทานยาอยู่ตลอด ส่วนตัวตนก็ไม่ทราบว่าพี่ชายตนเกิดอาการคลั่งหลอนอะไรออกมา เพราะก่อนหน้านี้ยังพูดคุยกันตามปกติอยู่เลย แต่พฤติกรรมและนิสัยใจคอ เป็นคนที่ดูก้าวร้าว ทั้งคำพูดและการกระทำ ชอบหาเรื่องชาวบ้านบ่อยครั้ง
ซึ่งเรื่องมีดที่มีการนำไปก่อเหตุ ตนทราบมาว่าได้มีการสั่งซื้อมาจากแอปฯสั่งของจากลาซาด้า เมื่อได้รับของมาจากเมื่อวานนี้ ก็ไปก่อเหตุทันที อย่างไรก็ตาม ตนขอให้ทางตำรวจดำเนินการลงโทษพี่ชายตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่ต้องการให้ปล่อยตัวออกมา ขอตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีกว่า เพราะถ้าหากมีการปล่อยตัวออกมา ตนเชื่อว่าพี่ชายของตนคงย้อนกลับไปทำร้ายชาวบ้านคนอื่นอีกแน่นอน