ตายาย ช้ำ! เพื่อนบ้านสับขาหลอก เชิดเงิน เราชนะ คู่กรณีเถียงคอเป็นเอ็น ไม่รู้เรื่อง

9 มิ.ย. 64

สองตายาย สุดช้ำ! ถูกเพื่อนบ้านสับขาหลอกเชิดเงิน เราชนะ 7 พันบาท งวดล่าสุด 2 พันบาท จ่อชวดเช่นกัน เค้นถามคู่กรณี ยันไม่รู้เรื่องลูกเดียว

วันที่ 8 มิ.ย.64 เพจฯ ศูนย์แจ้งข่าวบุรีรัมย์ รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านรุน หมู่ 5 ต.บัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนในหมู่บ้าน ถูกเพื่อนบ้านโกงเงิน โครงการเราชนะ 2 รอบ มูลค่า 9,000 บาท และอยากร้องให้ผู้รู้มาช่วยเหลือ

จากการตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 5 ต.บัวทอง ซึ่งเป็นบ้านของนายสุณีย์ ตระกูลรัมย์ อายุ 66 ปี และนางวิไล ตระกูลรัมย์ อายุ 72 ปี สองสามีภรรยา อาชีพเร่ขายอาหาร (รถพุ่มพวง) โดยทั้งสองยังมีการแค้นใจไม่หาย โดยเฉพาะนางวิไล ถึงกับเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งคนโกงเงินตัวเองไปถึง 9,000 บาท

1623206137216copy

นายสุณีย์ เล่าว่า เมื่อประมาณเดือนมกราคม ที่ผ่านมาได้มี น.ส.อรวรรณ หรือ สม พลแก้ว อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 2 ม.5 ต.บัวทอง เพื่อนบ้าน มาอาสาจะสมัครโครงการเราชนะของรัฐบาลให้ ตนซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นโครงการอะไร แต่รู้ว่าจะได้เงินสวัสดิการของรัฐบาล จำนวนเงิน 7,000 บาท

ตนก็ดีใจที่เพื่อนบ้านจะสมัครให้ จึงเอาทั้งโทรศัพท์และบัตรประชาชนให้ไป โดย น.ส.สม บอกว่าจะเอาไปสมัครที่บ้าน เพราะต้องใช้เวลา ผ่านไปประมาณ 2 วัน น.ส.สม ได้เอาบัตรประชาชนมาคืนให้ พร้อมกับแจ้งว่า "สมัครไม่ผ่าน" และยังขอบคุณที่อุตส่าเป็นธุระให้ ทั้งยังซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ใหม่พร้อมเบอร์ใหม่ให้อีก โดยน.ส.สม บอกว่าซิมการ์ดเสีย ส่วนตัวไม่ได้คิดอะไร เพราะสมัครไม่ได้คือไม่ได้

1623206021120copy

จนกระทั่งเมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีเพื่อนอีกคนมาแจ้งว่า เงินเราชนะเข้าอีกแล้ว 2,000 บาท ตนบอกไปว่าสมัครแล้วไม่ได้ จึงไม่สนใจ แต่เพื่อนบ้านคนนี้ขอตรวจสอบสิทธิให้ พบว่าได้ใช้สิทธิไปแล้ว 7,000 บาท และรอบนี้ก็มีสิทธิรับเงินอีก 2,000 บาท

นายสุณีย์ เล่าด้วยว่า ตนรู้สึกตกใจมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบกับธนาคารในตัวเมือง จนท.แจ้งว่าตนได้รับสิทธิตั้งแต่โครงการแรก 7,000 บาท และรอบสองอีก 2,000 บาท แต่ใช้เงินไปครบหมดแล้ว จึงคิดว่าคนที่เอาเงินไปใช้คือ น.ส.สม เพียงคนเดียว

1623205997690copy

จากนั้นได้กลับไปทวงถาม น.ส.สม แต่ถูกปฏิเสธว่าไม่ได้เอาเงินไปใช้ เพราะสมัครไม่ผ่าน จึงเดินทางไปแจ้งความไว้กับ ร.ต.อ.อนุเปรม ทุมนานอก รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมือง บุรีรัมย์ ต่อมาตำรวจได้เรียกตัว น.ส.สม มาสอบถาม ซึ่งยังปฏิเสธว่าไม่ได้ยักยอกเงินไป ยืนยันว่าสมัครไม่ผ่าน ตอนนี้ตนทำอะไรไม่ถูก เงินจำนวน 9,000 บาท เป็นเงินจำนวนก้อนใหญ่สำหรับคนจนหาเช้ากินค่ำ ไม่น่าจะทำการแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม น.ส.สม ยืนยันว่า ตนได้อาสาสมัครให้ลุงจริง แต่สมัครไม่ผ่าน จึงเอาหลักฐานไปคืนให้ ส่วนซิมโทรศัพท์ที่ซื้อแทนให้ เพราะซิมการ์ดเสีย สงสารลุงจึงไปซื้อเบอร์ใหม่ให้ ยืนยันไม่เคยเอาเงินลุงไปใช้

1623206182320copy

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ