มิจฉาชีพสุดแสบ ทำทีเข้ามาเปลี่ยนยางรถแต่ไม่จ่ายเงิน ขับหนีหน้าตาเฉย

4 มิ.ย. 64

มิจฉาชีพสุดแสบทำทีเข้ามาเปลี่ยนยางรถแต่ไม่จ่ายเงิน ขับรถหลบหนีหน้าตาเฉย ทักแชตไปหาในเฟซบุ๊กก็ปิดไป เจ้าของร้านมั่นใจไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วานนี้ (3 มิ.ย.) กล้องวงจรปิดจับภาพชายมิจฉาชีพหน้าตาดี อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อยืดสีดำแขนสั้น สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นขับรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน นาวารา สีแดง เข้ามาภายในศูนย์อัพเกรดช่วงล่าง NK4คูณ4 ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชียขาเข้า กทม. ตำบลคุ้งลาน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

1622768427700

จากนั้นพนักงานของร้านได้เข้าไปต้อนรับและพาเดินเข้าไปในร้านเพื่อเลือกยางจำนวน 2 เส้น ซึ่งใช้เวลาเลือกอยู่ประมาณ 10 นาที จากนั้นพนักงานได้นำยางอะไหล่ที่ลูกค้าเลือกไปเปลี่ยนใส่ล้อหลังให้กับลูกค้า กระทั่งเปลี่ยนยางเสร็จพนักงานก็นำยางเก่าของลูกค้ายกใส่ท้ายรถยนต์กระบะของมิจฉาชีพ จากนั้นมิจฉาชีพก็ขึ้นรถกระบะขับรถหลบหนีออกไปอย่างหน้าตาเฉย

1622768465743

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับเฮียกุ่ยเจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า มิจฉาชีพคนดังกล่าวได้อินบ็อกซ์เข้ามาที่เพจร้านมาสอบถามราคายางและขนาดของยาง ตนเองก็ไม่ได้คิดหรือเอะใจอะไรจึงบอกว่าให้เข้ามาดูที่ร้านเลย จากนั้นคนร้ายก็เดินทางเข้ามาที่ร้านช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. พนักงานก็พาเข้าไปเลือกยางในร้านราคา 3,000 บาท จากนั้นก็ทำการเปลี่ยนยางให้ ซึ่งขณะนั้นตนเองก็ยืนคุมพนักงานในร้านทำงานเมื่อพนักงานในร้านเปลี่ยนยางให้มิจฉาชีพคนดังกล่าวเสร็จก็ขับรถออกไปเลย ตนเองจึงถามลูกน้องว่าลูกค้าคนดังกล่าวได้จ่ายเงินหรือยัง ปรากฏว่าลูกน้องบอกว่าไม่ได้จ่ายซึ่งตนเองก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อว่าลูกค้าคนดังกล่าวจะเชิดเงิน

1622768398800

แต่เมื่อเข้าไปสอบถามในอินบ็อกซ์ว่าลูกค้าจ่ายเงินค่าซื้อยางเปอร์เซ็นต์หรือยัง แต่พบว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวได้ถูกปิดลงจึงมั่นใจว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรดังกล่าวมาลงในเฟซบุ๊กเพื่อเป็นการเตือนภัยไม่ให้บุคคลดังกล่าวไปก่อเหตุในลักษณะแบบนี้กับที่ร้านอื่นอีก ตนเองเชื่อบุคคลดังกล่าวไม่ได้ทำที่ร้านตนเองเป็นร้านแรกเนื่องจากลักษณะการแต่งกายเป็นคนบุคลิกหน้าตาดีและรถที่ใช้ก็เป็นรุ่นใหม่ ตนเองเชื่อว่ามิจฉาชีพคนดังกล่าวมีพฤติกรรมที่น่าจะชอบไปหลอกลวงตามร้านค้าในจำนวนยอดเงินไม่มากเพื่อที่ผู้เสียหายจะได้ไม่ต้องติดใจและไปแจ้งความ และก็จะก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองจึงนำมาลงเพื่อเป็นการเตือนภัยว่าบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลอันตรายและเป็นมิจฉาชีพ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ