ช็อก! หนุ่มนิรนามปีนผูกคอในรั้วบ้าน มือถือไขปริศนาตายประชดสาวเจอคดีติดตัวอื้อ (คลิป)

8 มิ.ย. 64

จากกรณีเมื่อเวลา 06.00 น. ของวันที่ 8 มิ.ย.64 ร.ต.ท.อิทธิยา นาคมอญ รองสารวัตรสอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งเหตุมีคนแขวนคอเสียชีวิตที่บ้านหมู่ 5 ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ จึงประสานแพทย์เวร รพ.แพร่ และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยแพร่ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

720471

พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น เจ้าของคือ นายสมาน กาติ๊บ อายุ 58 ปี ตรวจสอบที่บริเวณหลังบ้านซึ่งเป็นซอกแคบ ติดรั้วบ้านพบร่างชาย รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง อายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ 3 ส่วน สีดำ ใช้เชือกไนล่อนแขวนคอกับขื่อบ้าน นั่งคุกเข่าเสียชีวิต เบื้องต้นไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน

522644

จากนั้น พนักงานสอบสวนร่วมกับแพทย์เวรได้ร่วมชันสูตรพลิกศพ ในร่างกายไม่พบเอกสารหลักฐานว่าเป็นใครมาจากไหนพบเพียงโทรศัพท์ยี่ห้อ Sony สีดำ 1 เครื่อง ไม่สามารถโทรออกได้ และเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงได้นำศพไปไว้ที่ห้องเก็บศพ รพ.แพร่ เพื่อจะติดตามหาญาติต่อไป

728940

ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุ พบนายสมาน กาติ๊บ อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน ยังอยู่ในการที่มึนงงมีสีเครียด อย่างไรก็ตาม บ้านหลังนี้ปัจจุบันบ้านหลักนี้อยู่กัน 4 คน คือนายสมาน, ภรรยา, ลูกสาวคนโต และหลานสาว เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะนั้นเป็นช่วงเช้ามืดได้ตื่นขึ้นมาจะนึ่งข้าวเหนียว แต่พอจะตั้งไฟได้สังเกตเห็นมีรองเท้าสีขาววางอยู่ใต้เก้าอี้สีขาว จึงคิดว่าเป็นของหลานชายวางไว้เตรียมจะซัก แต่ก็ได้เดินสำรวจทั่วบ้าน และเดินวนไปหลังบ้าน พบคนมาแขวนคอตายเชือกผูกอยู่ขื่อที่ 4 เป็นเพศชายผิวดำ-แดง ส่วนเมื่อคืนนี้ตนเองนอนในบ้านไม่ได้เอะใจ แม้จะได้ยินเสียงตุบตับ เพราะทุกวันจะแมววิ่งเล่นทั่งในบ้านหลังบ้านอยู่แล้ว อีกอย่างตนทำรั้วรอบขอบชิดมาก

611023

ทั้งนี้ตนเองไม่เคยเจอ หรือเห็นชายคนนี้มาก่อน และไม่ใช่คนในหมู่บ้าน รู้แต่ว่าชายคนนี้เป็นคนกรุงเทพฯ มาเช่าโฮมสเตย์อยู่ได้ประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว ส่วนมาทำอะไร มาแบบไหนตนเองไม่ทราบ และมีผูกคอตายบ้านตนเองทำไมก็ยังรู้สึกงงมาก อย่างไรก็ตาม กู้ภัยได้นำศพชายคนนี้ไว้ที่ รพ.แพร่ เพื่อตามหาญาติ ซึ่งตนเองได้เชิญพระสงฆ์มาทำการสูตรถอนวิญญาณออกไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวบ้านจะทำบุญใหญ่อีกครั้ง ก่อนที่จะมีการรื้อโครงสร้างหลังบ้านทิ้งหมดเพื่อความสบายใจ แต่ในอนาคตก็ยังกังวลว่าจะมีเหตุการณ์อื่นตามมาสร้างความไม่สบายใจกับที่บ้านอีกหรือไม่ ตนก็ยืนยันว่าตนไม่มีศัตรูที่ไหนเลย

934284

ทั้งนี้จากข้อมูลที่ทีมข่าวทราบมาว่าผู้เสียชีวิตคือคนกรุงเทพฯ เดินทางมาเช่าแวนด้าโฮมสเตย์ อาศัยอยู่ได้ประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว ทีมข่าวจึงเดินทางไปยังโฮมสเตย์ดังกล่าว ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุแค่เพียง 400 เมตร นางขวัญใจ บ่อแก้ว อายุ 59 ปี เจ้าของแวนด้าโฮมสเตย์ เปิดเผยพร้อมเอาเอกสารบัตรประชาชนจากผู้เสียชีวิตให้ดู ทราบชื่อคือ นายธนวัฒน์ จรัสรุ่งวัฒนา อายุ 40 ปี แต่วันที่ 11 พ.ค. 64 ที่ผู้ตายมาขอเช่าบอกกับเจ้าของโฮมสเตย์ว่าชื่อเดย์

761622

นางขวัญใจ เล่าว่า ผู้ตายมาขอเช่า 1 เดือน เพื่อทำธุระซึ่งใจจริงไม่อยากรับเพราะกลัวโควิด-19 แต่ผู้ตายบอกว่าไม่ได้เดินทางไปไหน อยู่แต่คอนโดฯที่บางกะปิ ตนจึงคิดค่าเช่า 3,500 บาท แต่ผู้ตายบอกว่า "ผมไม่มีงาน ผมว่างงาน" ตนจึงสงสารลดค่าเช่าเหลือ 3,000 บาท ซึ่งผู้ตายจ่ายค่าเช่า บอกว่าจะขอกลับกรุงเทพฯไปเครียร์ของก่อน จากนั้นผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป

จากนั้นในวันที่ 14 พ.ค.64 ผู้ตายก็กลับมาพร้อมกระเป๋า 1 ใบ ช่วงระยะเวลาที่มาเช่าผู้ตายมักเดินออกไป 7-11 และบ้านที่เกิดเหตุเป็นประจำ ก่อนที่ตนเองจะพยายามสอบถามจนรู้ว่าผู้ตายอาชีพขายมือถือผ่านโซเชียล แบบประมูลกำไร 1,000-2,000 บาท และได้พบกับลูกสาวบ้านที่เกิดเหตุ และคบหากันเป็นเวลา 4 เดือน ผิดหวังถูกผู้หญิงหลอกสูญเงินเป็นล้านบาท ขายของได้เท่าไรให้ผู้หญิงคนนี้หมด และพอแอบตามมาที่ จ.แพร่ ก็พบว่าผู้หญิงอยู่กับลูกและมีสามีแล้ว ทั้งที่ผู้หญิงบอกว่าหย่ากับสามีแล้ว ผู้ตายจึงเสียใจมาก

ทั้งนี้ตนเองไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ได้ฟังเรื่องราวก็รู้สึกสงสาร ไม่กล้าผลักออกจากห้องเช่าจึงรอให้เช่าอยู่จนครบ ระหว่างนั้นก็ปลอบใจว่าอย่าคิดมาก เสียแล้วก็หาใหม่ เดี๋ยวก็ได้มาอีก ตนเองก็ทำกับข้าวให้กิน แต่มาเมื่อเช้าตนเองตื่นมาไม่พบผู้ตาย ก่อนที่ชาวบ้านจะมาบอกว่ามีคนไปผูกคอตายที่บ้านหลังหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุตำรวจบอกว่าผู้ตายมีคดีความติดตัวหลายคดี นเองไม่เคยรู้ เพราะผู้ตายเล่าให้ฟังแค่นั้น

425328458825802873820149

จากนั้น ได้เปิดโทรศัพท์มือถือผู้ตายให้ดู ก็พบภาพหญิงสาว ซึ่งเป็นลูกสาวบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนจะพบขอความแชตที่ผู้ตายทักหาหญิงสาว แต่ไม่มีการตอบกลับหลายข้อความ ในทำนองโกรธแค้น และบอกว่า "จะทำของใส่ฝ่ายหญิง ทำให้อับอาย ทำให้ตายภายใน 3-7 วัน" พร้อมบอกว่า "สัตว์นรกมีค่ามากกว่า"

651883

ขณะที่ ร.ต.ท.อิทธิยา นาคมอญ รองสารวัตรสอบสวน เปิดเผยว่า บุคคลที่ตายมีคดีความหลายคดีตั้งแต่ปี 2555 ข้อหาฉ้อโกง คดีใกล้หมดอายุความเดือนธันวาคม 2564, มีคดีโกงค่าแท็กซี่, ขโมยบัตรประชาชนแท็กซี่เอามาเช่ารถที่จังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 64 และขโมยของบุคคลถูกหลอกหลารูมเมต เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 64

ขณะนี้ไม่สามารถติดต่อญาติได้ เพราะผู้ตายเปลี่ยนชื่อหลายชื่อ เท่าที่ทราบคือ 2 ครั้งคือเดิมเมื่อปี 2539 ชื่อนายธนวัฒน์ จรัสรุ่งวัฒนา และปัจจุบันใช้ชื่อนายธนเดช จรัสรุ่งวรากรณ์ มีพ่อชื่อนายเทียนเยี้ยง เป็นคนสัญชาติจีน และแม่ชื่อนางรัตน์ เป็นคนไทย เบื้องต้นโรงพยาบาลมีแนวทางรับฝากศพไว้ได้ 3 วัน หากไม่มีญาติมาติดต่อ จะต้องตีเป็นศพไร้ญาติ และทำการเผาในทันที

950425

นอกจากนี้ พบเบอร์โทรศัพท์ที่คนตายพิมพ์ไว้ว่า "ไอเ-ี้ย" จึงติดต่อไป ปลายสายคือผู้ที่ถูกคนตายฉ้อโกงจากเพจหารูมเมตแชร์ค่าห้อง

นายนันธวัฒน์ นกขาว อายุ 23 ปี เล่าว่า ก่อนวันที่ถูกหลอก ขณะนั้นพึ่งเรียนจบใหม่ต้องการหาห้องเช่า จนพบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความหารูมเมต แชร์ค่าคอนโด ย่านบางกะปิ ตนเองจึงตัดสินใจแอดไปพูดคุย พร้อมติดตามสืบประมาณ 20 วัน ก่อนตกลงไปอยู่ที่ห้องผู้ตาย โพสต์ไว้ในวันที่ 9 พ.ค. 64 และจ่ายเงินค่ามัดจำให้ผู้ตาย 3,000 บาท โดยที่ผู้ตายมีท่าทางร้อนเงินมีพิรุธ แต่ไม่คิดอะไร จากนั้นได้ขนของไปอยู่คอนโดฯ ในวันที่ 10 พ.ค. 64 แต่ปรากฏว่าวันที่ 11 พ.ค. 64 กลับจากทำงานกล้องถ่ายรูปยี่ห้อ Canon m 100 ราคาประมาณ 8,000 บาท หายไป จึงพยายามติดต่อผู้ตาย แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจแจ้งความไว้ในวันที่ 17 พ.ค. 64

ทั้งนี้ตนเองก็ได้รับแจ้งจากนิติว่าเจ้าของห้องไม่ได้ต่อสัญญามาเป็นเดือนแล้ว ตนเองจึงตัดสินใจย้ายออกทันที ก่อนได้รับแจ้งจากตำรวจ สภ.เมืองแพร่ว่าคนก่อเหตุขโมยของตนเองและฉ้อโกง ก่อนไปผูกคอตาย ซึ่งตนก็ตกใจ และงงนิดหน่อย แต่ไม่อยากให้ชีวิตมีปัญหาอะไรอีก จึงขออโหสิกรรมให้

127142

นางสาวเอ (นามสมมติ) อดีตแฟนสาวผู้ตาย เปิดใจว่า ตนยอมรับเคยคบหากับชายที่มาก่อเหตุผูกคอตายที่บ้านจริง เริ่มพบกันทาง แอปพลิเคชันหาคู่ช่วงต้นปี 2563 จึงพูดคุยผ่านแชตเป็นเวลา 1 ปี ตอนนั้นบอกฝ่ายชายทั้งหมดว่ามีลูกแล้ว และหย่าร้างกับสามีแล้ว ต่อมาช่วงกลางปี 2563 ก็จับได้ว่าผู้ตายใช้รูปคนอื่นแอบอ้างในแอปหาคู่ ซึ่งยังพอให้อภัยได้ แต่พอนานเข้าเริ่มรู้สึกว่าผู้ตายกำลังหลอกลวง ไม่จริงใจ และตนเองพยายามขอดูบัตรประจำตัวประชาชนอยู่หลายครั้ง แต่ผู้ตายบ่ายเบี่ยงตลอด ตอนนั้นยังไม่ทันเอะใจอะไร และได้เดินทางไปกรุงเทพฯ ช่วงต้นปี 2564 เพื่อไปทำงาน

511466

จากนั้นได้เช่าคอนโดฯ ไปอยู่ที่บางกะปิ โดยที่ผู้ตายแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง แต่ตนเริ่มไม่โอเค ช่วงมีนาคม 2564 จึงพยายามหลบหลีก ไม่อยู่คอนโดบ้าง ก่อนทีจะตัดสินใจกลับบ้านจังหวัดแพร่ช่วงเดือนเมษายน จนกระทั่งมาเห็นผู้ตายมาเดินวนหน้าบ้านช่วงพฤษภาคม 2563 และงงว่าผู้ตายตามมาได้อย่างไร ก่อนจะรู้ทีหลังจากปากผู้ตายว่าได้มีการติดตามตนเองผ่านโทรศัพท์มือถือไอโฟน ทั้งนี้ ตนเองพยายามโทรไปบอกผู้ตายว่าให้เลิกมาเดินวนที่บ้าน แต่ผู้ตายกลับบอกว่าเป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่ได้เข้าบ้านซึ่ งสุดท้ายตนเองมองว่าเหมือนคุยไม่รู้เรื่องจึงเลิกติดต่อกัน ส่วนแชตตนเองก็ปิดกั้น ไม่เปิดอ่านนานแล้ว

ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่เคยหลอกผู้ตายเลย มีแต่ผู้ตายที่หลอกลวงและแอบติดตามมา ทั้งที่ไม่เคยบอกที่อยู่ และเรื่องมีลูกมีสามีนั้นตนเองบอกฝ่ายชายตั้งแต่แรก ไม่เคยโกหกผู้ตาย อย่างไรก็ตามไม่เคยคิดว่าผู้ตายจะก่อเหตุแบบนี้ มีอย่างมากก็แค่ขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย สุดท้ายมาก่อเหตุแบบนี้ ทำเอาคนในบ้านเดือดร้อนและช็อกกันหมด ตอนนี้ก็พยายามทำใจ และในจุดที่เกิดเหตุจะทำการรื้อทำใหม่ทั้งหมด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส