จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก
อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return โพสต์แชร์เรื่องสามีภรรยาคู่หนึ่ง มีพฤติกรรมลักทรัพย์มา 15 ปี และใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาตลอด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปทุมธานีได้นำหมายบุกค้นบ้านของผู้ต้องหาที่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา พบทรัพย์สินที่ขโมยมา มากว่า 100 รายการ แต่คนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ ทราบชื่อคือ นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี และนางฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐานและขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม
วันที่ 17 ส.ค. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากพบผู้เสียหายที่เคยถูกสองผัวเมียขโมยทรัพย์สิน รวมเป็นเงินมูลค่าหลายแสนบาท โดย
นางลัดดา บำรุงชน หรือ ดา อายุ 48 ปี ผู้เสียหาย เจ้าของร้านชาบู เล่าว่า วันเกิดเหตุ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. หญิงคนร้ายลงจากรถมาถามว่า "เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ใช่หรือไม่" และเดินออกจากร้านไป จากนั้นชายคนร้ายเดินเข้ามาที่ร้านพร้อมกับอุ้มสุนัขมาด้วย เข้ามาทำทีสั่งอาหารกลับบ้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งปกติที่ร้านทำเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ ไม่มีจัดชุดกลับบ้านให้ลูกค้า แต่ชายคนดังกล่าวอ้างว่าจะนำอาหารดี ๆ กลับไปให้พ่อแม่ที่บ้านกิน ตนจึงรับจัดชุดกลับบ้านให้ ขณะที่กำลังจัดชุดอาหารให้นั้น เจ้าตัวก็สั่งอาหารเพิ่มอีก มีสั่งลูกชิ้นเพิ่มอีก 300 บาท ผักเพิ่มอีก 150 บาท
จากนั้นคนร้ายก็เข้ามานั่งที่โต๊ะใกล้กับเคาน์เตอร์จ่ายเงิน ที่ลูกสาวตนวัย 6 ขวบนั่งเล่นอยู่ โดยคนร้ายก็ทำทีออกอุบายให้ลูกสาวตนเล่นกับสุนัข และปล่อยเชือกหลุดมือให้สุนัขวิ่งเข้าไปด้านหลังครัว ชายคนดังกล่าวจึงลุกออกจากโต๊ะและทำทีว่าจะไปจับสุนัข และบอกว่าจะนำสุนัขไปเก็บที่รถ จนกระทั่งไปเห็นว่ามีกระเป๋าในครัวหายไป 2 ใบ ซึ่งในกระเป๋ามีทรัพย์สินมีค่าหลายอย่าง เช่น ทองคำ เงินสด นาฬิกา โดยทรัพย์สินที่ได้ไปทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท ประกอบกับในร้านไม่มีกล้องวงจรปิด มีเพียงกล้องที่ติดตั้งของหมู่บ้านเท่านั้น แต่ภาพก็ไม่สามารถบันทึกไว้ได้ เนื่องจากผู้ต้องหาทราบว่ามีมุมกล้องอยู่ จึงใช้ร่มสีชมพูปิดบังใบหน้าทั้งก่อนและลงรถ
นางลัดดา กล่าวว่า พฤติกรรมของชายคนดังกล่าวดูเป็นปกติมาก แต่งกายดี พูดจาดี จึงไม่ได้สังเกต ประกอบกับทุกคนกำลังวุ่นกับการจัดของให้กับลูกค้า จึงไม่มีใครสังเกตเช่นกัน เบื้องต้นลูกสาวจำหน้าชายคนดังกล่าวได้อย่างแม่นยำ หลังยืนยันว่าเป็นคนเดียวกับคนที่ตำรวจตามจับอยู่ และวันที่เดินทางไปที่สถานีตำรวจ ก็พบของกลางเป็นกระเป๋าของตนรวมอยู่ในนั้นด้วย
ด้าน
น.ส.ภิญญาดา ผึ่งสะอาด หรือ จอย อายุ 39 ปี เจ้าของร้านกาแฟ เล่าว่า เหตุเกิดในวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. มีผู้ชายแต่งตัวดี พูดจาดี เข้ามาทำทีสั่งเครื่องดื่มภายในร้าน จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก ก่อนกลับมาขอสั่งอาหารเพิ่ม ซึ่งเป็นการสั่งอาหารใส่กล่องพิเศษชุดใหญ่ มีสเต๊กและสปาเก็ตตี้ ตนจึงเข้าไปทำอาหารในครัว จากนั้นมองเห็นว่าชายคนดังกล่าวออกไปที่รถ แล้วจูงสุนัขเข้ามาเดินเล่นภายในร้าน และเข้าไปถึงเคาน์เตอร์ ซึ่งขณะนั้นในร้านมีลูกน้องตน 1 คน และลูกค้าอีก 1 คน ทั้งนี้ พฤติกรรมของชายคนดังกล่าว ตนตั้งข้อสงสัยว่าเหมาะสมหรือไม่ ส่วนพฤติกรรมอื่นก็ไม่มีอะไรน่าสงสัย แต่สุดท้ายชายคนดังกล่าวก็ขอพาสุนัขออกไปเดินด้านนอกอ้างว่าพาไปขับถ่าย โดยที่อาหารที่สั่งไว้ ก็ไม่ได้รับไป
จนกระทั่งตนกลับไปที่เคาน์เตอร์ เพื่อเตรียมเงินสำหรับทอนเงินให้ลูกค้า แต่พบว่ากระเป๋าเงินหายไป ซึ่งมีเงินประมาณ 7,000-8,000 บาท และยังมีทรัพย์สินอื่นภายในกระเป๋า รวมทั้งของมีค่าอื่น ๆ ก็ถูกหยิบออกไปเช่นเดียวกัน ขณะนั้นตนรีบจึงวิ่งออกไปดูด้านนอก ก็พบว่าชายคนดังกล่าวหายไปแล้ว