หมอปลาพาพระปราบหมู่บ้านเชื่อปอบสิงคน งงวิญญาณคนเป็นถอดจิตได้ แฉขบวนการผีหวังเงิน (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งร้องเรียนไปยังหมอปลา มือปรามสัมภเวสี ว่าครอบครัวถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถทำมาหากินได้ โดยเหตุเกิดในหมู่บ้านป่ากุงหมู่ 3 ต.ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี

วันที่ 10 มิ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้าน หมู่ 3 ต.ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี นางศิรินภา คำวิชิต หรือ ปิ้ อายุ 44 ปี ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบ พาทีมข่าวเข้าไปในบ้านเพื่อให้ดูหิ้งพระบูชา มีพระพุทธรูป และพระพิฆเนศ ไม่ได้มีขันธ์หรือคุณไสยแต่อย่างใด

นางศิรินภา เปิดเผยว่า ตนถูกกล่าวหามา 4-5 ปีแล้ว เพราะมีคนไปลือกันว่าเห็นตนเดินหากบหาเขียดกินในทุ่งนาช่วงเวลากลางคืน ทั้งที่ตนไม่ได้ออกไปข้างนอกในเวลากลางคืน เมื่อ 2-3 ปีก่อน นางเพ็ญซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านได้ถูกผีเข้า และบอกว่าตนเป็นปอบ ซึ่งในตอนนั้นตนก็ไปรักษาและรดน้ำมนต์ พระก็บอกว่าตนไม่ได้เป็นปอบ แต่กุมารทองที่ตนเลี้ยงนั้นเป็นปอบ ตนจึงได้กลับบ้านและนำรูปปั้นกุมารทองไปเผาทิ้งทั้งหมด

กระทั่งเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา นางเพ็ญได้มีอาการเหมือนคนถูกผีเข้า ชัก สั่นแรงมาก ญาติของเขาจึงพาตัวไปรักษากับพระหลวงปู่ขาว ที่วัดป่าประเสริฐธรรม อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงรดน้ำมนต์และสวดไล่ผี นางเพ็ญก็พูดขึ้นมาว่า "อีปิ้ มึงพาพ่อมาทำไม" ซึ่งด้วยคำพูดนี้ที่มีชื่อของตนอยู่ด้วย ทำให้ชาวบ้านเอามาเล่ากันปากต่อปากและโจษจันกันทั้งหมู่บ้านว่าตนเป็นปอบ ชาวบ้านก็ต่างกลัวตนและไม่มีใครกล้าพูดกับตน

หลังจากที่ตนถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบก็ทำให้ใช้ชีวิตอย่างลำบาก ตนจึงอยากให้หมอปลามาพิสูจน์ว่าตนเป็นปอบจริงหรือไม่ ถ้าตนเป็นปอบจริงก็ให้ปราบปอบในร่างตนให้สิ้น แต่ตนยืนยันว่าตนไม่ได้มีวิชาอาคม ตนก็แค่คนที่ไหว้พระสวดมนต์ทั่วไป อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้หมอปลามาพิสูจน์ความจริงเรื่องจะได้จบเสียที เพราะตนถูกกล่าวหาก็แทบจะไม่สามารถยืนในสังคมได้ ไปไหนคนก็นินทาว่า "อีปอบ ๆ"

ล่าสุด หมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อมด้วยพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทอง และคณะได้เดินทางไปยังบ้านของนางศิรินภา คำวิชิต หรือ ปิ้ อายุ 44 ปี ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีปอบ หมอปลาก็ได้พูดคุยสอบถามอาการ นางศิรินภา เล่าว่า สาเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบนั้น เพราะนางเพ็ญซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านถูกผีเข้าและพูดถึงชื่อตนทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านเองคิดว่าตนเป็นปอบด้วย แต่ตนไม่ได้เป็นปอบ แถมยังมีโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE อีกด้วย ซึ่งเมื่อก่อนที่ตนถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบ ต้นก็ไปหาพระ พระก็บอกว่าตนไม่ได้เป็นปอบ แต่กุมารที่ตนเลี้ยงไว้นั้นเป็นปอบ สุดท้ายตนจึงนำกุมารไปให้พระเผาทิ้ง

ซึ่งหมอปลา ระบุว่า นางศิรินภายังไม่ตาย และคงจะไม่สามารถที่จะเข้าไปสิงใครได้ เพราะเขาแต่ป่วยเป็นโรค SLE หรือโรคพุ่มพวง

หลังจากนั้นหมอปลา พระมหาไพรวัลย์ และคณะ ได้เดินเข้าไปสำรวจภายบ้านและดูหิ้งพระของนางศิรินภา ซึ่งเมื่อเดินไปถึงจุดนั้นหมอปลายืนยันว่าไม่สามารถสัมผัสอะไรได้เลย นางศิรินภายืนยันว่าตัวเองไม่ได้เล่นคุณไสย ตนถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบมาหลายปีแล้ว เพราะมีคนไปโจษจันกันว่าเห็นตนยืนกินกบกินเขียดอยู่กลางทุ่งนาในเวลากลางคืน ทั้งที่ตนไม่ได้ออกจากบ้านเลย

พระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า อาตมาไม่เข้าใจว่าทำไมนางศิรินภาต้องไปเชื่อว่าตัวเองเป็นปอบ เพียงเพราะคำพูดคนที่ถูกผีเข้า ที่เขากล่าวหาว่าเป็นปอบ

หมอปลา กล่าวว่า แม้ว่าชาวบ้านจะเชื่อว่ามีวิญญาณปอบอยู่ 109 ตัวในหมู่บ้าน แต่ตั้งแต่ตนเข้ามาในหมู่บ้าน ยังไม่สามารถสัมผัสปอบได้เลย แต่ผีปอบสมัยนี้นั้นกินงบประมาณการสร้างเสาไฟราคาแพง

จากนั้น หมอปลา, พระมหาไพรวัลย์ เดินทางไปยังบ้านของนางเพ็ญจันทร์ จำปีหอม คนที่ถูกผีเข้า และกล่าวหานางศิรินภาว่าเป็นปอบ ซึ่งเมื่อมาถึงพบว่านางเพ็ญนั้นผูกเชือกสายสิญจน์ไว้ที่คอและมือทั้ง 2 ข้าง หมอปลาได้ทำพิธีให้นางเพ็ญ ใช้มือทั้งสองข้างจับมือขวาของหมอปลาไว้ หลังจากนั้นหมอปลาได้ใช้นิ้วโป้งมือซ้าย กดเข้าไปที่หน้าผากของนางเพ็ญอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากเสร็จพิธีนางเพ็ญบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไร หมอปลาจึงให้น้ำ 1 แก้วก่อน แต่นางเพ็ญก็ไม่รู้สึกอะไร หมอปลาได้ขอให้นางเพ็ญตัดสายสิญจน์ทั้งหมด และถ้าผีปอบเข้า หมอปลาก็จะปราบทันที ซึ่งนางเพ็ญก็ยอมให้ตัดสายสิญจน์ออก

หลังจากนั้น หมอปลาก็ได้ใช้เทียนหยดลงไปในขันเพื่อทำน้ำมนต์ และเรียกนางเพ็ญ และนางศิรินภามากินน้ำมนต์ ซึ่งหลังจากทั้งคู่กินแล้ว แต่ก็ไม่รู้สึกอะไร หมอปลาจึงให้ทั้งคู่จับมือหมอปลาเอาไว้คนละข้าง ซึ่งจับไว้เพียงครู่หนึ่ง ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ

หมอปลา เปิดเผยว่า ตนไม่อยากให้ชาวบ้านนำเรื่องผีปอบมากล่าวหากัน เพราะคนอีสานนั้นค่อนข้างที่จะอ่อนไหวกับคำว่าปอบ ทำให้คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีปอบนั้นได้รับความทุกข์

ขณะเดียวกันพระมหาไพรวัลย์ กล่าวต่อว่า อาตมาไม่เชื่อว่าพี่จะเข้า เพราะนางเพ็ญเป็นคนที่ทำบุญใส่บาตรเป็นประจำ ถ้าผีจะเข้าจริง ๆ ก็ควรจะไปเข้าคนเลว ๆ

นางเพ็ญ กล่าวต่อว่า ตนเคยถูกผีเข้ามา 3 ครั้งแล้ว ถูกเข้าสิงครั้งแรกเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ครั้งที่ 2 เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน และครั้งล่าสุดก็เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา และครั้งล่าสุดนี้ในขณะที่นางเพ็ญถูกผีเข้า ก็มีการพูดถึงชื่อของนางปิ้ ทำให้ชาวบ้านก็ล่ำลือกันว่าเขาเป็นปอบ ซึ่งตนก็ไม่ได้ตั้งใจ เพราะตอนถูกผีเข้าก็จำอะไรไม่ได้เลย

หลังจากนั้นหมอปลาก็เดินสำรวจบริเวณบ้านของนางเพ็ญก็ไม่ได้รู้สึกหรือสัมผัสได้ถึงอะไรเช่นกัน

นายบุญถม บุญลา ผู้ใหญ่บ้านป่ากุง หมู่ 3 ต.ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า อาการของนางเพ็ญนั้นมีลักษณะคล้ายกับคนผีเข้า และกล่าวถึงนางศิรินภา ซึ่งตนมองว่าอาการของนางสิรินภานั้นก็ไม่ได้เป็นภัยหรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านไม่ได้รังเกียจนางศิรินภา อาจจะมีชาวบ้านบางคนที่ติฉินนินทาว่าเขาเป็นปอบ ซึ่งเรื่องปอบนั้นมีมาหลายปีแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังเชื่อ

ด้านทนายกฤษฎา โลหิตดี กล่าวว่า สำหรับชาวบ้านที่มีการกล่าวหาเพื่อนบ้านว่าเป็นปอบ และทำความเดือดร้อน โดยกล่าวหาว่าคนที่เป็นปอบนั้นสร้างความเดือดร้อนในหมู่บ้านหวาดกลัว และทำให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความเสียหายดูหมิ่นและเกลียดชังในชื่อเสียงนั้น ก็อาจจะมีความผิดเรื่องการหมิ่นประมาทได้ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท