วันที่ 8 ส.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายณรงค์ วรินทรเวช หรือ บ่าว ผู้ต้องหาในคดีร่วมฆ่านายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส และนางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย ที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุและจำลองการก่อเหตุ รวมถึงชี้จุดทิ้งปืนที่ป่าละเมาะ และจุดที่ใช้เป็นบ้านเช่าหลบหนีหลังก่อเหตุ นายบ่าวอ้างกับตำรวจชุดสอบสวนด้าวยว่า เสี่ยอ้วนเป็นคนชักปืน 2 กระบอกขึ้นมายิงสปาย
และฟอสก่อน จากนั้นเขาได้ยิงซ้ำด้วยปืนอีกกระบอกที่ถืออยู่ อีกหลายนัดจนทั้งคู่เสียชีวิต (อ่าน:
คุม “บ่าว” ทำแผน สารภาพยิง “สปาย-ฟอส” ซ้ำ หลัง “เสี่ยอ้วน” ลั่นไก – “เฉลิมเกียรติ” เผยมือปืนได้ค่าจ้าง 5 หมื่น)
โดย
พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย รองผู้กำกับการ กองกำกับการควบคุมฝูงชน 1 เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ที่เสี่ยอ้วนจะพกปืน 2 กระบอกติดตัว และใช้ปืนทั้ง 2 กระบอกนั้นยิงใส่เป้าหมายว่า เป็นเรื่องทั่วไป แต่การเลือกใช้ปืนขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ แต่ต้องได้มาโดยการจดทะเบียนถูกต้องและมีใบอนุญาตพกพา ซึ่งจากข้อมูลที่มี ไม่สามารถทราบได้ว่าปืนที่เสี่ยอ้วนและลูกน้องเลือกใช้เป็นปืนชนิดใด อาจจะเลือกใช้ปืนกระบอกใหญ่หรือกระบอกเล็กก็ได้
ซึ่งตามปกติของคนที่พกปืนจะเลือกใช้ตามความถนัด เช่น เลือกพกปืนลูกโม่ 1 กระบอกเป็นปืนหลัก ส่วนปืนสำรองเป็นปืนออโตกระบอกเล็ก หรือจะเลือกพกปืนออโตทั้ง 2 กระบอก เพราะง่ายต่อการใช้งาน คนที่เริ่มใช้ปืนแรกๆ จะเริ่มจากปืนลูกโม่ ก่อนขยับมาป็นปืนออโต
จากกรณีของเสี่ยอ้วนน่าเป็นคนที่ยิงปืนบ่อย ส่วนจะเรียนหรือหัดจากที่ไหนมาไม่สามารถบอกได้ ส่วนปืนออโตและปืนลูกโม่ การทำงานไม่แตกต่างกัน แต่โอกาสในการขัดข้องสามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่มีการดูแลรักษา แต่โอกาสขัดข้องของปืนลูกโม่จะค่อนข้างน้อย ขึ้นอยู่กับจังหวะและการเหนี่ยวไก ซึ่งสามารถทำต่อเนื่องได้ทันทีแต่ปืนออโตหากนัดแรกด้าน ต้องรีโหลดกระสุนใหม่โดยสไลด์ไปด้านหลัง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
พ.ต.ท.ศรายุทธ ยืนยันว่า จากข้อมูลไม่สามารถบอกได้ว่า เสี่ยอ้วนและลูกน้องมีความชำนาญในการใช้ปืนมากน้อยเพียงใด เพราะไม่ได้เห็นตอนยิง แต่คาดว่าน่าจะเป็นคนใช้ปืนเป็น เพราะสถานการณ์จริง เป้าที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้นิ่งเหมือนการยิงเป้ากระดาษ
ด้าน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการติดตามจับกุมตัวเสี่ยอ้วนว่า เสี่ยอ้วนผู้ต้องหา มี 2 ทางเลือกเท่านั้น คือ ทางตันกับทางตาย และยิ่งคนร้ายมีปืนด้วย ตำรวจจึงต้องการให้ผู้ต้องหามอบตัวดีที่สุด ส่วนข้อมูลที่คนร้ายหลบหนีไปที่ประเทศกัมพูชา อยู่ระหว่างการประสานขอความร่วมมือ ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
นายไอดินณภัทร บุญจนะ หรือ ดัน รุ่นพี่ที่เคยส่งสปายเข้าประกวดชนะเลิศธิดาท่าคันโท เปิดเผยว่า ตนรู้จักสปายตั้งแต่สปายยังเด็ก น้องเป็นคนน่ารัก นิสัยดี เข้ากับเพื่อนได้ง่าย โดยช่วงที่สปายเดินทางไปทำงานที่ภูเก็ต ตนก็ไม่ได้ถาม เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของสปาย รวมถึงสปายก็ไม่เคยมาเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสปายและฟอส ตนก็เชื่อว่าคงเป็นไปไม่ได้มากกว่าคำว่าเพื่อนสนิท เพราะฟอสยังคงมีนิสัยรักสวยรักงาม แต่งตัวเป็นผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการฆาตกรรมครั้งนี้ อาจเพราะความหึงหวง ที่คนยิงคิดว่าทั้ง 2 คน เป็นแฟนกัน อีกทั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการยิงคนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ตายไป โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร ดังนั้นหากจับตัวคนร้ายได้ครบแล้ว ตนก็จะดีใจ แม้ว่าจะมีกระแสข่าวบอกว่าคนสั่งการเป็นระดับเสี่ย แต่ตำรวจก็ดำเนินการได้โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพล และควรให้คนร้ายทั้งหมดมาขอขมาศพ และหลังจากนั้น ก็ควรส่งตัวตนร้ายไปรับโทษสูงสุดตามกฏหมาย
นายศศิธร เสมามิ่ง อาจารย์ของฟอส หรือ ปู่ฤาษีพรหมญาณ เปิดเผยว่า ฟอสเป็นเด็กผู้ชายที่มีนิสัยเบี่ยงเบนมาทางผู้หญิง หรือเป็นกะเทย ซึ่งกะเทยจะสนิทกับผู้หญิงมากว่าผู้ชายเป็นเรื่องธรรมดา และสามารถจับเนื้อต้องตัวผู้หญิงได้มากกว่าผู้ชาย แต่การจับจะไม่มีคำว่าเกินเพื่อน และนิสัยส่วนตัวของฟอส เป็นคนร่าเริงมาตั้งแต่เด็ก มีอัธยาศัยดี เป็นที่รักของทุกคน เวลามีงานบุญทุกคนก็จะให้ฟอสลำอยู่หน้าสุดเพราะตัวเล็ก
ส่วนกระแสข่าวที่มาระบุว่า ฟอสและสปายเป็นแฟนกัน ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของ 2 คน ตนตอบไม่ได้ว่าจริงหรือไม่ แต่เชื่อว่า กะเทยกับผู้หญิงก็มักจะอยู่ด้วยกันได้อยู่แล้ว ทั้งเวลาไปไหนมาไหนก็มักจะนอนห้องด้วยกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ประกอบกับ 2 คน ก็เป็นพี่น้องญาติเดียวกัน รู้จักสนิทตั้งแต่เด็กจนโต
นายศศิธร กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าที่ครอบครัวของสปายมีฐานะดีขึ้น สร้างบ้านอยู่อาศัยได้ดีขึ้น เกิดจากที่ฟอสเป็นคนแนะนำให้สปายรู้จักการทำงาน และฟอสก็เป็นบุคคลกว้างขวาง มีญาติทำงานอยู่ที่ภูเก็ต อยู่ต่างประเทศ จึงได้พาสปายไปรู้จักช่องทางการทำมาหากิน รวมถึงที่ทำงาน จนกระทั่งมีเงินส่งมาที่บ้าน ดังนั้นส่วนตัวเชื่อว่าการเริ่มต้นทำงานของสปาย จึงเป็นที่มาของการทำให้ฐานะที่บ้านดีขึ้นเหมือนทุกวันนี้ ประกอบกับธุรกิจของคุณพ่อสปาย ที่ขายรองเท้า ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างฐานะครอบครัว
ทั้งนี้ เมื่อทราบข่าวว่ามีการจับผู้ต้องหาได้เกือบครบแล้ว ส่วนตัวก็อยากให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ผู้ใดเกี่ยวข้องและมีส่วนกับการตายของฟอสและสปาย ก็ควรได้รับโทษสูงสุด เช่น เสี่ยอ้วน แม้ไม่ใช่คนลงมือด้วยตัวเอง แต่อยู่ในฐานะคนบงการทั้งหมด ก็ควรได้รับโทษสูงสุด และถูกประหารชีวิต ส่วนคนอื่นนั้น ก็ให้ได้รับโทษตามรูปแบบพฤติกรรม นอกจากนี้ ตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนทุกคนที่ทำให้คดีนี้มีความคืบหน้า