กรมปศุสัตว์ เคาะเยียวยาเกษตรกรที่เดือดร้อนจากโรคลัมปีสกิน ชดเชยให้คนละไม่เกิน 2 ตัว

กรมปศุสัตว์ เคาะเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ ที่เดือดร้อนจากโรคลัมปีสกิน ชดเชยให้คนละไม่เกิน 2 ตัว สูงสุด 22,000 บาท พร้อมไฟเขียวให้กลุ่มเกษตรกรและภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนลัมปีสกิน

กรมปศุสัตว์ อนุมัติจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรที่เดือดร้อนจากโค-กระบือ ล้มตายด้วยโรคลัมปีสกิน โดยจะจ่ายชดเชยให้ คนละไม่เกิน 2 ตัว จ่ายเป็นเงินสดผ่านบัญชีเงินฝากของเกษตรกร โดยหลักเกณฑ์การได้รับค่าชดเชย ดังนี้

• อายุโค กระบือ น้อยกว่า 6 เดือน โค ได้รับการชดเชย 6,000 บาท/ตัว ส่วนกระบือ ได้รับการชดเชย 8,000 บาท/ตัว
• อายุโค กระบือ 6 เดือน ถึง 1 ปี โค ได้รับการชดเชย 12,000 บาท/ตัว ส่วนกระบือ ได้รับการชดเชย 14,000 บาท/ตัว
• อายุโค กระบือ มากกว่า 1- 2 ปี โค ได้รับการชดเชย 16,000 บาท/ตัว ส่วนกระบือ ได้รับการชดเชย 18,000 บาท/ตัว
• อายุโค กระบือ มากกว่า 2 ปี โค ได้รับการชดเชย 20,000 บาท ส่วนกระบือ ได้รับการชดเชย 22,000 บาท

เกษตรกรสามารถขอรับการเยียวยาได้โดย ติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ใกล้บ้าน หรือศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์

นอกจากนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์กำหนดแนวทางการสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรและภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีนเพื่อมาใช้ในการป้องกันโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ ลอตแรกจำนวน 60,000 โดส และ 300,000 โดส ที่มาถึงในสัปดาห์นี้ และที่สำคัญคือ พร้อมที่สนับสนุนกลุ่มเกษตรกร สมาคมผู้เลี้ยงโค-กระบือ ตลอดจนภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีน เพื่อนำมาใช้ฉีดป้องกันโรคและสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ โดยผู้ประสงค์นำเข้าวัคซีน ต้องทำหนังสือถึงกรมปศุสัตว์ เพื่อแจ้งความประสงค์ขอบริจาควัคซีนลัมปี สกิน โดยต้องระบุชื่อการค้าและจำนวน เพื่อให้กรมปศุสัตว์นำไปใช้สำหรับควบคุม ป้องกัน โรคลัมปี สกิน ทั้งนี้ต้องแจ้งความประสงค์ก่อนดำเนินการก่อนนำเข้าวัคซีน

หลังจากนั้น กรมปศุสัตว์จะทำหนังสือถึง อย. ขอผ่อนผันการนำเข้าวัคซีนที่มีทะเบียนในต่างประเทศ แต่ยังไม่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย โดยกรมปศุสัตว์จะมอบหมายอำนาจให้ผู้ประสงค์นำเข้าเป็นผู้ดำเนินการนำเข้าวัคซีน เมื่อได้รับการผ่อนผันจาก อย. ให้ผู้ประสงค์นำเข้า ดำเนินการสั่งวัคซีนและชำระค่าวัคซีนโดยตรงกับผู้ขายวัคซีนในต่างประเทศและดำเนินการขออนุญาตนำเข้าวัคซีนและขอหนังสือรับรองรุ่นการผลิต (Lot Release) จาก อย.ด้วย วัคซีนดังกล่าวจึงจะสามารถนำมาใช้ในการฉีดป้องกันโรคได้