สืบเนื่องจากกรณีที่นายพุทธะ เทพสุริยะจักรวาล อายุ 38 ปี หรือ หลวงปู่พุทธเทพสุริยะจักรวาล ชาวบ้านเรียกว่า "องค์ดำ" ที่ตกเป็นข่าวเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วไปโผล่ที่ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 64 สุดท้ายมีชาวบ้านไปเจอ จนเจ้าตัวต้องย้ายออกจากอาศรมแห่งใหม่ใน จ.สุรินทร์ โดยไม่มีใครทราบว่าเดินทางไปไหน ซึ่งก่อนหน้านี้ระบุว่าจะเข้าป่าไปสวดมนต์จนตาย จะไม่ยอมออกจากป่าอีกแน่นอน
ล่าสุดวันที่ 4 มิ.ย. 64 มีรายงานว่า หลวงปู่องค์ดำ หรือ นายพุทธะ เทพสุริยะจักรวาล เดินทางมากลับมาอาศัยอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมหินเพิง บ้านเขาย้อยพัฒนา ม.16 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ โดยได้นั่งปฏิบัติธรรมจุดเดิม
หลวงปู่พุทธเทพสุริยะจักรวาล เปิดใจว่า หลังจากที่ออกจากป่ามาที่อาศรมที่เดิมนี้ เพื่อปฏิบัติธรรมต่อ และหลังจากนี้ก็จะไม่ได้หนีหายไปไหนอีกแล้ว เพราะตนเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และบริสุทธิ์ใจเพราะการแต่งกายดำนั้นก็ไม่ได้เลียนแบบพระแต่อย่างใด พร้อมให้ตรวจสอบได้
พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักคิดนักเขียน วัดสร้อยทอง เปิดเผยว่า จากกรณีที่ทางนายพุทธะ เทพสุริยะจักรวาล เดินทางกลับมายังอาศรมเก่าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ตามเดิมนั้นส่วนตัวมองว่าการที่ทางนายสุริยะจะเดินทางกลับไปยังที่พักเก่า ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากสถานที่แห่งนั้นยินยอมอนุญาต แต่ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าชาวบ้านเองบางส่วนอาจจะตาสว่าง หรือเห็นในหลักข้อเท็จจริงแล้ว ดูได้จากกรณีที่เขาเองไปสร้างสำนักปฎิบัติธรรมในพื้นที่ จ.สุรินทร์ แต่กลับไม่ได้การต้อนรับจากชาวบ้านในละแวกนั้น หวั่นจะเกิดปัญหาภายหลัง ทำให้เขาต้องกลับมาที่เดิมอีกครั้ง
ทั้งนี้ มองการกลับมาครั้งนี้อาจจะไม่เหมือนเดิมแล้ว คงไม่มีพระสงฆ์ไปนั่งกราบไหว้เขาอีกต่อไป ส่วนที่มีประชาชนบางส่วนยังให้ความสำคัญหรือกราบไหว้เขาเหมือนเดิมนั้น ส่วนตัวมองว่าเราเองก็ต้องให้พื้นที่เขา หากใครฝืนที่จะเชื่อ เราเองก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะความศรัทธาหรือการนับถือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคน รอแค่ให้มีเหตุการณ์หรือบทเรียนออกมาอีกรอบ ในลักษณะต้มตุ๋น หลอกลวง แอบอ้าง เราเองก็สามารถเดินหน้าเอาเรื่องหรือตรวจสอบได้
"ส่วนตัวเรื่องความศรัทธาตนไม่มีปัญหา ขอแค่อย่าแอบอ้างนุ่งดำห่มดำแล้วแอบอ้างว่าเป็นพระเหมือนตอนแรก ตนยอมไม่ได้ การกระทำจะเป็นตัวพิสูจน์ เชื่อหากเขาอ้างว่าเขาไม่เคยทำผิด ก็ให้ทุกคนย้อนไปดูข่าวเก่าตามที่สื่อได้นำเสนอไป พร้อมขอฝากเตือนประชาชนชาวพุทธทุกคนว่าก่อนที่เราจะปักใจหลงเชื่อใคร ควรใช้สติปัญญาสักนิด ข่าวที่นำเสนอออกมาก็ให้เห็นแล้ว" พระมหาไพรวัลย์ กล่าว
เมื่อถามว่าส่วนตัวพระอาจารย์เองจะมีการเดินหน้าตรวจสอบอีกครั้งไหม หรือจะมีการยื่นเรื่องไปยังสำนักพระพุทธศาสนาหรือไม่นั้น ในส่วนนี้เชื่อว่าในอนาคตหากเขายังทำพฤติกรรมแบบเดิม แล้วก่อให้เกิดความเสียหายแก่ใครคนใดคนหนึ่ง ก็คงจะมีการตรวจสอบแน่นอน แต่ตอนนี้ตนเองไม่ขอไปเกี่ยวยุ่ง ไม่ขอเดินทางไปตรวจสอบหรือพบเจออีก รวมไปถึงไม่ขอยื่นเรื่องไปยังสำนักพระพุทธศาสนา รอให้เกิดความเสียหายหรือมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายแอบอ้างหรือหลอกลวง หรือทำตัวเป็นอีแอบ เอาพระพุทธศาสนามาแอบอ้าง ถ้าเป็นแบบนั้นตนก็พร้อมจะลงไปลุยอีกครั้ง
นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา กล่าวว่า ตนอยากจะฝากท่านว่าถ้าบริสุทธิ์ใจจริง ทำไมต้องหนีจาก จ.บุรีรัมย์ ไป จ.สุรินทร์ แล้วกลับมา จ.บุรีรัมย์อีกครั้ง จะหนีเจ้าหน้าที่หนีสื่อทำไม ทำไม่ต้องแอบ แสดงว่าท่านไม่บริสุทธิ์ใจ เพราะถ้าบริสุทธิ์ใจจริงต้องยอมให้ไปพิสูจน์ความถูกต้อง สิ่งที่ท่านทำนั้นเป็นการมอมเมาประชาชนหรือไม่ ท่านก็พูดได้ "แต่ถ้าท่านบอกว่าไม่หนีแล้ว ผมจะไปหาท่านอีกเพื่อพิสูจน์คุยความจริง ท่านก็อย่าหนีผมนะ"
