กรณีพนักงานสอบสวน สภ.เสวียด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต อยู่ริมถนนสายบ้านควนรา-วิภาวดี ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายประเสริฐ ชูทรัพย์ อายุ 60 ปี สภาพนอนหงาย อยู่ริมถนน แต่งกายด้วยเสื้อยืดคอปกสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสามส่วน สีเทา คาดเข็มขัดหนังสีดำ ไม่สวมรองเท้า สูงประมาณ 160 ซม. ผิวขาว ลักษณะผมบางหน้าผากเถิก ที่ใบหน้ามีแผลฉกรรจ์ และศีรษะแตก เลือดไหลนองพื้น
ล่าสุดวันที่ 30 พ.ค.64 เวลา 12.00 น. ที่สำนักสงฆ์หนองบัวเจริญธรรม อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี มีการประกอบพิธีฌาปนกิจนายประเสริฐ ชูทรัพย์ โดยมีญาติและอดีตภรรยา 3 คน รวมทั้งลูกต่างภรรยา 5 คนเข้าร่วมพิธี
โดยช่วงแรกมีการเทศนาธรรม ก่อนเชิญลูกต่างภรรยา 5 คน ประกอบด้วย น.ส.กรรวี ชูทรัพย์ อายุ 38 ปี ลูกจากภรรยาคนแรก, นางเกศิริ จันทร์พฤกษ์ อายุ 34 ปี ลูกสาวจากภรรยาคนที่ 6, น.ส.จันทร์จิรา ชูทรัพย์ อายุ 26 ปี ลูกจากภรรยาคนที่ 9, นางธันยพร สังข์คร อายุ 36 ปี ไม่แน่ชัดว่าเกิดจากภรรยาคนใด และน.ส.อร (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ไม่แน่ชัดเช่นกัน
ก่อนจะเชิญอดีตภรรยา 3 คน ประกอบด้วยภรรยาคนที่ 1 ภรรยาคนที่ 6 และภรรยาคนที่ 9 ทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล แล้วจึงให้ลูก ๆ จุดธูปขออโหสิกรรม จากนั้นแขกที่มาร่วมงานร่วมวางดอกไม้จันทน์หน้าโลงศพ เวลา 14.00 น. ญาติยกโลงศพขึ้นเมรุ แล้วจึงเปิดโลงให้ลูก ๆ ดูหน้าผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งนางธันยพร หนึ่งในลูกสาวที่มาเจอหน้าพ่อครั้งแรกในงานศพร้องไห้อย่างหนัก จนญาติต้องนำตัวไปพักด้านในศาลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ล้างหน้าศพด้วยน้ำมะพร้าว ก่อนนำศพเข้าเมรุเพื่อฌาปนกิจ
นางธันยพร สังข์คร กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนได้เห็นหน้าพ่อครั้งแรกวันนี้ตอนที่เปิดโลง รู้สึกดีใจที่อย่างน้อยก็ได้มาเจอพ่อ แต่เสียใจที่มาเจอในสภาพที่พ่อเสียชีวิตแล้ว โดยตนไม่เคยโกรธพ่อเลยที่ไม่ไปหาและไม่ได้เลี้ยงดู กลับรู้สึกรักพ่อมาก อยากบอกพ่อว่าวันนี้มาส่งพ่อแล้ว ขอให้พ่อไปสู่สุขติ
นางบุญทิพย์ พรมสุรินทร์ อายุ 55 ปี ภรรยาคนแรกของผู้ตาย กล่าวว่า ตนคบหากับนายประเสริฐ ตั้งแต่อายุ 18 ปี จากนั้นตั้งท้องตอนอายุ 19 ปี ช่วงท้องแก่ใกล้คลอด จู่ ๆ นายประเสริฐ ก็หายออกจากบ้านไป ทราบจากญาติว่านายประเสริฐ ไปมีภรรยาคนใหม่ ตนจึงไม่ได้สนใจหรือออกตามหา จนคลอดลูกออกมาช่วงเดือนแรก นายประเสริฐกลับมาเยี่ยมลูก แล้วก็หายไปอีก จนลูกเริ่มโตก็กลับมาหาลูกอีก
ส่วนตนมีสามีใหม่ และมีลูกอีก 2 คน ภายหลังแยกทางกับสามีใหม่ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมานายประเสริฐ จะขอกลับมาคืนดี แต่ตนปฏิเสธเพราะเข็ดกับความรัก ขอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็พอ ซึ่งที่ผ่านมาตนกับนายประเสริฐ ไม่เคยโกรธกัน เพราะไม่ได้ทะเลาะ และอีกฝ่ายไม่เคยทำร้ายทุบตี จึงไม่จำเป็นต้องอโหสิกรรมต่อกัน แต่ยอมรับว่านายประเสริฐ เป็นคนแปลกที่ ส่วนใหญ่หากคบกับใครแล้วท้อง เจ้าตัวจะทิ้งไปหาคนใหม่ ซึ่งตนก็ไม่รู้เหตุผล
ทั้งนี้ตนเสียใจที่นายประเสริฐถูกฆาตกรรม และรู้สึกสงสารมากที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนตัวมองว่าอาจจะเป็นเรื่องชู้สาว ที่นายประเสริฐ อาจจะกลับไปขอคืนดีกับภรรยาคนอื่น แล้วโดนสามีใหม่ทำร้ายหรือไม่ เพราะปกตินายประเสริฐ ก็ไม่น่าจะมีเรื่องกับคนอื่นแบบรุนแรง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.อร (นามสมมติ) อายุ 34 ปี หนึ่งในลูกสาวนายประเสริฐ ซึ่งมาร่วมงานฌาปนกิจ กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าเป็นลูกที่เกิดจากภรรยาคนที่เท่าไร เพราะตั้งแต่ตนเกิดมาตนไม่เคยเจอหน้าพ่อ แม่ก็ไม่เคยเล่าหรือพูดถึงพ่อ กระทั่งเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา พ่อพยายามตามหาตนจนได้พบกัน ซึ่งตอนที่พ่อเจอตนครั้งแรกก็เอาแต่ร้องไห้ และบอกว่าขอโทษที่ไม่ได้ดูแล ตนก็ดีใจปนตกใจ เพราะไม่เคยเจอพ่อมาก่อน ได้แต่บอกพ่อว่าไม่เป็นไร ได้มาเจอกันก็ดีใจแล้ว หลังจากนั้นตนได้เจอพ่ออีก 1 ครั้ง แล้วพ่อก็หายไปไม่เจอกันอีกเลย ทราบภายหลังว่าพ่อน่าจะป่วย จึงไม่ได้มาหา
เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ตนบ่นกับญา ๆ ว่าอยากเจอพ่อ รู้สึกคิดถึง คล้ายมีลางสังหรณ์บางอย่าง แต่ไม่รู้จะติดต่อพ่อที่ไหน กระทั่งทราบข่าวว่าพ่อเสียชีวิต จึงเดินทางมาเคารพศพพ่อเป็นครั้งสุดท้ายในวันนี้ ตนเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากบอกว่ารักพ่อมาก ขอให้พ่อไปสู่ภพภูมิที่ดี
