คดีพลิกเจ้าบ่าวยิงตัวตาย ช็อกสาวกุข่าวท้องใช้ภาพลูกกับฉี่ปลอม เจ้าตัวอ้างเพิ่งแท้ง (คลิป)

12 พ.ค. 64

จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุ นายศักดิ์ชัย หรือ ยิ้ว อายุ 32 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด 7.65 มม. ยิงศีรษะตัวเอง กระสุนเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขมับขวา ภายในห้องนอนบ้านชั้นเดียว ถูกเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากช่วงเช้ามีพิธีแต่งงานผูกข้อมือกัน และเจ้าสาวตั้งครรภ์อยู่ด้วยนั้น

954126676245

วันที่ 12 พ.ค. 64 นายเอกชัย ตันติศักดิ์ศรี พี่ชายคนโตของผู้ตาย ส่งหลักฐานให้ทีมข่าวดู ทั้งคลิปวิดีโอ และการจับพิรุธ น.ส.กนกพร จันทร์ประสพพร หรือ กิ๊ฟ น้องสะใภ้ เปิดเผยว่า ครอบครัวตนสูญเสียน้องชายไป ใจจริงตนเองไม่ได้อยากจะออกมาพูดอะไร แต่เมื่อเกิดประเด็นว่าอดีตน้องสะใภ้ตนอาจจะไม่ท้องจริง และไม่รับความจริง ตนจึงออกมาบอกกับสังคม เพราะก่อนหน้านี้ครอบครัวตนถูกด่าเยอะ

132216

เรื่องแรกตนเองยอมรับว่า น.ส.กิ๊ฟ คบหากับน้องชายตนเองจริง หลังจากจบงานศพ สิ่งที่ครอบครัวคิดคือเราคั้งใจดูแลหลานที่อยู่ในท้องของ น.ส.กิ๊ฟ ที่ผ่านมาครอบครัวก็ไม่เคยระแคะระคายว่าเขาจะไม่ท้อง ตนและครอบครัวคุยกันว่าเราต้องรับผิดชอบเรื่องหลาน

327929

หลังจากนั้น น.ส.กิ๊ฟ ก็โพสต์เฟซบุ๊กและสื่อตลอดว่าท้องอยู่ จนกระทั่งเมื่อ 3 พ.ค.64 น.ส.กิ๊ฟ ส่งรูปอัลตราซาวด์มาให้แฟนตนเองดูทางเฟซบุ๊ก แต่ตอนนั้นพวกตนดูแลรู้สึกแปลก เพราะว่าภาพอาจจะคัดลอกมา ปรากฎว่าตนเองไปดูในกูเกิล เจอภาพเดียวกันอยู่จริง พบว่าภาพนี้ถูกโพสต์ไว้ในกระทู้ของพันทิพย์ เป็นภาพอัลตราซาวด์ของสาวท้อง 5 สัปดาห์ โพสต์ไว้เมื่อปี 2557

839988

จากนี้น ทำให้ตนเองตัดสินใจเดินทางไปเจรจากับ น.ส.กิ๊ฟ สุดท้าย น.ส.กิ๊ฟ ยอมรับสารภาพว่าไปคัดลอกมา แต่ยังยืนยันว่าตัวเองท้อง ทำให้ครอบครัวไม่อยากจะเชื่อเรื่องท้องแล้ว ตนเองพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ จนกระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 8 พ.ค.64 คนที่เอาปัสสาวะไปให้ น.ส.กิ๊ฟ มายอมรับกับตนว่าเป็นคนเอาปัสสาวะไปให้กิ๊ฟเพื่อไปตรวจ เนื่องจากสาวรายนั้นท้องอยู่

305827

ตนเองได้นัดหมายกับญาติ พ่อ แม่ น้องสาว เพื่อไปเจรจากับ น.ส.กิ๊ฟ เพียงอยากให้ยอมรับความจริงเท่านั้น ตนต้องการให้ น.ส.กิ๊ฟ รับสารภาพ แต่ น.ส.กิ๊ฟดันไม่รับ และท้าให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล ทำให้ครอบครัวไม่ยอม จึงนัดกันไปตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งวันดังกล่าวตนเองถ่ายคลิปเอาไว้ด้วยช่วงที่เจรจากันที่บ้าน

637586

ในคลิปจะเห็นกิ๊ฟยืนโวยวาย พยายามชี้แจงเรื่องฉี่ว่าไม่ได้ไปเอาของคนอื่นมา และที่แขนซ้ายมีรอยเจาะเลือด อ้างว่าเพิ่งไปตรวจเอาหนังสือฝากครรภ์มา พร้อมยอมรับว่าภาพอัลตราซาวด์เอามาจากในอินเทอร์เน็ต อ้างว่ามีปัญหากับคน ๆ หนึ่ง จึงไปคัดลอกภาพมา โดยเจ้าตัวต้องการเอาชนะเท่านั้น

134694

จากนั้นวันที่ 9 พ.ค. 64 น.ส.กิ๊ฟ ติดต่อมาว่าให้ไปเจอที่โรงพยาบาล ซึ่งเมื่อตนเดินทางไปถึง ปรากฏแจ้งว่าผลตรวจปัสสาวะออกแล้วว่าท้อง ตนเองไม่ยอมรับ ตนเองไม่อยากจะเชื่อแล้ว จึงร้องขอให้ตรวจเลือด หรือตรวจภายใน สุดท้ายก็ยอมตรวจแต่ผลต้องรอ 7 วัน

จนกระทั่งเมื่อวานนี้ น้องสาว น.ส.กิ๊ฟ แชตมาบอกว่าเด็กในครรภ์ไม่แข็งแรงและแท้ง ทำนองว่ารู้ผลแล้ว ตนจึงเดินทางไปโรงพยาบาล สุดท้ายแพทย์เรียกตนและ น.ส.กิ๊ฟมารอฟังการตรวจ ซึ่งแพทย์ที่โรงพยาบาลก็แจ้งว่าผลตรวจเลือดพบว่าไม่ท้อง แต่ผลตรวจปัสสาวะบอกท้อง ตอนแรกหมอก็ยังรู้สึกขัดแย้ง แต่ตนเล่าอธิบายเหตุการณ์ให้ฟัง แพทย์จึงให้ยึดผลเลือดเป็นหลัก โดยในคลิปเสียง น.ส.กิ๊ฟ ระบุว่า ตนเองมีการตรวจฉี่มาแล้ว และกินยาขับเลือดไป 28 เม.ย. อาจจะขับเลือดไปแล้ว แต่ผลตรวจบอกไม่ได้ว่าท้องมาก่อนหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่ท้อง

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่า น้องชายตนได้คบกับ น.ส.กิ๊ฟ และเลิกลาไปเมื่อ 17 เม.ย. ฝ่ายหญิงมาบอกกับน้องชายตนว่าตั้งท้อง ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครอยากจะเชื่อ แต่ด้วยทั้งคู่คบกัน ครอบครัวก็พร้อมรับผิดชอบ ประกอบกับฝ่ายหญิงอ่างว่าจะฆ่าตัวตายโดยการกระโดดสะพาน จนตกลงผูกข้อไม้ข้อมือและมาเกิดเรื่องที่น้องชายตนยิงตัวตาย

201992

น้องชายเคยมาปรึกษาตนเองว่าอยากไปตรวจฝ่ายหญิงว่าท้องจริงไหม แต่เจ้าสาวไม่ยอมไปตรวจ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองไม่โทษใครทำให้น้องตนตาย เพราะน้องก็มีปัญหาหลายอย่าง วันเกิดเหตุผู้ตายยังมาปรึกษาตนเองตอนที่ผูกข้อมือเสร็จ มีการบ่นเหนื่อย และขับรถมาส่งตนที่บ้าน ก่อนที่ผู้ตายจะขับรถกลับบ้านและก่อเหตุยิงตัวเอง อีกทั้ง น.ส.กิ๊ฟยังมีการโพสต์ขอความช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ด้วยนั้น

239480

น.ส.เปิ้ล (นามสมมติ) หญิงตั้งครรภ์เจ้าของปัสสาวะ เปิดเผยว่า ตนเองยอมรับว่าฉี่ที่เอาไปตรวจผลที่ตนให้ น.ส.กิ๊ฟ ไปเป็นของตน และให้ไปทั้งหมด 3 ครั้ง จากที่ น.ส.กิ๊ฟ ตรวจมาทั้งหมด 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดที่ไปโรงพยาบาลเมื่อ 9 พ.ค. ตนเองไม่ทราบเอาฉี่ใครไป ส่วนตัวตอนแรกไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพราะตนไม่อยากมีตราบาป เหมือนตนเองช่วยให้ น.ส.กิ๊ฟ ฆ่าคน ๆ หนึ่งไป วันแรกที่ตนเองทราบข่าวว่านายยิ้วเจ้าบ้านฆ่าตัวตาย ตนเองทำอะไรไม่ถูก ตนเองเหมือนน้ำเต็มปาก ทำอะไรไม่ได้

995325

ทั้งนี้ ตนเองอยู่บ้านไม่ไกลจากบ้าน น.ส.กิ๊ฟ และตนตั้งท้องได้ 5 เดือนแล้ว เริ่มต้นคือน้องสาวของกิ๊ฟโทรมาหาตนเพื่อขอความช่วยเหลือ ทำนองมาขอปัสสาวะตน เนื่องจาก น.ส.กิ๊ฟมีปัญหากับแฟนเลิกลากัน และไปบอกฝ่ายชายว่าท้อง แต่ตัวเองไม่มั่นใจว่าท้อง จึงมาขอปัสสาวะตนเองไปตรวจ ตอนแรกตนเองไม่คิดอะไร ก็ให้ไป ส่วนตัวไม่คิดว่าเหตุการณ์จะบานปลาย จนกระทั่งวันที่ทั้งคู่ผูกข้อมือกันและมาเกิดเรื่องเจ้าบ่าวยิงตัวตายวันที่ 25 เม.ย. ตนเองก็ไปงาน ตนยังจำสีหน้าเจ้าบ่าวได้ เหมือนคนไม่อยากแต่งงาน ตอนนั้นก็รู้สึกผิดแล้ว

ส่วนตัวมองเป็นตราบาป ตนเองไม่เชื่อว่า น.ส.กิ๊ฟจะท้อง ตนคิดว่าที่กิ๊ฟทำไปเพราะอยากเอาชนะ ซึ่งตนเชื่อว่ากิ๊ฟรู้อยู่แก่ใจ เพราะเขาเคยมีลูกแล้ว 2 คน ส่วนการตรวจรอบที่ 4 ที่ไปตรวจกับโรงพยาบาล รอบนี้ตนเองไม่ทราบ ยอมรับว่าตัวเองกลัว และไม่คิดว่าเรื่องนี้จะทำให้คนตาย

451364

ทีมข่าวได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ น.ส.กนกพร จันทร์ประสพพร หรือ กิ๊ฟ ผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า ตนเองเตรียมจะแจ้งความเอาผิดฝ่ายครอบครัวอดีตสามี เพราะทำให้ตนเองเสียหายจากเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงแม้ครอบครัวฝ่ายชายจะต้องการเพียงความจริง ไม่ได้คิดเอาผิดทางกฎหมายกับตนก็ตาม ส่วนตัวเตรียมพูดคุยกับทนายความก่อน "ตนเองก็ยืนยันว่าตนเองเคยตั้งท้องจริง และปัจจุบันได้ยุติการตั้งครรภ์ไปแล้ว แพทย์ที่ไปพบมาเมื่อวานก็บอกแบบนั้น" ส่วนเรื่องขอฉี่คนอื่นมา ตนเองไม่ขอพูดถึง แต่ยืนยันว่าเคยท้องจริง

788009

ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนสมรสเป็นนิติกรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งการที่เจ้าบ่าวยินยอมที่จะแต่งงานเพราะถูกหลอกว่าท้องนั้น ถือว่าฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นถูกหลอกฉ้อฉล ทำให้การทำนิติกรรมเป็นโมฆียะกรรม คือเจ้าบ่าวสามารถบอกล้าง ยกเลิกการทำนิติกรรม บอกเลิกการแต่งงานและเรียกค่าสินสอดคืนได้ และฝ่ายเจ้าบ่าวสามารถฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายได้ กรณีที่ฝ่ายเจ้าบ่าวเสียเงินไปกับการจัดงานแต่งงาน

ส่วนการดำเนินคดีอาญากับเจ้าสาวในข้อหาเจตนาฆ่านั้นไม่สามารถที่จะดำเนินคดีได้ เพราะการที่เจ้าสาวหลอกเจ้าบ่าว ก็ไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าหรือรู้ล่วงหน้า หรือคาดหมายว่าเจ้าบ่าวจะฆ่าตัวตายได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส