สหรัฐฯส่งมอบ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ ให้ไทย บุรีรัมย์ ชี้ควรนำกลับจังหวัด

27 พ.ค. 64

กรณีสหรัฐฯ ส่งมอบ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ และ ปราสาทเขาโล้น กลับคืนประเทศ"ทย โดยเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 สำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (Homeland Security Investigation – HSI) ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้จัดพิธีส่งมอบทับหลังปราสาทหนองหงส์และทับหลังปราสาทเขาโล้นคืนให้แก่รัฐบาลไทย

เผยภาพไอ้บังยิงไม่เข้า หลังดวลปืนกับปลัด นายอำเภอไม่เชื่อว่าหนังเหนียว 

ทั้งนี้ มีนาย David A. Prince หัวหน้าเจ้าหน้าที่พิเศษ HSI นครลอสแอนเจลิส นาย Tatum King หัวหน้าเจ้าหน้าที่พิเศษ HSI ซานฟรานซิสโก นางสาว Stephanie Hinds รักษาการอัยการสหรัฐฯ ประจำรัฐแคลิฟอร์เนียเขตภาคเหนือ นายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน นายมังกร ประทุมแก้ว กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส นายพิษณุ โสภณ กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก และนายฟาบิโอ จินดา กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน กรณีสหรัฐฯ ส่งมอบ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ และ ปราสาทเขาโล้น กลับคืนประเทศ"ทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 สำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (Homeland Security Investigation – HSI) ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้จัดพิธีส่งมอบทับหลังปราสาทหนองหงส์และทับหลังปราสาทเขาโล้นคืนให้แก่รัฐบาลไทย โดยมีนาย David A. Prince หัวหน้าเจ้าหน้าที่พิเศษ HSI นครลอสแอนเจลิส นาย Tatum King หัวหน้าเจ้าหน้าที่พิเศษ HSI ซานฟรานซิสโก นางสาว Stephanie Hinds รักษาการอัยการสหรัฐฯ ประจำรัฐแคลิฟอร์เนียเขตภาคเหนือ นายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน นายมังกร ประทุมแก้ว กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส นายพิษณุ โสภณ กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก และนายฟาบิโอ จินดา กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน 

อนึ่ง ทับหลังปราสาทหนองหงส์เป็นทับหลังจำหลักลายพระยมทรงกระบือ ในขณะที่ทับหลังปราสาทเขาโล้นเป็นทับหลังจำหลักลายพระอินทร์เหนือเกียรติมุข ทับหลังทั้งสองทำจากหินทราย และเป็นศิลปะสมัยลพบุรี (ศิลปะเขมรโบราณในไทย) มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 – 17 มีหลักฐานภาพถ่ายว่าทับหลังทั้งสองเคยประดิษฐานอยู่เหนือกรอบประตูปราสาทของปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และปราสาทเขาโล้น จ. สระแก้ว ตามลำดับ และคาดว่าน่าจะถูกลักลอบนำออกจากประเทศไทยในช่วงปี 2508 ซึ่งเป็นช่วงสงครามเวียดนาม

สำหรับการส่งมอบโบราณวัตถุที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ โบราณคดี และวัฒนธรรม คืนให้แก่รัฐบาลไทยและประชาชนไทยในครั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ขอแสดงความขอบคุณและชื่นชมการทำงานกว่า 3 ปี ของหน่วยงานที่สำคัญของฝ่ายสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (Homeland Security Investigation – HSI) และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ในการสืบสวนและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ตลอดจนการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานไทยและผู้เขี่ยวชาญด้านโบราณคดีของไทย จนประสบความสำเร็จในที่สุด การทำงานร่วมกันดังกล่าวของฝ่ายไทยและสหรัฐฯ เป็นสิ่งแสดงถึงความสัมพันธ์และมิตรภาพอันดีและยาวนานระหว่างไทยและสหรัฐฯ

ต่อมาวันนี้ (27 พ.ค.64)  ภายหลังจากอธิบดีกรมศิลปากรได้ออกมาเปิดเผยว่า  ทับหลังรูปพระยมทรงกระบือ  ที่ถูกคนร้ายโจรกรรม  ไปจากปราสาทหนองหงส์  อ.โนนดินแดง  จ.บุรีรัมย์   แล้วพบถูกนำไปจัดแสดงอยู่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา   กระทั่งภาคส่วนต่างๆ รวมถึงประชาชนได้มีการเคลื่อนไหวทวงคืน และรัฐบาลได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง   

โดยล่าสุดทางสหรัฐฯ จะทำการส่งทับหลังดังกล่าวคืนให้กับประเทศไทย โดยคาดว่าจะถูกส่งมาถึงประเทศไทยในวันที่ 28 พ.ค.นี้ จากกรณีดังกล่าวทั้งนักวิชาการและ ประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์  ต่างก็ดีใจที่รัฐบาลได้ติดตามทับหลังพระบรมทรงกระบือดังกล่าวกลับคืนมาได้สำเร็จ   เชื่อว่าการนำกลับมาครั้งนี้  ก็จะถูกบันทึกไว้ในประวัติหน้าใหม่เช่นกัน  เพราะทับหลังปราสาทหนองหงส์เป็นสมบัติของคนไทย   ควรที่จะกลับมาอยู่ที่เมืองไทย  เพื่อไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูและศึกษา  พร้อมกันนี้ยังเห็นว่าทับหลังพระยมทรงกระบือ  ควรที่จะนำมาประดิษฐานไว้ยังองค์ปราสาทหนองหงส์   ที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์เช่นเดิม  เพื่อประชาชนคนในพื้นถิ่นจะได้ร่วมกันอนุรักษ์ดูแลรักษา  หลังที่ได้สูญหายไปนาน  และเพื่อที่จะได้ร่วมกันส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอและจังหวัดต่อไปอย่างยาวนาน

ด้าน ผศ.ดร.สรเชษฐ์ วรคามวิชัย นักวิชาการเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ และอดีตกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์  กล่าวว่า  การได้ทับหลังที่ถูกโจรกรรมไปแสดงอยู่ต่างประเทศกลับประเทศไยครั้งนี้  เชื่อว่าน่าจะถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์หน้าใหม่อย่างแน่นอน   เพราะทับหลังชิ้นนี้เป็นของมีค่า  และอยากให้นำกลับมาไว้ที่ปราสาทหนองหงส์เช่นเดิม  เพื่อให้ประชาชนสำนึกและหวงแหนวัฒนธรรมดั้งเดิม  ว่าพื้นที่ดังกล่าวในอดีตเป็นชุมชนที่มีความเจริญรุ่งเรือง  และยังไม่มีการแบ่งแยกไทยและกัมพูชาออกจากกันแต่อย่างใด


ทางด้านประชาชนคนบุรีรัมย์  กล่าวตรงกันว่า  ทับหลังประสาทหนองหงส์ควรกลับมาอยู่ในพื้นที่  เพื่อจะได้กระตุ้นเตือนประชาชน  ว่าครั้งหนึ่งได้หายไปเพราะคนบางกลุ่มไม่เห็นความสำคัญของทับหลัง  และจากนี้ไปจะได้ร่วมกันอนุรักษ์และพัฒนาให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอและจังหวัด  สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นถิ่นต่อไป

สาวแม่ลูกอ่อน ทนกลิ่นเหม็นปริศนา นานกว่า 2 เดือน ก่อนเจอ ผ้าก๊อซ ในช่องคลอด คาดหมอคงลืม 

หมอบุรีรัมย์ เผยภาพนั่งซาเล้งตรวจโควิดเพราะจำเป็น อยากทำงานสนุกไม่เครียด 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ