เปิดเบื้องหลังลุงพล end game พยานนับสิบมัดตัวชี้อารมณ์ 2 ขั้ว พิรุธรู้ชมพู่อดก่อนตาย (คลิป)

2 มิ.ย. 64

กรณีนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล อายุ 44 ปี ถูกออกหมายจับ 3 ข้อหา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องชมพู่ วัย 3 ขวบ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ก่อนถูกพบเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุดวันที่ 2 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เวลา 11.30 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร ได้แถลงการณ์สรุปงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกล่าวถึงคดีน้องชมพู่ เนื่องจากทนายตั้ม ได้พาลุงพล เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ปทุมวัน

227579

พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า ถ้าไม่มีพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่จะออกหมายไม่ได้ โดยตอนนี้มีพยานหลักฐาน และตั้งข้อหาทั้งหมด 3 ข้อหา ซึ่งศาลจังหวัดมุกดาหารได้ออกหมายจับ เลขที่ จ53/3064 ของวันที่ 1 มิ.ย.64 โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เจอกับผู้ต้องหา แล้วเมื่อเจอก็ต้องทำการจับตามกฎหมาย และหลังจากนี้จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.กกตูม ที่เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อสอบปากคำต่อไป

โดยเจ้าหน้าที่มีสิทธิในการควบคุมตัวไว้ 48 ชั่วโมง ส่วนเรื่องการประกันตัวอยู่ที่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวน เพราะเจ้าหน้าที่ทำตามพยานหลักฐาน ไม่ได้ทำตามใจใคร วันนี้มีการออกหมายจับแล้ว 1 คน ถ้ามีมากกว่านี้ก็จะรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำงานตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องสอบปากคำเพื่อดูพฤติการณ์ประกอบกับพยานหลักฐานอีกครั้ง ส่วนเรื่องอัตราโทษยังไม่สามารถตอบได้

681102

สำหรับคดีน้องชมพู่ ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 เด็กได้หายตัวออกจากบ้าน ก่อนไปพบศพบนเขาภูเหล็กไฟในวันที่ 14 พ.ค.63 หลังจากนั้นตำรวจใช้สอบสวนรวม 387 วัน กระทั่งวันที่ 1 มิ.ย.64 ได้ขออำนาจศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับนายไชย์พล วิภา  

289326352926

ส่วนวัตถุพยานในคดีดังกล่าว รวมแล้วประมาณ 113 ชิ้น โดยเจ้าหน้าที่ ระบุว่า มีแหล่งที่มาต่างกัน ได้แก่ เก็บจากจุดเกิดเหตุ เก็บจากเส้นทางที่คาดว่าใช้ก่อเหตุ และเก็บจากจุดพบศพ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังใช้ความพยายามสืบหาวัตถุพยานจากกลุ่มบุคคลต้องสงสัย และสามารถเก็บได้มากถึง 116 ตัวอย่าง 

970738

ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่ ช่วงเวลาการเสียชีวิตของน้องชมพู่ อยู่ระหว่างวันที่ 12 พ.ค.63 เวลา 14.00 น. ถึงวันที่ 13 พ.ค.63 เวลา 14.30 น.  

นอกจากนี้ พฤติกรรมของคนร้ายที่ตำรวจวิเคราะห์ออกมา มีดังต่อไปนี้ 

175372

1.คนร้ายพาเหยื่อไปทิ้งที่ไกล ๆ เพื่ออำพรางคดีให้ความผิดพ้นตัว 

488041

2.ช่วงเวลาเกิดเหตุพี่สาวชมพู่ อยู่ห่างจากน้องสาว 10 เมตร แต่กลับไม่ได้ยินเสียงร้อง ทั้งที่เด็กเป็นคนหวงตัว 

727109

3.จุดพบศพบนภูเหล็กไฟ พบรถแบ็กโฮของเล่น และรองเท้าตกอยู่ เชื่อว่าน้องชมพู่เต็มใจเดินไปกับคนร้าย มิเช่นนั้นของเล่น และรองเท้าจะไม่ติดตัวน้องชมพู่ไปถึงจุดพบศพ  

990810

หากย้อนกลับไปช่วงปี 63 นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ เคยให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตนและสามี ไปพูดคุย ปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับคดีเพิ่มเติม ถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้าย ตนจะไม่ปิดกั้นความรู้สึกอีกแล้ว ตนขอตอบตรง ๆ เลยว่าตนก็สงสัยลุงพลเหมือนกัน เรื่องนี้ตนเก็บมานานแล้ว ตนเก็บความรู้สึกมาตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.63 เพราะหลังจากเผาศพน้องชมพู่ที่ป่าช้าท้ายหมู่บ้าน ลุงพลก็ไม่เคยมาเหยียบที่บ้านตนอีกเลย ไม่ใช่เพราะที่ตนให้ข่าวว่ารู้สึกเคืองลุงพล เพราะเขาชอบไปหาพวกร่างทรง หรือหมอธรรม ตนสังเกตว่าตั้งแต่ออกจากป่าช้า วันที่เผาน้องชมพู่แล้ว ลงพลไม่เคยมาที่บ้านตนเองเลย จะเห็นมีครั้งหนึ่งที่มาก็วันที่หมอปลามาทำพิธีที่บ้านตนวันนั้น แต่วันนั้นตนก็ไม่ได้อยู่บ้าน จึงไม่ได้พูดคุยกัน

โดยตนไม่ได้รู้สึกลำบากใจที่จะให้สัมภาษณ์ว่า ตนสงสัยลุงพล เพราะตนก็ทำใจนานแล้ว แต่ตนก็แค่ยังไม่มีหลักฐานจะเอาผิด ที่ลุงพลอ้างว่าไม่อยากมาที่บ้านตน เพราะแขกมาเยอะ ตนก็อยากให้ย้อนมองดูน้อง ๆ คนอื่น ๆ ด้วย ก็ยังไปมาหาที่บ้านได้ และมาแทบทุกวันด้วยซ้ำ นางสมควร แม่ของตนมีลูกอยู่ 5 คน ก็มีแค่ลุงพลกับป้าแต๋นที่ไม่กล้ามาที่บ้านของตน

964416845419312829

ทีมข่าวย้อนคำพูดของลุงพล ในวันที่ 14 พ.ค.63 ซึ่งเป็นวันที่เจ้าตัวไปพบศพน้องชมพู่บนเขาภูเหล็กไฟ โดยมีช่วงหนึ่งขณะที่ลุงพลกำลังร้องไห้ แต่ไม่พบว่ามีน้ำตาไห้ ลุงพลได้ตะโกนว่า "คาดว่าเขาอาจจะหมดอาหารที่จะให้กินแล้ว , "ให้เจ้าหน้าที่วอแจ้งเลยครับ ทางดงหลวงให้ดักมันเลยครับ" และ "ต้องมีคนพามาครับ มันมีคนหายจากหมู่บ้านคนหนึ่ง แต่เขายังไม่วินิจฉัยว่าใช่หรือเปล่า เป็นชายอายุ 30 กว่าครับ"

cg_1

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ปี 62 สำนักงานพัฒนาชุมชน อ.ดงหลวง ได้จัดสรรงบประมาณ เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 1 หมื่นบาท เพื่อให้ชาวบ้านเลี้ยงด้วงเป็นอาชีพเสริม จึงมีชาวบ้านไปสอบถามครอบครัวฝั่งน้องชมพู่ ซึ่งเป็นเกษตรกรที่เลี้ยงด้วง ลุงพลซึ่งเป็นคนที่ได้อบรมในโครงการ มองว่าข้ามหน้าข้ามตาและไม่พอใจ จึงได้คว้ำโต๊ะที่ตั้งอยู่ใส่น้าแต ต่อหน้าทุก ๆ คน 

714876

เมื่อสรุปพฤติกรรมของลุงพล ในปี 62 ทุ่มโต๊ะใส่น้าแต เนื่องจากขัดแย้งเรื่องการทำธุรกิจเลี้ยงด้วง ต่อมาวันที่ 19 ม.ค.64 ลุงพลได้ทำร้ายนักข่าว หลังจากที่ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี นำเสนอข้อพิรุธลุงพล กระทั่งวันที่ 31 พ.ค.64 มีคลิปเสียงปริศนาคล้ายเสียงลุงพล ด่าหยาบตำหนิสื่อมวลชน ด่านายอัจฉริยะ และด่าหมอปลา

ลุงพล อัดคลิปจากในบ้าน เผยถึง หมายจับคดีน้องชมพู่ ก่อน ตร.บุกรวบเมื่อเช้า แต่เจ้าตัว หนี? 

ป้าแต๋น ตัดพ้อมรสุมข่าว นิยามตัวเองเป็น "คนดีสีเทา" ก่อนตกดึกช็อกหมายจับ ลุงพล 

ผบ.ตร.เผยดึงผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์-ไสยศาสตร์ คลี่คลาย คดีน้องชมพู่ 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส