กรณีเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านข้าวสาร ออกมาโพสต์ระบายความอัดอั้นตันใจต่อสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อกิจการจนทำให้อยากจบชีวิตตัวเอง เพราะเงินที่มีอยู่หมดไปกับการลงทุน แต่ต้องปิดโรงแรมเต็มรูปแบบตามมาตรการของภาครัฐนั้น
ล่าสุดวันที่ 26 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่ไปย่านข้าวสารเพื่อสำรวจบรรยากาศ โดยพบว่าถนนข้าวสารและถนนรามบุตรี ไม่มีคนเดินเหมือนซอยร้าง เพราะร้านค้าต่าง ๆ แม้แต่ร้านสะดวกซื้อก็พร้อมใจกันปิดกันหมด หลายร้านติดป้ายให้เช่าและเซ้งกิจการ ส่วนโรงแรมปิดแทบทั้งหมด เหลือแค่ไม่กี่แห่งเท่านั้น
ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับ น.ส.ภทรพรรณ บรรทัดพันธุ์ แม่บ้านโรงแรม เดอะมัลเบอรี่ (The mulberry hotel) ในซอยข้าวสาร ซึ่งยังคงเปิดรับลูกค้า เปิดเผยว่า ช่วงที่ไม่มีโควิด-19 ห้องพักทั้งหมด 68 ห้องถูกจองเต็มเกือบทุกวัน แต่พอมีโควิด-19 ระลอก 1 และ 2 ก็ยังพอมีลูกค้าบ้าง กระทั่งโควิด-19 รอบ 3 ลูกค้าหายไปหมดเลย อย่างเดือนนี้มีคนเข้าพักทั้งเดือนแค่ 2 ห้องเท่านั้น ทำให้เจ้าของโรงแรมเลิกจ้างพนักงาน จากเดิม 20 คน ตอนนี้เหลือแค่ 4 คนเท่านั้น ซึ่งค่าจ้างก็จ่ายเป็นรายวัน พนักงานจึงแค่มีพอใช้จ่ายในแต่ละเดือนเท่านั้น
นอกจากนี้ เจ้าของโรงแรม ยังได้ปรับลดราคาลงมาเยอะมาก ๆ ประมาณ 70% จากเดิมราคาห้องถูกที่สุดอยู่ที่ 2,600 บาท ปัจจุบันเหลือแค่ 800 บาท ส่วนราคาสูงสุดจากเดิม 5,000 บาท เหลือ 1,500 บาท
ทีมข่าวยังได้ไปคุยกับ คุณป้าอภิวรรณ หาญประสพวัฒน์ เจ้าของเกสต์เฮาส์แห่งหนึ่งย่านข้าวสาร โดยด้านหน้าตึกได้ติดป้ายขายกิจการ กล่าวว่า ช่วงโควิด-19 ทำให้กิจการย่ำแย่มาก ห้องพักของตนมีทั้งหมด 17 ห้อง แต่ก่อนเต็มทุกวัน ปัจจุบันไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียว ทำให้รายได้ต่อเดือนเหลือ 0 บาท อย่างช่วงโควิด-19 รอบแรกและรอบ 2 ก็ยังพอมีบ้าง แต่รอบ 3 หนักจริง ๆ
โชคดีที่กิจการของตนเป็นกิจการเล็ก ๆ ทำให้มีพนักงานดูแลแค่ 1 คน ส่วนค่าเช่าก็ไม่เสีย เพราะเป็นที่ของตัวเอง แต่ด้วยความที่สถานการณ์ย่ำแย่จริง ๆ จากปกติรายได้ต่อเดือนหลักแสน ตอนนี้เหลือ 0 บาท ก็เลยตัดสินใจขายกิจการ โดยตอนแรกตั้งราคาไว้ที่ 25 ล้านบาท แต่ก็ยังขายไม่ได้ จึงลดราคาลงมาเหลือ 18 ล้านบาท ก็ยังขายไม่ได้
