หนุ่มบุกทวง 3 แสนหายตัวปริศนา แชตลึกลับโผล่อ้างถูกฆ่าฝังดิน เจอพิรุธลูกหนี้เผ่น (คลิป)

10 พ.ค. 64

ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง บันทึกภาพขณะนายสุขาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี ชาว อ.ลำทับ จ.กระบี่ ขับรถยนต์ เก๋งสีขาวยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน กน 6552 กระบี่ เข้ามาจอดที่หน้าอู่เพื่อมารับเพื่อนไปทำธุระด้วยกัน แต่เพื่อนไม่อยู่ที่อู่

106063

จากนั้นนายสุชาติได้หายตัวไปอย่างปริศนา ติดต่อไม่ได้นานร่วม 1 สัปดาห์ พร้อมกับทรัพย์สินติดตัว ซึ่งหายไปช่วงที่กำลังจะไปทวงเงิน 3 แสนบาทนั้น ลูกสาวและญาติแจ้งความแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

134392

วันที่ 10 พ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่บ้านของผู้สูญหาย บริเวณบ้านหมู่ 5 ต.ลำทับอ.ลำทับ จ.กระบี่ นางอารักษ์ ทับไทร หรือ กวาง อายุ 34 ปี  ลูกสาวของนายสุชาติ ผู้สูญหาย เปิดเผยว่า พ่อของตนเป็นคนดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร มีธุรกิจเปิดร้านชาบู อยู่ที่บ้าน และพ่อยังเป็นแกนนำม็อบเรียกร้องที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน

260948

โดยล่าสุด พ่อออกจากบ้านใน อ.ลำทับ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.64 ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 8.00 น. โดยขับรถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน กน 6552 กระบี่ โดยบอกกับตนว่าจะเข้าไปทำธุระในตัวเมืองกระบี่ พร้อมนำโฉนดที่ดินไป 2 ฉบับ และจะไปกู้เงินที่ธนาคารเอามาจ่ายค่าทำร้าน จำนวน 40,000 บาท

294006

อีกทั้งจะไปเก็บเงินกับบังฟิต เพื่อนพ่อที่ค้างเงินพ่ออยู่ 300,000 บาท ที่ยืมไปลงทุนธุรกิจยางพารา เพราะบังฟิตโทรศัพท์บอกให้เข้าไปเอาเงิน แต่ก่อนพ่อจะไปเอาเงิน พ่อได้แวะไปบ้านเพื่อนที่ชื่อใหม่ เพื่อหวังจะให้ไปเป็นเพื่อน แต่นายใหม่กลับไม่อยู่บ้าน

700774

ซึ่งจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านของนายใหม่ที่เปิดเป็นร้านซ้อมรถ จะสังเกตได้ว่าพ่อเดินลงจากรถมาเดินหานายใหม่ภายในร้าน แต่ไม่พบใคร หลังจากนั้น พ่อก็หายไปอย่างปริศนา

353660

ครั้งสุดท้ายที่สามารถติดต่อพ่อได้ คือช่วงที่พ่อโทรศัพท์กลับมาหาแม่เลี้ยง เมื่อช่วงประมาณ 12.00 น. บอกว่า "ให้แม่เลี้ยงเอากุญแจรถให้หลานด้วย หลานจะยืมรถไปบรรทุกปาล์ม" หลังจากนั้นช่วงเย็นทางครอบครัวก็ไม่สามารถติดต่อกับพ่อได้อีก ซึ่งปกติลักษณะนิสัยพ่อจะเป็นคนที่ติดต่อกลับบ้านตลอด ไม่ว่าจะไปไหน จะบอกให้คนในครอบครัวรู้ เพื่อไม่ให้คนในบ้านเป็นห่วง และมักจะกลับมานอนบ้านตลอด ถ้าหากไม่ไปเยี่ยมพี่สาวพ่อที่ จ.ภูเก็ต ตนจึงมีความกังวลว่า พ่อที่หายไปจะได้รับอันตราย เข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ลำทับ จ.กระบี่ ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.64 ที่ผ่านมา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่พบเบาะแส มีเพียงความคืบหน้าจากตำรวจว่าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของบังฟิต พบว่าวันที่ 3 พ.ค. พ่อเดินทางไปเอาเงินจากบังฟิตที่บ้านใน อ.อ่าวนาง จริง จำนวน 50,000 บาท ก่อนหายตัวไป ขณะนี้ตำรวจอยู่ในระหว่างดำเนินการติดตามคดี แต่มุ่งประเด็นไปที่เรื่องยาเสพติด

ส่วนนี้ตนยอมรับว่า พ่อของตนเคยมีประวัติติดคุกคดีตาเสพติดจริง เมื่อ 10 ปีก่อน ส่วนบังฟิตก็เคยมีประวัติติดคุกในคดีฆ่าคนตาย แต่ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะเป็นปัญหายาเสพติด แต่น่าจะเป็นเรื่องอื่น โดยเฉพาะเรื่องปัญหาที่ดิน อีกทั้งอาจจะมีปัญหาเรื่องหนีสิ้นที่ยืมติดค้างกันกับบังฟิตมากกว่า จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เร่งรัดในส่วนของคดีนี้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นห่วงพ่อที่หายไปนานกว่า 8 วัน ยังไม่สามารถติดต่อได้

710439titled

หลักจากที่พ่อหายตัวไป วันที่ 9 พ.ค.64 เวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีบุคคลปริศนาใช้เฟซบุ๊กปลอมที่ใช้ชื่อว่า "เสือหยบ คนลาว" ทักมาอ้างเป็นพลเมืองดีขอให้ข้อมูลว่า ตอนนี้พ่อตนเสียชีวิตแล้ว ถูกผู้ก่อเหตุ ยิงใส่จนเสียชีวิต และจุดไฟเผารถ ฝังดินทั้งรถทั้งคน เนื่องจากพ่อตนไปทวงเงินค่าหนี้ยาเสพติด ของผู้ที่มีอิทธิพลในพื้นที่ แต่คนในพื้นที่ไม่มีใครให้ข้อมูล และต่างช่วยกันปกปิด  ทำให้ตนรู้สึกมีความกังวล จึงอยากให้ตำรวจช่วยเร่งรัดคดีตามหาพ่อของตนให้พบโดยเร็ว

สุดท้ายนี้หากมีโอกาสได้พูดกับพ่ออยากบอกว่าให้พ่อรีบกลับบ้านหากทราบข่าว ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวเป็นห่วงพ่อมาก

781150

ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเพื่อนของบุคคลที่ผู้เสียชีวิตไปหาตามกล้องวงจรปิด หมู่ 8 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ นายบุญเลิศ พรหมชัยศรี หรือ ใหม่ อายุ 29 ปี เพื่อนรุ่นน้องของนายสุชาติ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายสุชาติมานานกว่า 2 ปี เท่าที่สัมผัสมานายสุชาติ เป็นคนดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร อีกทั้งไม่เคยพูดหยาบใส่ตนแม้แต่ครั้งเดียว แต่ถ้าใครไปทำอะไรให้แกโกรธจริง ๆ แกก็จะตัดขาด และไม่ยุ่งกับบุคคลคนนั้น สำหรับตนกับนายสุชาติเปรียบเสมือนเป็นพี่น้อง คอยช่วยเหลือกันมานานเวลาเดือดร้อน

927603

ส่วนบังฟิต ตนก็เพิ่งมารู้จักไม่นาน หลังนายสุชาติมาเล่าให้ฟังว่าบังฟิตเคยติดคุกร่วมกับนายสุชาติมาก่อนหน้านี้ เมื่อหลาย 10 ปีก่อน แต่ช่วงหลังบังฟิตขอร้องให้นายสุชาติช่วยไปกู้เงินธนาคารมาให้จำนวน 300,000 บาท เพื่อไปทำธุรกิจเกี่ยวกับยางพารา ด้วยความที่นายสุชาติเป็นคนรักเพื่อนมาก จึงยอมช่วย โดยที่ตกลงกันว่าจะไปหากู้เงินมาคืนใช้ให้ แต่ปรากฏว่าหลังจากที่นายสุชาติกู้เงินให้บังฟิตไป บังฟิตก็ไม่ยอมคืนเงินตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ นายสุชาติก็เลยโกรธโทรศัพท์ไปต่อว่าบังฟิต พร้อมทวงเงินที่ติดค้างกันไว้ แต่เจ้าตัวเกิดบ่ายเบี่ยงยังไม่คืน นายสุชาติเลยตัดสินใจเข้าไปหาบังฟิตที่บ้าน แต่เจ้าตัวไม่อยู่ เจอแต่พ่อของบังฟิต นายสุชาติเลยพูดขู่กับพ่อของบังฟิตว่าหากภายใน 1-2 วัน ไม่ยอมจ่ายเงินที่ติดค้างคืน นายสุชาติจะไปแจ้งความ ตนจึงไม่ทราบว่าสาเหตุดังกล่าว อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายสุชาติหรือไม่

948315

หลังจากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของบังฟิต ภายใน ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เปิดเป็นร้านขายของชำ พนักงานร้านขายของชำ ลูกน้องบังฟิต เผยว่า ตนมาทำงานได้ไม่นาน จึงไม่รู้ข้อมูลรายละเอียดอะไรมากนักเกี่ยวกับเจ้านาย แต่ตนยืนยันว่า ขณะนี้ตัวบังฟิต รวมไปถึงคนในครอบครัวไม่ได้อยู่บ้าน เนื่องจากออกไปทำธุระกัน

หลังจากนั้น ทีมข่าวพยายามสอบถามข้อมูลกับชาวบ้านในพื้นที่มากกว่า 10 หลัง แต่ทุกคนต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่รู้จักบังฟิต และไม่รู้ว่าเป็นคนนิสัยใจคออย่างไร อีกทั้งไม่ขอพูดหรือให้ข้อมูลรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับบุคคลคนนี้

217556

นางน้ำค้าง สิงห์พิลา อายุ 42 ปี ภรรยาของนายสุชาติ เผยว่า การหายตัวไปของสามี ตนได้ติดต่อครั้งหลังสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 3 พ.ค.64 หลังสามีโทรมาล่าสุดประมาณ 11.00 น. วันเดียวกันว่า "ให้เอากุญแจรถให้หลานด้วย หลานจะยืมรถไปบรรทุกปาล์ม" จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และตนติดต่อหาสามีอีกครั้งตอน 18.00 น. เพื่อจะบอกให้กลับบ้านมากินข้าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้สึกผิดสังเกต เนื่องจากส่วนใหญ่สามีจะไปไหน มักจะโทรบอกตนเสมอและจะติดต่อได้ตลอด

ส่วนเรื่องปัญหาส่วนตัว ตนจะไม่ทราบรายละเอียดอะไรมาก เพราะไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัวกัน แต่สามีเคยบ่นให้ฟังเรื่องเพื่อนยืมเงินไป ตัวสามีเองก็เครียดเพราะต้องหาเงินมาจ่ายค่าจ้างรถแบ็กโฮที่มาทำร้านชาบู จำนวน 40,00 บาท ก่อนหายไปสามีได้บอกว่า จะไปเอาเงินกับเพื่อนที่ยืมคืน แต่สามีกลับหายตัวไปอย่างปริศนา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็มีความรู้สึกเป็นห่วงในตัวของสามี เพราะหายไปนานกว่า 8 วัน แต่ยังไม่สามารถติดต่อสามีได้ ส่วนปมปัญหาที่เกิดขึ้น ตนมองว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องหนี้สิน ที่เพื่อนยืมไป หรือเป็นปมปัญหาเรื่องที่ดินที่สามีไปทำกับเพื่อน ๆ หรือไม่ตนก็ไม่ทราบ แต่ตนยังเชื่อว่าสามียังมีชีวิตอยู่ จึงอยากให้สามีกลับบ้าน เพราะทุกคนเป็นห่วง

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส