รู้ทัน! “อัจฉริยะ” ฉะหนุ่มกุเรื่องถูกแอบถ่ายในม่านรูด - กูรู แนะวิธีระวัง จับพิรุธซ่อนกล้อง (คลิป)

จากกรณีนายณรงค์ฤทธิ์ หรือ เอ (นามสมมติ) เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าถูกรีสอร์ต ใน จ.เพชรบูรณ์ แอบถ่ายคลิปของตัวเองกับแฟนสาวขณะมีเพศสัมพันธ์ในห้องพัก โดยพบว่ามีคลิปของตัวเองอยู่ในกลุ่มทวิตเตอร์ขายคลิปโป๊ (อ่าน : หนุ่มธนาคารงัดคลิปส่งเป็นหลักฐาน – เจ้าของรีสอร์ตโต้กลับ ไม่มีกล้องแอบถ่ายในห้องพัก)

ล่าสุด วันที่ 14 ส.ค. 61 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ มอบหมายชุดสืบสวนตรวจสถานที่เกิดเหตุ หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นทีใกล้เคียง และรวบรวมหลักฐานจากผู้เสียหาย และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลจากการสืบสวนนายณรงค์ฤทธิ์ เกือบ 7 ชั่วโมง เจ้าตัวยอมรับสารภาพว่า เรื่องทั้งหมดที่แจ้งความร้องทุกข์ไปนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งเป็นการกุเรื่องขึ้นมาเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายณรงค์ฤทธิ์ พร้อมแจ้งข้อหา แจ้งความเท็จ และขู่กรรโชกทรัพย์เจ้าของโรงแรม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า การที่พนักงานธนาคารได้มาร้องเรียนกับทางชมรม อาจเป็นเพราะตั้งใจจะมายืมมือตนในการไปกรรโชกทรัพย์เจ้าของโรงแรม แต่ไม่เป็นไปตามนั้น เนื่องจากชมรมมีการตรวจสอบข้อมูลของชายรายนี้ตั้งแต่วันแรกที่ยื่นเรื่องร้องเรียน ที่อ้างว่าไม่มีความรู้ในเรื่องทวิตเตอร์และถูกแอบถ่ายคลิป แต่ตนคิดว่าชื่อผู้ใช้งานดังกล่าวเป็นของพนักงานธนาคารเอง โดยตนจับโกหกได้ เนื่องจากหลักฐานการโอนเงิน เพื่อล่อซื้อคลิปโป๊ดังกล่าว ที่มีข้อมูลไม่ตรงกัน ตนจึงนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับ ปคม. ด้วย นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คลิปเสียงที่ชายรายนี้ส่งมาให้ตรวจสอบ โดยอ้างว่าเป็นเสียงของตัวเองกับแฟนสาว ก็ไม่เป็นความจริง โดย ปคม. ตรวจสอบพบว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของผู้หญิงด้วยกัน ส่วนตัวเชื่อว่าชายคนนี้เป็นผู้ถ่ายคลิปตัวเอง เนื่องจากภาพวิดีโอที่ให้ดู เป็นภาพที่ค่อนข้างสั่นไหว ที่มีลักษณะขึ้นลง เป็นการสังเกตได้ว่าใช้กล้องโทรศัพท์ถ่าย เพราะหากผู้เสียหายถูกแอบถ่ายจริง มุมภาพจะต้องมีการตั้งกล้องทิ้งไว้แล้วภาพก็จะค่อนข้างนิ่ง ซึ่งถือว่าผิดปกติ และภาพที่นำมาส่งให้เจ้าหน้าที่ ก็ไม่ตรงกับสถานที่ที่ถูกกล่าวอ้าง และไม่ตรงกับภาพในโรงแรม อีกทั้งภาพที่ปรากฏ ที่พนักงานธนาคารอ้างว่าเป็นแฟน มีรอยสักในภาพ ซึ่งตนอยากทราบว่าแฟนของเจ้าตัวมีรอยสักหรือไม่

ด้าน นายเมธาวี เผ่าเมธวารีธร กรรมการผู้จัดการ บ.โฟลบริด คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จำหน่ายกล้องวงจรปิด เปิดเผยว่า ปกติกล้องวงจรปิดมาตรฐานจะมี 2 แบบ คือกล้องวงจรปิดแบบทรงโดม และทรงกระบอก โดยส่วนใหญ่ภายนอกอาคารมักจะติดทรงกระบอก เพราะป้องกันฝนได้ ส่วนในอาคารหรือในห้อง มักติดทรงโดม เพราะมีขนาดเล็กกว่า นอกจากนี้ ก็จะมีกล้องแอบถ่าย ซึ่งมีเพียงเลนส์ด้านหน้า ไม่ต้องเดินสายไฟ สามารถวางไว้ได้ทุกที่ แต่จะถ่ายได้เฉพาะตอนที่มีแสงสว่างเท่านั้น ส่วนการติดกล้องวงจรปิดแบบโดมภายในห้องนั้น หากเป็นโรงแรมที่ก่อสร้างเอง ก็สามารถซ่อนกล้องบริเวณฝ้าหลังคาได้ ซึ่งก็จะเปิดเฉพาะด้านหน้าเลนส์ ทำให้สังเกตยากในช่วงกลางวัน แต่ช่วงกลางคืนที่ปิดไฟ ก็จะสามารถมองเห็นเป็นจุดสีแดง ซึ่งเป็นสัญญาณของอินฟาเรดได้ กล้องลักษณะดังกล่าวจึงสังเกตได้ง่าย ซึ่งภาพที่ออกมาจะคมชัด แต่เป็นสีขาวดำ หากปิดสัญญาณอินฟาเรด กล้องจะจับภาพตอนกลางคืนไม่ได้ ส่วนระยะหวังผลของกล้องวงจรปิด อยู่ที่ประมาณ 10 เมตร มักจะติดบริเวณมุมห้อง โดยจะไม่นิยมติดไว้ที่ต่ำกว่าตัวคน เพราะมุมกล้องจะจับภาพได้แคบ