“อ.เจษฎา” ชี้ กินลำไยเป่าเครื่องวัดพบค่าแอลกอฮอล์ แนะดื่มน้ำก็หาย เข้าด่านได้ ตร.ไม่จับ (คลิป)

11 ส.ค. 61
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "เกาะสถานการณ์และอุบัติเหตุ" โพสต์คลิปวิดีโอสาธิตการกินลำไย 5 ลูก และเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ปรากฏว่ามีระดับแอลกอฮอล์ขึ้นนั้น
การสาธิตกินลำไยและวัดปริมาณแอลกอฮอล์
วันที่ 10 ส.ค. 61 รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า แอลกอฮอล์สามารถเกิดขึ้นได้จากผลไม้จำพวกที่มีรสหวาน ฉ่ำน้ำ เช่น ลำไย ลิ้นจี้ เงาะ และสับปะรด เป็นต้น ถ้าหากมีการตัดออกจากต้นแล้วนำมาเก็บไว้ ก็จะทำให้ผลไม้มีปฏิกิริยาเปลี่ยนให้มีแอลกอฮอล์เกิดขึ้นมาได้ แต่ปริมาณไม่มาก
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ถ้าเทียบกับพื้นฐานของการเป่าตรวจจับแอลกอฮอล์แล้ว การกินลำไยหรือผลไม้ที่มีรสหวานฉ่ำน้ำ ไม่ถึงเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เพราะรายละเอียดของกฎหมายคือ ห้ามผู้ขับขี่รถทุกประเภท ยกเว้นรถรางกับรถไฟ เมาสุราในขณะขับรถ และความหมายของเมาสุรา คือ มีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่าเมาสุราสามารถสั่งให้หยุดรถและสั่งให้เป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์เพื่อตรวจได้ แต่การกินลำไยที่ถูกตัดออกจากต้นมาทิ้งไว้ ไม่ถึง 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถึงจะกินเยอะแค่ไหนก็ตาม ส่วนวิธีการแก้ไขคือ หลังจากกินลำไยแล้ว ก็ให้กินน้ำตาม หรือกลั้วปาก แล้วพักไว้สัก 4-5 นาที แอลกอฮอล์ที่เกิดจากผลไม้ก็จะหายไป เพราะไม่ใช่แอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือดเหมือนการดื่มเหล้าหรือสุรา ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ เพราะเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่เคยรู้มาก่อน แต่ในกระบวนการของการตรวจจับแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลายปัจจัยที่ต้องดู ไม่ได้ดูแค่ปริมาณแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ยังมีการดูจากพฤติกรรมขณะนั้นด้วย รวมถึงถ้ามีแอลกอฮอล์จริง ก็จะได้กลิ่นด้วย แต่ถ้ากินลำไย หรือผลไม้ที่มีรสหวานฉ่ำน้ำมา แล้วเป่าเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่ก็จะมีวิธีการตรวจสอบ แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มั่นใจว่ากินผลไม้ เปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์ก็ไม่ถึง 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์แน่นอน

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ